กองกำลังตอลิบานรุกคืบหน้าต่อเนื่อง ได้เข้ายึด 3-4 เมืองรอบนอกไว้ได้ ล่าสุดได้ใช้กองกำลังรบเข้ายึดเมืองคุนดุซซึ่งมีประชากรกว่า 3 แสนคนไว้ได้แล้ว ขณะเดียวกันพวกตอลิบานก็ได้เตือนสหรัฐฯ ว่าไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวในอัฟกานิสถานอีกหลังจากประกาศถอนตัว
สหรัฐฯ ยังคงใช้เครื่องบินรบเข้าโจมตีทิ้งระเบิดเป้าหมายซึ่งกลุ่มตอลิบานได้ซ่องสุมกำลังไว้เมื่อได้รับการขอร้องจากกองทัพของรัฐบาลอัฟกัน แต่ไม่เพียงพอเพราะขาดกำลังภาคพื้นดินเข้ายึดพื้นที่และให้อิทธิพลของตอลิบานหมดสิ้นไป
ทหารอัฟกันยอมรับว่าการสู้รบลำบาก ทหารรัฐบาลรู้สึกว่าไม่แข็งแกร่งเพียงพอเมื่อการสนับสนุนทางอากาศ แม้แต่กองทัพอากาศอัฟกันเองก็ตามไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่เพราะนักรบตอลิบานได้ซุกตัวในชุมชนปะปนกับชาวบ้านทั่วไป
“นั่นทำให้กองทัพอากาศไม่สามารถทิ้งระเบิดโจมตีได้ และเราไม่สามารถใช้อาวุธหนัก เช่นปืนใหญ่ยิงถล่มเป้าหมายได้ เพราะเกรงว่าประชาชนจะได้รับบาดเจ็บล้มตาย” นั่นเป็นคำอธิบายของนายทหารอัฟกัน ซึ่งชี้ให้ผู้สื่อข่าวเห็นหน่วยพลซุ่มยิงตอลิบาน
สหรัฐฯ มีกำหนดจะถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานภายในสิ้นเดือนนี้ และทุกอย่างจะเสร็จสิ้นในวันที่ 11 เดือนกันยายน วันครบรอบการโจมตีอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์โดยกลุ่มอัลกออิดะห์ของบิน ลาเดน ซึ่งเป็นเหตุที่สหรัฐฯ เปิดฉากบุกอัฟกานิสถานปี 2001
สหรัฐฯ ได้ทุ่มกำลังกว่า 1 แสนนายหวังเอาชนะตอลิบานอย่างเด็ดขาด มีกองกำลังรบจากพันธมิตร เช่น แคนาดา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และกลุ่มประชาคมยุโรปเข้าร่วมด้วย
คำเตือนไม่ให้สหรัฐฯ หันมายุ่งเกี่ยวกับอัฟกานิสถานมาจากโฆษกของกลุ่มตอลิบาน นายโมฮัมมัด นาอีม วาร์ดัค ผ่านสำนักข่าวอัลจาซีราวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากตอลิบานได้รุกคืบยึดหลายเมือง หลังจากกองกำลังต่างชาติเริ่มถอนตัวออก
สหรัฐฯ ได้มีทหาร แต่ไม่สามารถชนะอย่างเด็ดขาดหลังจากใช้เวลา 20 ปีในอัฟกานิสถาน จนกระทั่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เจรจาจนบรรลุข้อตกลงกับตอลิบานในปี 2020 ในเมืองโดฮา กาตาร์ โดยตอลิบานไม่ยอมให้มีหน่วยก่อการร้ายพักพิง
แต่ไม่มีข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน หรือให้รัฐบาลอัฟกันอยู่อย่างสันติ หรือมีข้อตกลงเรื่องการเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนกำหนดชะตากรรมทางการเมืองด้วยตัวเอง
ขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการหยุดยิง หยุดการสู้รบ หรือมีสัญญาประเด็นนี้ระหว่างรัฐบาลอัฟกันกับกองกำลังตอลิบาน ซึ่งกำลังได้เปรียบในการสู้รบ และยึดพื้นที่ได้มากกว่าครึ่งค่อนของประเทศ ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน
เมืองคุนดุซมีนัยสำคัญด้านยุทธศาสตร์ซึ่งตกอยู่ในการยึดครองโดยตอลิบานวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเป็นเมืองขนาดใหญ่ในภาคเหนือ ซึ่งมีผลด้านจิตวิทยาอย่างมากต่อรัฐบาลอัฟกันและกองทัพ หลังจากตอลิบานเริ่มเปิดฉากรุกใหญ่ในเดือนพฤษภาคม
