xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” มั่นใจเอาอยู่ เสี่ยงลุย 120 วัน รุกกู้วิกฤต!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมืองไทย 360 องศา

“การเดินหน้าแผนฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชน มีความคืบหน้ามาอย่างต่อเนื่อง วันนี้ผมอยากจะอัปเดตให้ทุกท่านทราบถึงโรดแมปที่เรากำลังจะเดินหน้าต่อไป เพื่อเริ่มการพลิกฟื้นจากวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ในช่วง 1 เดือนกว่าที่ผ่านมานี้การที่ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการโดยตรงได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยบูรณาการ การทำงานและช่วยแก้ปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำงานใหญ่ ด้วยวิธีการทำงานแบบนี้ช่วยให้เราเดินหน้าตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยขจัดปัญหาบางอย่าง การเดินหน้าตามแผนฉีดวัคซีนนี้เราจะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้โดยเฉลี่ย ประมาณเดือนละกว่า 10 ล้านโดส หากวัคซีนส่งมาเพียงพอในแต่ละเดือน และประมาณต้นเดือนต.ค.จะมีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อยเข็มแรกแล้วจำนวน 50 ล้านคน”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองไปในอนาคตที่ไกลขึ้นอีก คือ การเปิดประเทศ และรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยอีกครั้ง นี่คือ หนทางสำคัญหนทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถทำมาหากินกันได้มาเป็นระยะเวลานาน วันนี้ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่าประเทศไทยจะต้องเปิดประเทศทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วันนับจากวันนี้ ส่วนเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ หากพร้อมได้เร็วกว่าก็ควรทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสเรียบร้อยแล้วควรเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว และไม่ต้องมีเงื่อนไขข้อห้ามที่สร้างความยากลำบาก รวมทั้งคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศหากเป็นคนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ก็ควรที่จะสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศของตัวเองได้โดยไม่ต้องกักตัวเช่นเดียวกัน ในส่วนของสถานที่ทำงาน และธุรกิจร้านค้าต่างๆ ควรต้องกลับมาเปิดทำการได้ การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศควรทำได้ โดยไม่มีข้อห้ามหรือข้อบังคับแบบเหมารวมทั้งจังหวัด ที่จะสร้างความยากลำบากอีก ยกเว้นหากมีสถานการณ์ร้ายแรงใหม่เกิดขึ้นหรือมีความจำเป็นจริงๆ ก็ให้พิจารณาเป็นกรณีไป
“ผมขอให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เริ่มเตรียมการและเตรียมตัวทุกอย่างให้พร้อม เพื่อที่จะสามารถเปิดให้มีการทำมาหากินของประชาชนได้อีกครั้งตามกรอบเวลาที่ผมได้กล่าวไป ซึ่งนั่นหมายความว่าจะต้องดำเนินการ เรื่องการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายเปิดประเทศภายใน 120 วัน เราจะเริ่มนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ที่เตรียมผ่อนคลายบางมาตรการ และเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบแซนด์บ็อกซ์ ผมได้เร่งรัด ให้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาและอนุมัติในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้เดินหน้าทำให้เกิดขึ้นจริงตามแผน เป็นการเตรียมการเพื่อเปิดประเทศในระยะต่อไป
