ผู้กุมอำนาจรัฐยังพยายามเดินสายหาเสียงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ข้ออ้างว่าไปเยี่ยมประชาชนที่ประสบภาวะอุทกภัยในหลายพื้นที่ ถุงยังชีพไปแจก แน่นอน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาจากงบประมาณ เงินภาษีของประชาชน ทุกบาททุกสตางค์
การเมืองไทยนิยมใช้เงินของคนอื่น ไม่จำเป็นไม่ลงทุนด้วยเงินของตัวเอง ในช่วงฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้ง เงินจะไหลมาจากกลุ่มทุนต่างๆ ซึ่งหวังผลประโยชน์ตอบแทนในรูปแบบของโอกาสการทำธุรกิจ สัมปทาน โครงการของรัฐสารพัด
เรียกว่าได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ยิ่งเป็นฝ่ายกุมอำนาจรัฐ และมีโอกาสได้อยู่ต่อ ยิ่งไม่มีปัญหาในการระดมทุนสู้ศึกเลือกตั้ง กลุ่มทุนรู้ดีว่าควรลงทุนการเมืองกลับกลุ่มไหน แต่ก็ยังเจียดให้กลุ่มฝ่ายค้านบ้าง เผื่อผลของการแข่งขันพลิก นี่เป็นการไม่ก่อศัตรู
กลุ่มกุมอำนาจรัฐยังแสดงให้เห็นความมั่นใจว่าจะได้อยู่ต่อ เพราะได้คุมกลไกต่างๆ หน่วยงานของรัฐ ข้าราชการที่ฝักใฝ่การเมืองเพื่อหวังก้าวหน้า เจ้าหน้าที่ตำแหน่งสำคัญ ระดับปลัด แบะท่าว่าจะเล่นการเมืองก่อนเกษียณอายุด้วยซ้ำ
บางรายฝันหวานว่าหลังเกษียณจากปลัด จะได้ตำแหน่งระดับรัฐมนตรี เป็นการก้าวกระโดดเพื่อยังคงรักษาอำนาจการควบคุมหน่วยงานที่ตัวเองเคยเป็นใหญ่ การเมืองน้ำเน่าบ้านเราไม่คำนึงถึงคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ ผลงาน
ขอเพียงแต่ว่าจะทำประโยชน์ให้ผู้กุมอำนาจรัฐ และตัวเองพร้อมจะรับใช้อย่างไรต่อไป เป็นการประสานผลประโยชน์เพื่อตัวเองและพวกพ้อง ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชนซึ่งอยู่ในสภาวะถูกทอดทิ้ง ได้แต่เศษเนื้อข้างเขียงมาโดยตลอด
เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่การกบฏยึดอำนาจรัฐโดยคณะทหารในปี 2475
มองย้อนไปกว่า 7 ปี จากผลพวงของการรัฐประหาร และการกุมอำนาจรัฐโดยทหารเกษียณกลุ่มเดียว พยายามสร้างเครือข่ายและฐานอำนาจ อยู่โดยไม่คิดปฏิรูป บริหารบ้านเมือง แต่ละวันผ่านไปมีแต่ความเสื่อมโทรมทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
ซ้ำร้ายการทุจริต คอร์รัปชันยังอยู่ในอัตรากว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ทั้งๆ ที่มีการจัดฉากสร้างภาพว่าจะตั้งใจปราบปรามการทุจริต ผลที่ตามมานอกจากการโกงกินไม่ลดลง ยังมีการคอร์รัปชันอำนาจ การทุจริตสารพัด กินหัวคิว ทวนน้ำ ตามน้ำ ต่อเนื่อง
ทำให้เห็นว่าการเมืองน้ำเน่าบ้านเราเป็นช่องทางสำหรับนักแสวงโชคทางการเมือง นั่นคือนักเลือกตั้ง และนักตีกิน ชุบมือเปิบโดยระบบที่เอื้ออำนวย เช่นระบบปาร์ตี้ลิสต์ซึ่งเหมาะสำหรับพวกสีเทาได้ซุกตัวแฝงเร้นเข้ามาโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง
การเมืองยังได้เห็นความสามานย์ด้วยการเขียนรัฐธรรมนูญมีเนื้อหา เงื่อนไขวิปริต ไม่ส่งเสริมประชาธิปไตย ประชาชนไม่มีโอกาสได้เลือกผู้นำประเทศ ซึ่งไม่ต้องถูกบังคับให้ผ่านการทดสอบความนิยม นั่นคือ ต้องผ่านการเลือกโดยประชาชน