นอกจากคุนดุซ ยังมีเมืองซารานจ์ ซึ่งอยู่ใกล้ชิดพรมแดนกับอิหร่านก็ตกอยู่ในการยึดครองของตอลิบานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และวันต่อมาก็ได้ยึดเมืองเชอร์บากุลซึ่งอยู่ใกล้พรมแดนกับเติร์กเมนิสถาน วันอาทิตย์ก็ได้เข้ายึดเมืองซาร์-อี-ปุล ทางตอนเหนือ
สภาวะการพ่ายแพ้ในการสู้รบและสูญเสีย 3-4 เมืองในระยะเวลาไม่กี่วันได้สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ซึ่งหลายหมื่นคนได้ทิ้งที่อยู่เพื่อหนีภัยสงคราม
ที่สำคัญ เป็นที่หวั่นเกรงกันว่าแม้กระทั่งเมืองหลวง กรุงคาบูล ก็อาจตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มตอลิบาน นักวิเคราะห์ประเมินว่าประเทศอาจตกเป็นของกลุ่มตอลิบานภายใน 6 เดือน ถ้าแนวโน้มการสู้รบยังเป็นในสภาพของความพ่ายแพ้ฝ่ายรัฐบาล
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังสหรัฐฯ ได้ระดมโจมตีทิ้งระเบิด ใช้เครื่องบินรบทำลายที่มั่นของตอลิบานเพื่อหยุดยั้งการรุกหนัก ขณะเดียวกันตอลิบานอ้างว่าเครื่องบินรบสหรัฐฯ ได้ทำลายโรงพยาบาล โรงเรียน และเป้าหมายทางพลเรือนในจังหวัดเฮลมานด์
โฆษกของกองกำลังสหรัฐฯ พันตรีนิโคล เฟอร์ราร่า ประจำศูนย์บัญชาการกลาง อ้างว่าหน่วยรบของสหรัฐฯ ได้โจมตีทางอากาศเพื่อปกป้องพันธมิตรของเรา นั่นคือกองทัพอัฟกัน แต่ไม่ชี้แจงรายละเอียดของเป้าหมายของการโจมตีทิ้งระเบิด
โฆษกฝ่ายตอลิบานอ้างว่าฝ่ายรัฐบาลเริ่มต้นการสู้รบก่อนในหลายพื้นที่พร้อมกันและตอลิบานต้องตอบโต้ภายใต้สภาวะจำเป็น และยังปรามว่าสหรัฐฯ ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของอัฟกานิสถานอีกต่อไป ถือว่าเป็นเรื่องระหว่างชาวอัฟกันด้วยกัน
สถานทูตต่างประเทศได้เตือนให้ประชาชนของตนให้เริ่มอพยพออกจากอัฟกานิสถานในขณะที่ยังมีสายการบินพาณิชย์บริการให้อยู่ เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ได้ประณามการรุกของตอลิบานเพราะเป็นการบีบบังคับชาวอัฟกันในการดำเนินชีวิต
โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ยังได้โจมตีตอลิบานว่าไม่เคารพต่อข้อตกลงที่ทำไว้ในเมืองโดฮา กาตาร์ และไม่เคารพสิทธิและเจตนารมณ์ของประชาชน ซึ่งจะส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อสภาพของสิทธิมนุษยชนภายใต้การยึดครองของตอลิบานอย่างที่เคยเป็นมาครั้งหนึ่ง
เป็นที่คาดกันว่าตอลิบานจะเร่งบุกโจมตีและยึดเมืองสำคัญอื่นๆ อย่างเช่นกันดาฮาร์ ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์ ซึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นของตอลิบาน และหมายมั่นปั้นมือที่จะเข้ายึดคืนให้ได้ และจะส่งผลด้านจิตวิทยาอย่างมากต่อประชาชนและรัฐบาล
เป้าหมายของตอลิบานคือการแปลงสภาพของอัฟกานิสถานให้เป็นรัฐอิสลาม โดยใช้ชื่อว่า “อิสลามิสต์ เอมิเรตส์” มีมาตรการทางศาสนาเข้มงวดกับประชาชนซึ่งจะเสียสิทธิพลเมือง การแสดงความคิดเห็นและด้านการใช้ชีวิตประจำวันภายใต้กฎเข้มงวด
ประชาชนหลายหมื่นคนได้พลัดพรากจากถิ่นที่อยู่ ชะตากรรมที่รออยู่ข้างหน้าดูมืดมน เพราะเกรงว่าจะมีการฆ่าล้างแค้นโดยกลุ่มตอลิบาน โดยเหยื่อคือกลุ่มต่อต้าน