ท่ามกลางการระบาดอย่างหนักของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ประเทศไทยเหมือนอยู่ใน 2 มิติ อย่างแรกคือกลุ่มผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่กุมอำนาจรัฐกำลังเป็นปลื้ม หน้าบานกับปรากฏการณ์ “ความสำเร็จอย่างงดงาม” ในโครงการ “กระบะทรายภูเก็ต”
ท่านผู้นำนักกอล์ฟประจำวันเสาร์อธิบายเป็นคุ้งเป็นแควว่านั่นคือ “ปราสาททราย” เป็นความภูมิใจอย่างมาก แต่อย่างที่ 2 คือการระบาดอย่างไม่หยุดยั้ง ตัวเลขคนติดเชื้อทะลุกว่า 6 พันราย ประเทศไทยไต่อันดับการติดเชื้อสูงขึ้นแทบทุกวัน
จนกระทั่งมีคำถามว่า “ระบบสาธารณสุขของประเทศล่มสลายหรือยัง” แพทย์พยายามย้ำว่า “ยังไม่ล่มสลาย” แต่ดูสภาพแล้วโครงสร้างอ่อนล้าเปราะบางเต็มทน ถ้าวันไหนขาดทุกอย่างในโรงพยาบาล แพทย์ บุคลากร อุปกรณ์ และความพร้อม...
นั่นคือ “วาระล่มสลาย” และตราบใดที่ยังมีระบอบ 3 ลุงยังกุมอำนาจรัฐอยู่นั้น ไม่เพียงแต่ระบบสาธารณสุขจะเสี่ยงต่อการล่มสลายเท่านั้น อนาคตของประเทศก็ไม่รอดเพราะความล้มเหลวซ้ำซาก อยู่ไปแต่ละวันไม่มีแนวโน้มว่าอะไรจะดีขึ้น
คณะ 3 ลุงยังผลัดกันตีฝีปาก เล่นโวหารเจื้อยแจ้ว เหยียบย่ำน้ำใจประชาชนต่อไป ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะคณะ 3 ลุงไม่ได้ผ่านการเลือกตั้ง การทดสอบจากประชาชนมาจากรัฐประหาร เล่นเกมเล่ห์กลสารพัดเพื่อให้อยู่ต่อในอำนาจนานๆ
ประเทศไทยมีศักยภาพในความก้าวหน้า เคยมีโครงสร้างแข็งแกร่ง แต่นั่นถูกบั่นทอนทำให้ทรุดโทรมอย่างร้ายแรงเพราะเกมแห่งอำนาจในระบอบ 3 ลุง ซึ่งยังคงผยอง อหังการในอำนาจวาสนา เห็นประชาชนเหมือนเป็นทาสในเรือนเบี้ย
ถ้อยคำแต่ละครั้ง รวมทั้งพฤติกรรมไร้จิตสำนึกว่าควรกระทำอย่างไรเพื่อพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น ให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมั่นคง มีความสุข หลังจาก 7 ปี หนี้ครัวเรือนเพิ่มถึงจุด 90.5 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีพร้อมหนี้ประเทศทะยานไม่ยั้ง
ผลงานของระบอบ 3 ลุงได้สร้างความหายนะให้ประเทศทั้งโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สภาพโดยทั่วไปพร้อมทั้งภาคจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม ระบอบอำนาจ 3 ลุง ทำให้คนไทยแทบสิ้นหวัง มองไม่เห็นว่าอนาคตบ้านเมืองจะดีขึ้น
ประเทศไทยเสี่ยงกับความล้าหลังทุกกระบวนท่า เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยปัญหาการทุจริต คอร์รัปชันทุกระดับ โดยผู้กุมอำนาจรัฐไม่รู้สึกอาย
โครงการกระบะทรายภูเก็ตจะขยายต่อไปจังหวัดใกล้เคียง ทั้งๆ ที่ภาคใต้เผชิญกับการระบาดอย่างหนักเช่นกัน ผู้มีอำนาจเลือกที่จะมองโลกสวย แต่เมินวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นทั้งแผ่นดิน ไม่ยอมรับความผิดพลาดในนโยบายและภาคปฏิบัติ
