xs
xsm
sm
md
lg

อะไรนักหนากับบ้านประยุทธ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ



กลายเป็นช่วงเย็นเกือบทุกวันจะเกิดเหตุปะทะกันที่แยกดินแดงระหว่างตำรวจควบคุมฝูงชนกับสิงห์มอเตอร์ไซค์ ซึ่งดูเหมือนฝ่ายที่ซีเรียสจะเป็นฝั่งตำรวจ ในขณะที่สิงห์มอเตอร์ไซค์ดูจะเป็นเรื่องที่สนุกสนานท้าทาย

สิงห์มอเตอร์ไซค์ก็คือเด็กแว้นซึ่งเป็นคู่ปรับกับตำรวจอยู่แล้ว ตำรวจมีเครื่องมือคือแก๊สน้ำตา รถน้ำ กระสุนยาง ในขณะที่สิงห์มอเตอร์ไซค์ มีก้อนหิน อิฐ ท่อนไม้ หนังสติ๊ก ประทัดยักษ์ พลุไฟ ระเบิดขวด ระเบิดปิงปอง และปืนจริง ฯลฯ พวกเด็กแว้นนั้นพร้อมบวกอยู่แล้วเมื่อเจอกับตำรวจอริเก่าแบบนี้ เพราะรู้สึกว่าตัวเองถูกข่มเหงจากฝ่ายตำรวจบนท้องถนนมานาน การได้ท้าทายกับอำนาจรัฐจึงเป็นเรื่องที่สนุก

พวกเด็กแว้นแม้จะเป็นวัยรุ่นแต่ก็ไม่ใช่กลุ่มนักเรียนนักศึกษาลูกของชนชั้นกลางที่อินกับม็อบ เมื่อถึงเวลาเย็นย่ำก็รับรู้กันว่ามาเจอกันที่จุดนัดหมายสมรภูมิดินแดง ทั้งมาจากฝั่งอนุสาวรีย์ และฝั่งดินแดงซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในแฟลตโดยมีชาวบ้านแถวนั้นเป็นแนวร่วม

พวกม็อบ แกนนำม็อบบางคนแม้ไม่อยากให้เด็กพวกนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการชุมนุม เพราะรู้ว่า พวกนี้เน้นใช้ความรุนแรงอย่างเดียว ไม่ได้มีจุดเป้าหมายจะเรียกร้องประชาธิปไตยหรืออะไร แต่ก็แอบดันหลังอยู่เพราะมีศัตรูเดียวกันคืออำนาจรัฐ

ถ้าเราติดตามการรายงานสดตามไลฟ์ต่างๆ ก็จะเห็นว่า ม็อบไม่ได้มาอย่างสันติแต่เตรียมพร้อมจะบวกกับตำรวจ พร้อมจะทุบทำลายข้าวของของทางราชการและเผา เป็นพวกอนาธิปไตย แต่แม้พวกม็อบไม่อยากให้พวกเด็กแว้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวเอง ด้านหนึ่งก็แอบลุ้นให้เด็กพวกนี้ตะลุยไปเรื่อยๆ เพื่อให้เห็นว่าบ้านเมืองกำลังเกิดการจลาจลเกิดมิคสัญญี

เราเห็นชัดว่าสื่ออย่าง The reporter ของแยม ฐปณีย์ กับ voice ของโอ๊ค พานทองแท้ เป็นสื่อที่เกื้อหนุนม็อบฝั่งทีวีโอ๊คนั้นชัดเจนอยู่แล้ว แต่ของแยม ฐปณีย์ก็ขำดีเมื่อนึกถึงเธอมักได้รับเชิญไปพูดคุยถึงการทำงานของสื่อมืออาชีพอยู่บ่อยๆ วันหนึ่งผมนั่งดูเธอไลฟ์สดที่แยกดินแดง ตอนนั้นม็อบรุมกระทืบกันเองจนคนหนึ่งกองร่วงลงไปกับพื้น แต่หลายเท้ากับยังกระหน่ำไปบนร่างที่บอบช้ำนั้น ฐปณีย์เงียบเสียงบรรยายทันทีไม่บอกเล่าว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ก่อนค่อยๆ เบี่ยงกล้องไปทางอื่น ซึ่งไม่ใช่วิสัยของสื่อมืออาชีพแน่นอน

