xs
xsm
sm
md
lg

ผ่อนคลายเสี่ยงอันตราย...?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



มาเป็นชุดสำหรับมาตรการผ่อนคลายเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการร้านอาหารและกิจการอื่นๆ พยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจตายซากมานานหลายปี คนทั้งประเทศจมอยู่ในกองหนี้ ทั้งๆ ที่การระบาดของโควิด-19 ยังแรงจัด

เป็นความเสี่ยงอีกรอบสำหรับผู้กุมอำนาจรัฐที่ตกอยู่ในสภาวะหลังชนฝา เลือดเข้าตาเพราะแก้ปัญหาเศรษฐกิจสังคมไม่ตก ซ้ำร้ายการเมืองด้อยพัฒนายังคงติดหล่มจมปลักดักดาน ภาคจริยธรรม คุณธรรม ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไม่มีเหลือ

นักเลือกตั้งมั่วสุมลอยหน้าลอยตา หน้าด้านๆ อยู่ไปแต่ละวันมีแต่มุ่งแสวงหาอำนาจ หวังกวาดผลประโยชน์จากทรัพยากรแผ่นดิน เอาให้จนสิ้นชาตินั่นเลย

อยากรู้ว่าใครเป็นอย่างไร ดูว่าคนนั้นคบหาสมาคมกับคนประเภทไหนจะรู้ นี่เป็นมาตรวัดสังคมที่ใช้ได้เสมอ ด้วยหลักง่ายๆ ว่าคนดีย่อมไม่คบหากับทุรชน

ผู้กุมอำนาจรัฐที่มีคุณธรรม จริยธรรม ย่อมไม่อยู่บนพื้นฐานการสนับสนุนของคนชั่วร้ายมีมลทินเป็นตราบาปประทับ นับเป็นความอัปมงคลของบ้านเมืองแท้จริง

มหกรรมเปิดประเทศ จากคำประกาศอย่างอาจหาญของท่านผู้นำ โดยไม่มีพื้นฐานและเหตุผลรองรับเพียงพอ อ้างว่าเป็นความเสี่ยง เดิมพันสูง เพราะทนไม่ได้กับเสียงเรียกร้องของผู้ประกอบการธุรกิจที่กำลังรอวันสิ้นสุดของสายป่าน

ผู้กุมอำนาจรัฐประกาศมีเส้นตาย 120 วัน ไม่มีเหตุผลประกอบนอกจากการวัดดวง ยื้อซื้อเวลาไม่ให้กลุ่มชาวบ้านที่ไม่พอใจกับการบริหารล้มเหลวเปิดฉากรุกฆาตด้วยการเสี่ยงชุมนุมขับไล่ แต่ผู้นำยังมีขมวดปมเผื่อไว้สำหรับความล้มเหลว

เหมือนเป็นการเตรียมคำขออภัยแบบแกนๆ เสียไม่ได้ไว้ล่วงหน้า อย่างที่เคยทำ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านทวงถามความรับผิดชอบสำหรับการตัดสินใจผิดพลาด

ไม่มีคำอธิบายชัดเจนว่าทำไม 120 วัน ทั้งยังตามมาด้วยมาตรการผ่อนคลายเริ่มต้นด้วยแซนด์บ็อกซ์สำหรับภูเก็ตหวังดูดเงินนักท่องเที่ยว ช่วยผู้ประกอบการ เป็นการเดิมพันอีกรอบ มีทั้งเสียงสนับสนุนและท้วงติงกับการเสี่ยงเหมือนบ้าระห่ำ

มีเสียงท้วงติงอ้อมแอ้มบ้างจากแพทย์บางกลุ่ม ที่เงียบ ไม่ส่งเสียงก็เยอะ คงเป็นเพราะไม่อยากให้ท่านผู้นำออกฤทธิ์ออกเดช รับบทงิ้วพิโรธอย่างที่เคยทำ

ก็ด้วยเพราะเห็นชัดเจนหลายรอบแล้วว่าคำมั่นสัญญาต่างๆ ไม่เคยเป็นความจริง มีแต่ข้ออ้างแก้ตัว การรับผิดชอบเป็นเพียงคำพูดลมๆ แล้งๆ แก้ผ้าเอาหน้ารอด คำประกาศล่าสุด อ้างว่าจะรับผิดชอบ ชาวบ้านได้ฟังจึงไม่รู้สึกตื่นเต้น

“เราจะทำตามสัญญา...” เพลงนั้นยังแว่วในหู แต่ไม่ได้ยินผ่านสื่อนานแล้ว!

ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้รับรู้ความหลากหลายของข้อมูลจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีความรู้ ประสบการณ์ ต่างระดับกัน เพราะเรื่องนี้เป็นของใหม่ ต่างก็ต้องรับรู้ เรียนรู้พร้อมๆ กัน มีทั้งลองผิดลองถูกในระดับองค์กรสากลด้วยซ้ำ

ยิ่งบ้านเรามีความจำเป็นต้องเอาอกเอาใจท่านผู้มีอำนาจสั่งการสุดยอด จึงต้องมีหมอประเภทอิงการเมือง และหมออาชีพ ว่ากันอย่างตรงไปตรงมา หลายครั้งคำพูด ความเห็นไม่สบอารมณ์ผู้มีอำนาจ พาลถูกทำให้เหม็นขี้หน้าไปด้วย

ชาวบ้านมีแต่ซวย ไม่รู้จะเชื่อใครดี ว่าเป็นผู้มีความรู้แท้จริง!

แน่นอน สำทับด้วยคำประกาศอย่างอหังการว่าเป็นผู้ใช้อำนาจแบบซิงเกิลคอมมานด์ ข้าสั่งคนเดียว ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นว่ารับผิดชอบคนเดียว มีแต่หาแพะรับบาป ทั้งยังมีกิจกรรมขัดแข้งขัดขา อิจฉาตาร้อน ใครโดดเด่นเกินหน้าไม่ได้

บ้านเมืองจึงเหมือนตกอยู่ในวิบากกรรม ผีซ้ำด้ำพลอยซ้ำซาก!

ประเทศไทยยังมีการระบาดระดับ 2-3 พันรายต่อวัน ตัวอย่างเห็นได้ในหลายภูมิภาคอื่นๆ ของโลก เมื่อผ่อนคลายมาตรการควบคุมเข้มงวดเมื่อไหร่ การระบาดจะเพิ่มเท่านั้น ยิ่งมีการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ ท้าทายวัคซีนด้วยซ้ำ ก็ยิ่งเสี่ยงหนัก

ความอหังการในการใช้อำนาจ เพื่อความอยู่รอดของระบอบ 3 ลุง มีปรับโครงสร้างพรรคการเมือง แสดงให้เห็นเจตนาว่าจะอยู่ยาวต่อไป ทำให้เห็นการขาดเหตุผล เป็นการเปิดประเทศโดยการฉีดวัคซีนไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากร

ซ้ำร้ายวัคซีนสั่งเข้ามา ยังเป็นในสภาพกะปริบกะปรอย ขาดความแน่ชัด ซักถามมากก็ไม่ได้ อ้างความมั่นคง ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องเป็นความลับ หรือเป็นเพราะมีบางกลุ่มได้กอบโกยผลประโยชน์อะไร จึงไม่อยากให้ชาวบ้านได้รู้

ทุกคนอยากให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด ที่ผ่านมามาตรการของรัฐทำให้ไม่สามารถไว้วางใจได้ คำพูดของกลุ่มผู้กุมอำนาจรัฐสร้างความสับสน ลักปิดลักเปิด ชักเข้าชักออก หาความแน่นอนไม่ได้ คำมั่นจึงดูเบาโหวงเหวง

ดังนั้น 120 วันจึงเป็นการยื้อ ซื้อเวลา ถ้าประสบความสำเร็จจริงถือว่าเป็นบุญของแผ่นดินที่การระบาดลดลง และเป็นเพราะการทำงานอย่างหนักของแพทย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ท่ามกลางความขาดแคลนของอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ต่างๆ

โอกาสที่จะชนะไม่มีอยู่แล้ว ลุงผู้นำจึงออกตัวว่าชาวบ้านต้องอยู่กับการระบาดของโรคต่อไป อยู่ให้เป็น เอาตัวให้รอด ด้วยวัคซีนและมาตรการป้องกัน

แต่แน่ใจหรือว่าคณะ 3 ลุงอยากให้โรคระบาดสิ้นสุดเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไม่มีเหตุผลเพียงพอในการคงอยู่ของมาตรการควบคุมฉุกเฉินต่างๆ ต้องปลดล็อกด้วย และนั่นเป็นความเสี่ยงของคณะ 3 ลุงที่ต้องเผชิญสารพัดม็อบที่จ้องขับไล่

ตัวแทนกลุ่มขับไล่ต่างๆ จะเริ่มเปิดฉากลองของวันที่ 24 นี้แล้ว ไม่ใช่เรอะ!?


กำลังโหลดความคิดเห็น