การสั่งซื้อวัคซีนซึ่งมีเพียง 2 ชนิดหลักที่สั่งโดยรัฐบาล สะท้อนให้เห็นความด้อยประสิทธิภาพด้านความหลากหลายและทางเลือก เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในอาเซียน นอกจากไม่ยอมรับความล้มเหลวแล้ว ยังตีฝีปากเถียงคำไม่ตกฟาก
โครงการล็อกดาวน์แคมป์คนงานก่อสร้างพิสูจน์ให้เห็นความล้มเหลวอย่างน่าอนาถ ไม่สามารถแก้ตัวได้ ต้องใช้ความนิ่งเงียบ ความไร้ยางอายเข้าสู้ เพราะอาหารที่จะส่งให้แคมป์คนงานนั้นไม่ปรากฏในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่เฝ้าแคมป์ก็อดไปด้วย
นั่นทำให้เป็นภาระของผู้รับเหมา นายจ้างคนงานทั้งขึ้นทั้งล่อง นอกจากงานล่าช้าเกิดความเสียหายยังประเมินไม่ได้แล้ว ยังต้องควักกระเป๋าเลี้ยงดูคนงานอีกด้วย เพราะการปล่อยให้อดอยากจนเกิดคนงานแหกแคมป์หนีไปนั้นจะเสียหายมากกว่า
ผู้กุมอำนาจไร้ยางอาย ไร้คำตอบเมื่อถูกซักถึงความล้มเหลวซึ่งคาดการณ์ได้อยู่แล้วการขาดการเตรียมพร้อมก่อนประกาศปิดแคมป์ ไม่มีหนทางที่จะจัดอาหารเลี้ยงดูคนงานหลายแสนคนให้ครบ 3 มื้อได้ทุกวันจนครบ 1 เดือนของล็อกดาวน์
เพียงแค่วันแรกก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ผู้รับเหมาต้องโดน “หักคอ” ให้ซื้ออาหารเลี้ยงทั้งคนงานและเจ้าหน้าที่ ทำให้สงสัยว่าเกิดอะไรกับงบประมาณกว่า 7 พันล้านบาทที่อ้างว่าได้เตรียมไว้ เมื่อล้มเหลวซ้ำซาก การไร้ยางอายจึงเป็นเรื่องธรรมดา
ความล่าช้าในการสกัดคนงานไว้ในแคมป์ทำให้หลายคนเดินทางออกจากเมืองหลวง และเป็นอย่างที่คาดไว้ เกิดการระบาดเพิ่มในกว่า 30 จังหวัด สร้างภาระหนักให้โรงพยาบาลขนาดเล็กในต่างจังหวัดซึ่งขาดแคลนแทบทุกอย่าง
และยังไม่มีใครตากหน้าแอ่นอกออกมารับผิดชอบ ผู้กุมอำนาจรัฐต้องให้บริวารออกมาแก้ต่างหลังจากสภาวะ “โอษฐภัย” ปากพาจน ลีลาชู 2 นิ้ว ทำเอาคนด่าทั้งประเทศ แม้กระนั้นยังไม่รู้สึกเข็ดหลาบ หรืออับอาย กับความไม่เข้าท่า
ยังไปเล่นกอล์ฟสนุกสนานกับก๊วนขาประจำในสนามของเจ้าสัวน้ำเมา เหมือนเป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าประชาชนจะเป็นจะตาย บ้านเมืองจะล่มจมเสียหาย
ความอหังการ ผยอง ลำพองในอำนาจอย่างไร้ขอบเขตกำลังสร้างความโกรธแค้นให้ประชาชน เว้นพวกติ่งงมงายไม่ยอมรับการปลดปล่อย นั่นเป็นเพราะสภาวะการระบาดหนักและกฎหมายควบคุมการชุมนุมและสภาวะฉุกเฉินเป็นตัวช่วยหลัก
อยู่ได้ทุกวันนี้ ไม่รู้สึกทุกข์ร้อน เพราะความเชื่อมั่นในอำนาจกฎหมายแท้ๆ!
สภาวะเสื่อมโทรมในบ้านเรานับวันมีแต่จะเลวร้าย แพทย์เตือนแล้วว่าตัวเลขการติดเชื้อรายวันอาจถึงหลักหมื่น ซึ่งมีความเป็นไปได้อยู่แล้ว โดยประเมินจากความสะเปะสะปะของนโยบาย ใช้การเมือง การทหาร นำหน้า แพทย์เป็นแค่ตัวประกอบ
ความสิ้นหวัง ไร้ที่พึ่งของประชาชน กำลังสร้างความกดดันให้เกิดแรงฮึด มีหลายกลุ่มออกมาเสี่ยงชุมนุม เดินขบวนขับไล่คณะ 3 ลุง เพราะปล่อยไว้ให้อยู่ในอำนาจต่อไปบ้านเมืองคงไม่เหลือ เมื่อดูท่าแล้วยังอยากอยู่อีกนานไม่ยอมเลิกรา