และหลายครั้งที่เห็นเด็กแว้นเข้าไปเผาป้อมหรือเผารถของตำรวจ แม้กล้องจับอยู่ชัดเจน เธอก็ละเว้นที่จะบรรยายเหตุการณ์นั้น จริงเหตุการณ์แบบนี้ตำรวจสามารถเรียกสื่อไปเป็นพยานได้เลยเพราะอยู่เห็นเหตุการณ์ชัดเจน

ดังนั้น พวกแกนนำม็อบและพวกที่อยู่ข้างหลังม็อบ แม้ไม่อยากให้เด็กแว้นพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของม็อบ แต่ก็เชียร์ให้พวกนี้ก่อกวนกับตำรวจทุกวันเพื่อให้เกิดการปะทะกันกลายเป็นสภาพอนาธิปไตย เพื่อให้เห็นว่า อำนาจรัฐกำลังล้มเหลวไม่สามารถปกครองได้เกิดเป็นสภาพจลาจลเกิดขึ้นทุกวันในประเทศ ที่สำคัญพวกนี้รอให้เกิดความรุนแรงขึ้นโดยคาดหวังว่าจะให้มีพวกเด็กแว้นบาดเจ็บล้มตายเพื่อจะเอามาประณามรัฐว่าเป็นฆาตกร

ดังที่เราเห็นพรรคก้าวไกลออกมาทั้งพรรคเมื่อมีวัยรุ่นคนหนึ่งถูกกระสุนจริงซึ่งไม่รู้ว่า เป็นการกระทำของใคร ในขณะที่ตำรวจอ้างว่า ไม่ได้ใช้กระสุนจริงซึ่งคงต้องพิสูจน์วิถีกระสุนแต่ตามสถานการณ์แล้วก็คงยากที่จะพิสูจน์ว่าเป็นการกระทำของฝ่ายไหน ยกเว้นโชคดีจะมีกล้องวงจรปิดแถวนั้น แต่สำหรับพรรคก้าวไกลแล้วมันมีประโยชน์มากที่พวกเขาจะเอาเรื่องนี้มาขยายผลทางการเมือง เหมือนกับอาหารอันโอชะ

คำถามว่าเมื่อภาพที่ออกมานั้นไม่ได้ส่งผลดีต่อบ้านเมือง และแม้ถ้าสู้กันจริงๆฝ่ายที่กุมความได้เปรียบก็คือตำรวจหรือฝั่งอำนาจรัฐ แต่ผมคิดว่ารัฐนั่นแหละเป็นฝ่ายแพ้ เมื่อภาพแบบนี้เกิดเป็นข่าวไปต่างประเทศทุกวัน องค์กรต่างๆ ก็มักจะออกมาหนุนฝ่ายประชาชนมากกว่าอำนาจรัฐ แม้ความจริงฝ่ายที่ต้องการมีเรื่องและเริ่มใช้ความรุนแรงอาจจะเป็นฝั่งที่ก่อหวอดก็ตาม

แต่ถามว่าฝ่ายรัฐหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นได้ไหม ดูเหมือนอาจจะยาก เพราะฝ่ายเด็กแว้นก็จะยกพวกไปยั่วยุทุกวันเพื่อให้ตำรวจใช้กำลังเข้าปราบปราม อย่างที่ว่าคือมันเป็นเรื่องสนุกและท้าทายของช่วงวัย ถ้าพวกเด็กแว้นยกกำลังไปแบบนั้นตำรวจก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้ จึงดูเหมือนว่าการปะทะกันของสองฝ่ายจึงเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยง

ในขณะที่ผมคิดว่าฝ่ายรัฐสามารถที่จะหลีกเลี่ยงความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกวันที่สมรภูมิดินแดงได้ ถามว่าฝ่ายรัฐใช้กำลังตำรวจปกป้องอะไรแถวนั้น คำตอบที่รู้กันก็คือ การปกป้องบ้านพักของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อยู่ในค่ายกรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต

แล้วตำรวจกลัวอะไรกลัวม็อบจะเคลื่อนไปหน้าค่ายทหารที่มีบ้านพักของพล.อ.ประยุทธ์อยู่ภายในหรือ จึงต้องตั้งตู้คอนเทนเนอร์และใช้กำลังสกัดอย่างแน่นหนา

แต่ถามจริงๆ เถอะว่า ถ้าม็อบหรือเด็กแว้นสามารถไปถึงหน้าราบที่ 1 ได้พวกเขาจะทำอะไร โอเคละเราอาจจะยังไม่รู้เพราะยังไม่เกิดขึ้น แต่ก็คงพอเดาได้ว่าพวกเขาก็ต้องไปละเลงสีหรือทำอะไรให้เปรอะเปื้อนเหมือนกับที่ทำในทุกสถานที่ไป มากกว่าการแสดงในเชิงเนื้อหาของการมุ่งหวังเพื่อจะเรียกร้องประชาธิปไตยหรืออะไร

เพราะเด็กพวกนี้จริงแล้วไม่มีอะไรที่จะสื่อสารเลย แม้แต่แกนนำม็อบเราไม่เคยเห็นพวกเขาปราศรัยที่เป็นเรื่องเป็นราวแบบแกนนำม็อบยุคก่อนๆ นอกจากนานครั้งจะหยิบกระดาษที่เขียนมาอ่านหรือจากบันทึกในโทรศัพท์ด้วยข้อความสละสลวยเหมือนมีการประดิดประดอยมา

ส่วนตัวผมจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องตั้งตู้คอนเทนเนอร์ที่สกัดบนถนนที่มุ่งไปหน้าราบที่ 1 เลย ไม่ต้องใช้กำลังตำรวจจำนวนมากทุกวันเพื่อปกป้องบ้านของพล.อ.ประยุทธ์ที่อยู่ลึกเข้าไปในค่ายทหาร ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในแต่ละวันที่ไม่รู้สูญเสียไปวันละเท่าไหร่ ก็ปล่อยให้พวกเขาไปถึงหน้าค่ายทหารเถอะครับ ถ้าอยากจะไป ผมยังนึกไม่ออกว่าพวกเขาจะทำอะไรได้มากกว่าพฤติกรรมที่พวกเขาเคยทำ

ถ้าทำอย่างนั้นได้ภาพการปะทะรายวันระหว่างตำรวจกับเด็กแว้นก็จะไม่เกิดขึ้นเลย เพราะไม่มีอะไรจูงใจให้เด็กเหล่านั้นออกไปท้าทายด้วยความคึกคะนอง

ถามว่า ถ้าเด็กเหล่านั้นหรือม็อบไปถึงหน้าค่ายทหารได้ พวกเขาจะบุกเข้าไปให้ถึงบ้านพักของพล.อ.ประยุทธ์เหรอครับ ผมคิดว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้เลย สิ่งที่ควรทำก็คือนอกจากมีกำลังตำรวจส่วนหนึ่งอยู่ข้างนอกแล้ว ในค่ายทหารกำลังทหารก็เตรียมให้พร้อม เพราะถ้าบุกเข้าไปตำรวจทหารก็จะมีความชอบธรรมทันที แต่เชื่อเถอะไม่มีหรอกเหมือนที่พวกนี้บุกไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือที่ไหนอย่างเก่งก็ได้แต่ปาสีขีดเขียนให้เลอะเทอะเท่านั้นเอง ถ้าทำแบบนี้ได้ภาพจลาจลมิคสัญญีรายวันก็จะไม่เกิด

ดังนั้น สาเหตุที่ทำให้เกิดการปะทะกันทุกวันที่สมรภูมิดินแดงก็คือ การกำหนดยุทธวิธีของตำรวจนั่นแหละลองทบทวนดูเถอะครับ

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น