เป็นการเมืองที่เอาใครก็ได้ นายเบื๊อก นายเส็งเคร็ง มาเป็นผู้นำ ถ้ามีเสียงสนับสนุนในรัฐสภาเพียงพอ ตามเกมที่กำหนดไว้ และไม่มีระบบตรวจสอบ การลงโทษในกรณีที่สร้างความเสียหาย ถึงขั้นหายนะ หรือเป็นรัฐล้มเหลว
แต่ทั้งหมดจะโทษนักเลือกตั้ง กลุ่มสามานย์ข้างเดียวไม่ได้ ต้องโทษคนที่เลือกพวกนี้เข้ามา นั่นคือประชาชนกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ต้องคิดอะไรมาก นอกจากผลตอบแทนหรือความหวังว่าจะได้รับผลตอบแทน ซึ่งเลวร้ายกว่าเศษเนื้อข้างเขียง เศษเงิน
เทียบไม่ได้กับผลประโยชน์ที่กลุ่มการเมืองสามานย์ได้กอบโกยจากทรัพย์สินแผ่นดินและเงินภาษีของประชาชน และความเสียหายยากต่อการเยียวยา ทั้งในรูปแบบของการสร้างหนี้สินพอกพูนต่อเนื่อง ให้เป็นภาระของประชาชนต้องชดใช้
เป็นการเมืองที่ไร้จิตสำนึก ไร้ยางอาย ไร้ความรับผิดชอบ กลุ่มการเมือง นักเลือกตั้งเป็นเหมือนองค์กรอาชญากรรม แหล่งซ่องสุมของทุรชนหลากหลายชนิด สุมหัว รวมตัวกันเข้ามากุมอำนาจ จากนั้นก็ปล้นทรัพย์สินแผ่นดินด้วยสภาวะรัฐล้มเหลว
ความเสียหายเชิงโครงสร้างต่อเนื่องในช่วง 7 ปีกว่าที่ผ่านมา และพวกกุมอำนาจได้แสดงความอหังการ กล้าประกาศว่าจะยังอยู่อีกอย่างน้อย 1 สมัย โดยไม่สำนึกว่าได้สร้างความทุกข์ยากให้ประชาชน แบกหนี้ครัวเรือนมากจนติดอันดับโลก
เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็อย่าได้หวังว่าประเทศไทยจะมีอนาคตที่ดีขึ้น ตราบใดที่กลุ่มกุมอำนาจปัจจุบันจะได้อยู่ต่อไป หรือไม่ว่ากลุ่มใดในกระบวนการเมืองที่เป็นอยู่ได้กุมอำนาจ สภาวะก็จะยังเป็นการเมืองด้อยพัฒนา มุ่งหาผลประโยชน์ส่วนตนเหมือนเดิม
การเมืองไทยจึงไม่มีโอกาสจะสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านที่จะสร้างความหวังว่าสภาวะจะดีขึ้น เพราะคนดีมีฝีมือจะถูกระบบสามานย์สกัดกั้น การเมืองที่ต้องใช้เงินซื้อเสียง เล่ห์กล เกมสกปรก เช่น แบล็กเมล์ จับตัวประกัน สารพัดความชั่วร้าย
ยิ่งองค์กรอิสระไม่ได้แสดงให้เห็นความเป็นอิสระ ความน่าเชื่อถือศรัทธาของประชาชน หน่วยงานของรัฐเน้นการรับใช้ผู้กุมอำนาจ ประชาชนจึงไม่มีความหวังในระบบว่าจะสร้างความเที่ยงธรรม หรือสนามการแข่งขันที่มีความเสมอภาคกัน
ตราบใดที่ผู้นำกองทัพแต่ละรุ่นยังเข้าใจผิด คิดว่าต้องสนับสนุนรัฐบาล โดยเฉพาะเป็นยุคที่ทหารนอกราชการเป็นผู้กุมอำนาจด้วยแล้ว กลุ่มนักเลือกตั้งพลเรือนแทบไม่มีโอกาสได้ต่อรอง หมดโอกาสคนดีจะเข้ามาและเสี่ยงต่อการรัฐประหาร
ดังนั้น คนไทยจะต้องอยู่ในปราศจากความหวังว่าการเมืองสามานย์ระบบปัจจุบัน คณะปัจจุบัน จะทำให้ประเทศมีอนาคตและความรุ่งเรือง บ้านเมืองมีแต่จะเสื่อมโทรมล้าหลัง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา จะถูกเพื่อนบ้านแซงหน้า
ไม่มีทางออก ทางเลือก ตราบใดที่กลุ่มปัจจุบันอยู่กุมอำนาจต่อไป