“ผมรู้ดีว่าการตัดสินใจของผมวันนี้มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อเราประเมินสถานการณ์และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันบ้าง เราได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่าอยู่ในระดับที่พอจะรับได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย ภารกิจหลักในตอนนั้นคือพยายามรักษาชีวิตของพี่น้องคนไทยไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิต จนถึงวันนี้เราทำสำเร็จ ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก นอกจากนั้นอีกหนึ่งปัญหาที่เราหลีกเลี่ยงได้สำเร็จก็คือหลีกเลี่ยงการทำลายระบบสาธารณสุขของเรา ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นคงจะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคภัยอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย จากการที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือไม่มีหมอ ไม่มีพยาบาลมาดูแล เพราะทุกคนยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยโควิดกันหมด ขณะนี้ภารกิจต่อไปต้องทำให้ทุกคนสามารถกลับมาทำมาหากินกันได้ปกติอีกครั้ง โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“เพื่อที่เราจะสามารถเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการเปิดประเทศภายใน 120 วันให้ได้ ผมจะพยายามทำทุกทาง เพื่อให้เราได้รับส่งมอบวัคซีนตามกำหนดการ แม้ในความเป็นจริงเราจะเห็นตัวอย่างได้จากในหลายประเทศว่าการส่งมอบวัคซีนจากผู้ผลิตรายต่างๆ อาจจะไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ทั้งเรื่องล่าช้า หรือไม่ครบจำนวนตามที่ตกลง แต่ประเทศไทยเราต้องบริหารจัดการตรงจุดนี้ให้ดีในระยะสั้น นโยบายสำคัญของผม คือ อย่างน้อยที่สุดประชาชนทุกคนควรต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และในระยะยาวการจัดการกับโควิด-19 คือ การมีฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 ตั้งอยู่ในประเทศของเราเอง ซึ่งจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ในระยะยาวต่อไปตราบเท่าที่เราต้องการ” นายกฯ กล่าว
คำกล่าวดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เมื่อเย็นวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึง “ความมั่นใจ” บางอย่างของเขา ในลักษณะที่ว่าสถานการณ์เริ่มอยู่ในภาวะ “ควบคุมได้” แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความ “มั่นใจในเรื่องวัคซีน” ที่ถือว่าเป็นปัจจัยหลักหรือเป็น “อาวุธสำคัญ” ที่จะสามารถควบคุมโรคระบาดโควิด-19 ได้ในวงจำกัด โดยเขายังมั่นใจว่าจะสามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับคนไทยได้ครบตามเป้าหมาย นั่นคือ จำนวน 50 ล้านคน หรือร้อยละ 70 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากพิจารณาตามไทม์ไลน์ตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าวเอาไว้ก็ตรงกันระยะเวลาราว 120 วัน ตามที่เพิ่งประกาศ “นับถอยหลังเปิดประเทศ”ดังกล่าวข้างต้นพอดี
สำหรับการประกาศกำหนดวันเปิดประเทศที่ว่านั้น หากพิจารณาถึงสาเหตุก็ต้องประเมินมาจาก “จำนวนวัคซีน” ที่เข้ามาได้ตามกำหนด และจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ย้ำว่า สามารถจัดหาวัคซีนได้เกินเป้าหมาย จากเดิมที่กำหนดเอาไว้จำนวน100 ล้านโดส แต่ล่าสุด เขาได้ประกาศตัวเลขใหม่เพิ่มเป็นจำนวน 105.5 ล้านโดส รวมไปถึงการจัดเตรียมวัคซีนในปีหน้าอีกด้วย
แน่นอนว่า การประกาศเตรียมเปิดประเทศแบบนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนไทยที่ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากมานานนับปี ว่าจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตที่เป็นปกติ หรืออย่างน้อยก็ผ่อนคลายกว่าเดิม อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจกับระบบเศรษฐกิจ การลงทุนจะสามารถเดินหน้ากันได้อีกรอบ และที่สำคัญ เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจท่องเที่ยว ที่ถือว่าเป็นรายได้หลักทางเศรษฐกิจตัวหนึ่งนอกเหนือจากการส่งออก โดยเริ่มนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้แล้ว
สำหรับในทางการเมืองนี่คือคำตอบชัดเจนอีกแบบหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ครบวาระ ไม่ยุบสภาหรือลาออกตามที่ประกาศเอาไว้เมื่อสองสามวันก่อน เพราะการประกาศ “เปิดประเทศ” แบบนั้นก็ย่อมหมายความมีความมั่นใจว่าทุกอย่าง “เอาอยู่” และเริ่มเปิดเกมรุกกลับอย่างเต็มที่แล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น