ทีมโฆษก ศบค. แจง ปมฉีดวัคซีน 2 เข็ม คนละยี่ห้อ สำหรับคนมีอาการแพ้เข็มแรก ศบค.ชุดใหญ่เตรียมถกปรับมาตรการผ่อนคลายบางจังหวัด ดัน “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” โมเดลต้นแบบศุกร์นี้
วันนี้ (16 มิ.ย.) เวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) แถลงถึงกรณีมีการฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 คนละยี่ห้อ ว่า คนไทยมีคำถามโพสต์กันในโซเซียลมีเดียต่างประเทศก็มีข้อสงสัยเหมือนกัน จึงขอชี้แจงว่า โดยเริ่มต้นมีที่มาส่วนหนึ่ง การที่ประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อใดก็ตาม เกิดการแพ้วัคซีนนั้นอย่างรุนแรง ซึ่งในต่างประเทศมีแล้ว เมื่อมีการแพ้วัคซีนยี่ห้อแรก ก็เป็นข้อห้ามไม่สามารถฉีดซ้ำเข็ม 2 ได้ หลายประเทศ จึงมีมาตรการที่จะต้องจัดหาวัคซีนคนละยี่ห้อ โดยอาจจะเป็นการใช้วัคซีนที่มีวิธีการผลิตที่ต่างกัน เช่น ซิโนแวค เป็นวัคซีนที่เป็นเชื้อตาย หากมีอาการแพ้ก็จะย้ายไปใช้แอสตร้าเซนเนก้า เพื่อไม่ให้เกิดอาการแพ้
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ มีการเก็บข้อมูลที่มีการใช้วัคซีนคนละยี่ห้อในทางการแพทย์ต้องมีการศึกษาวิจัยใหเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งบ้านเรา หลายหน่วยงาน อาทิ จุฬาฯ ก็พยายามศึกษาอยู่ อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านี้มีการปฏิบัติจริง แต่ต้องเข้าใจว่าการศึกษาวิจัยเหล่านั้น ยังไม่มีใครกล้าสรุป จะได้ประสิทธิภาพดีกว่า ฉะนั้น บริษัทที่ทำการผลิต ได้ทำการวิจัยมานานกว่า ตัวอย่างการศึกษามากกว่า และสรุปว่า ให้ฉีดเข็ม 1 เข็ม 2 เป็นวัคซีนชนิดเดียวกันนั้น เป็นหลักการที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำ แต่เรื่องฉีดเข็ม 1 เข็ม 2 หรือแม้เข็ม 3 ที่มีคนพูดถึง เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจจะต้องติดตามในรายละเอียด ขอให้ฟังความเห็นผู้เชี่ยวชาญ และกระทรวงสาธารณสุข
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ จะมีการพิจารณาปรับมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม โดยบางจังหวัดอาจเข้มข้นขึ้นในบางกิจการ บางพื้นที่ และบางจังหวัดอาจมีการผ่อนคลายเพิ่มเติม รวมถึงจะมีการสรุปภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อเสนอแนะต่างๆ ไปปรับแก้ เพื่อให้ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นโมเดลต้นแบบที่จะนำร่องให้กับที่อื่นๆ เช่น เกาะสมุย เกาะพีพี พังงา กระบี่ ชลบุรี กรุงเทพฯ ชะอำ หัวหิน บุรีรัมย์ และเชียงใหม่ ต่อไป.
