ไม่ว่าจะชื่นชอบหรือขมขื่นบนกองทุกข์อย่างไรก็ตาม ชาวอัฟกันต้องเริ่มปรับแนวทางชีวิตให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมภายใต้กฎเข้มกำหนดโดยรัฐบาลตอลิบาน ซึ่งเริ่มต้นการบริหารประเทศอย่างเป็นทางการสัปดาห์นี้ เมื่อธงตอลิบานถูกชักเหนือทำเนียบประธานาธิบดี
เป็นชีวิตที่ต้องเผชิญกับความขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคแทบทุกอย่าง เมื่อสภาวะเศรษฐกิจที่เกือบล่มสลาย ประชาชนต้องเข้าคิวหน้าธนาคารเพื่อกดเงินหวังยังชีพท่ามกลางความยากลำบาก ข้าราชการ พนักงานของรัฐไม่ได้รับเงินค่าจ้างหลายเดือน
องค์การอาหารของสหประชาชาติรายงานวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ครอบครัวชาวอัฟกันมากถึง 93 เปอร์เซ็นต์ไม่มีอาหารเพียงพอสำหรับการบริโภค ภัยแล้งได้ซ้ำเติมภาคเกษตร ทำให้ผลผลิตของข้าวสาลีซึ่งใช้เป็นอาหารหลักได้ลดลงมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์
มีการประเมินว่าประชาชนอัฟกันจะอยู่ในสภาพยากจนในอีกไม่ช้าเพราะวิกฤตด้านเศรษฐกิจเรื้อรัง ราคาสินค้าได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวพร้อมทั้งขาดแคลน รัฐบาลตอลิบานจะต้องแข่งกับเวลาในการหาทรัพยากรเพื่อบริหารประเทศ ก่อนเศรษฐกิจจะหายนะ
ที่สำคัญ รัฐบาลตอลิบานอยากได้รับการรับรองจากสหประชาชาติ และกลุ่มประเทศตะวันตกเพื่อเข้าร่วมอยู่กับประชาคมโลก แต่การตั้งรัฐบาลสายเหยี่ยว หัวรุนแรงบริหารประเทศจะทำให้เกิดความยากลำบากในการได้รับเงินจากการถูกอายัดในหลายประเทศ
ชาวอัฟกันจะต้องยอมรับชะตากรรมภายใต้ตอลิบาน เพราะไม่มีหนทางอื่นใดที่จะรอดพ้นได้ เว้นแต่จะลุกฮือขึ้นทั่วประเทศ เสี่ยงตาย ไม่ยอมรับ แต่โอกาสเป็นไปได้ยาก
นี่เป็นสภาวะจำยอม เมื่อจำเป็นต้องอยู่ภายใต้กฎเข้มของตอลิบานซึ่งใช้กฎชารีอะห์ของอิสลามเป็นหลักในการบริหารประเทศ สิทธิเสรีภาพที่เคยมีช่วง 20 ปีของรัฐบาลที่ถูกค้ำจุนไว้โดยสหรัฐฯ ไม่เหลือ หลายอาชีพเป็นอันตรายเสี่ยงถูกลงโทษเพียงเพราะทำหน้าที่
แต่ยังมีชาวอัฟกันไม่ยอมรับการปกครองของตอลิบาน นับตั้งแต่การยึดประเทศได้ ตอลิบานเผชิญกับการเดินขบวนทั่วประเทศ เรียกร้องให้มีสิทธิเสรีภาพสำหรับประชาชนทั่วไปและสตรีซึ่งถูกลิดรอนสิทธิอย่างมาก แต่ถูกตอบโต้อย่างหนักโดยตอลิบาน
สหประชาชาติรายงานว่าการประท้วงที่ผ่านมา มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย โดยตอลิบานใช้กระบอง แส้เฆี่ยน รวมทั้งการยิงโดยใช้กระสุนจริงเพื่อปราบปรามผู้เดินขบวน
รายงานของสหประชาชาติได้เรียกร้องตอลิบานให้หยุดยั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชน การจับกุมคุมขัง และการปราบปรามการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ
ที่ผ่านมา กลุ่มสตรีได้เดินขบวนบนท้องถนน เรียกร้องสิทธิต่างๆ กำลังพลตอลิบานไม่ยั้งมือในการลงโทษโดยใช้การเฆี่ยนตีสตรี ซึ่งถูกมองว่าเป็นเพศด้อยสิทธิภายใต้ตอลิบาน สื่อมวลชนโดนจับกุม ทุบตี ซ้อม โดนกระบองไฟฟ้าจี้ ก่อนโดนปล่อยตัว
ตอลิบานควบคุมโรงพัก ทำหน้าที่จับกุมคุมขังสอบสวนโดยไม่ต้องแจ้งข้อหา สื่อมวลชนหลายคนได้แสดงบาดแผล ร่องรอยฟกช้ำเพราะถูกทำร้ายบนสถานีตำรวจหลังจากโดนจับกุมขณะทำข่าวสตรีประท้วง เดินขบวนและถูกทุบตีบนถนน
องค์กรสหประชาชาติได้เรียกร้องรัฐบาลตอลิบานให้หยุดการกระทำที่โหดร้าย ใช้ความรุนแรงกับประชาชน แต่ไม่ได้รับความสนใจ เพราะตอลิบานคืออำนาจสูงสุด
ใช่ว่าตอลิบานจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากชาวอัฟกัน มีประชาชนส่วนหนึ่งเห็นชอบกับกฎเข้ม ทั้งยังมีการเดินขบวนเรียกร้องให้บังคับใช้กฎอย่างเข้มงวด นั่นเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบกับแนวทางอิสลามที่ถูกมองว่าเป็นพวกหัวรุนแรง ปฏิเสธโลกทันสมัย
ล่าสุดกระทรวงศึกษาของรัฐบาลตอลิบานได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ให้สตรีมีสิทธิได้เรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย อยู่ในห้องเดียวกันกับนักศึกษาชาย แต่ต้องมีม่านกั้นกลาง ห้ามพูดคุยกัน อาจารย์ที่สอนมีทั้งหญิงและชาย แต่มีกฎแยกเรียนต่างหาก
ถ้าเป็นอาจารย์ชาย สอนนักศึกษาหญิง จะต้องมีม่านกั้น ไม่ให้เห็นหน้าตา ตอลิบานอ้างว่าจะมีเทคโนโลยีสนับสนุนไม่ให้ฝ่ายใดต้องเสียเปรียบ และยังรับประกันว่าประเทศจะมีอาจารย์สตรีเพียงพอสำหรับการสอนระดับมหาวิทยาลัย
สหประชาชาติเตือนว่าจะเกิดความสูญเสียด้านการศึกษาหลายรุ่นจากนี้ไป
รักษาการรัฐมนตรี อับดุล บากี ฮักกานี ประกาศว่าจะมีการพิจารณาทบทวนหลักสูตรต่างๆ สำหรับการศึกษาเฉพาะสตรี สภาวะเช่นนี้แตกต่างจากยุคตอลิบานบริหารประเทศระหว่างปี 1996-2001 ซึ่งสตรีถูกห้ามไม่ให้เรียนระดับมัธยมและอุดมศึกษา
ก่อนตอลิบานยึดประเทศครั้งนี้ การศึกษาในประเทศเป็นแบบสหศึกษา ทั้งชายและหญิงสามารถเรียนปนกันในชั้นเดียวกัน ไม่มีกฎเข้มเรื่องการแต่งกาย ภายใต้รัฐบาลตอลิบาน ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป และอ้างว่าชาวมุสลิมต้องยอมรับกฎของชารีอะห์
มีความกังวลว่ากฎใหม่อาจปิดกั้นการศึกษาระดับอุดมศึกษาสำหรับสตรี เพราะมหาวิทยาลัยไม่มีความพร้อมในการสอนแบบแยกเพศนักศึกษา ฮักกานียืนยันว่าจะจัดหาทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็น รวมทั้งทางเลือกอื่นๆ ในกรณีขาดแคลนอาจารย์สตรี
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับขีดความสามารถและความพร้อมของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง
ในระดับประถมและมัธยม เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของมุสลิมในการแยกเรียนระหว่างเพศชายและหญิง ภายใต้กฎตอลิบาน นักเรียนนักศึกษาหญิงจะต้องคลุมผ้าฮิญาบ แต่ฮักกานียังไม่ลงรายละเอียดว่าจะยอมให้คลุมศีรษะหรือรวมทั้งปิดบังใบหน้าด้วย
ด้านหลักสูตร ฮักกานีเปิดเผยว่าวิชาต่างๆ สอนในมหาวิทยาลัยจะเน้นพื้นฐานของอิสลาม ในด้านคุณค่าความเป็นชาติและประวัติศาสตร์ แต่นักศึกษาเรียนสำเร็จแล้วก็จะมีความรู้ ความสามารถโดยรวมในการแข่งขันกับมหาวิทยาลัยในประเทศอื่นๆ ด้วย
เวลาจะบ่งชี้ว่าชาวอัฟกันจะทนกับการปกครองของตอลิบานได้นานหรือไม่