วันนี้ (15 มิ.ย.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวว่า
วานนี้ (14 มิ.ย.) ตนได้รับรายงานกรณีมีการโพสต์คลิปสั้นความยาวประมาณ 1 นาที ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ของกลุ่มชาย 5 คน บนเรือ Speed Boat ทราบชื่อเรือภายหลังว่า “Ding lor zing” จอดบริเวณกลางทะเล จ.กระบี่ พร้อมใช้อาวุธปืนยิงฉลามจำพวกฉลามหูดำ จำนวน 3 ตัว และนำขึ้นมาบนเรือ นอกจากนี้ ภายหลังยังพบปลากะมง อีก 2 ตัว แม้ว่าจากการตรวจสอบสัตว์ทะเลดังกล่าวไม่จัดอยู่ในสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่พฤติกรรมดังกล่าวนับเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า หลังจากดูคลิป ตนยังมองไม่เห็นถึงเหตุจูงใจในการฆ่าฉลามอย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้ อีกทั้งยังโพสต์คลิปออกสู่สังคมจนตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เหตุการณ์ดังกล่าวเปรียบเทียบได้กับว่า “มีคนบุกรุกบ้านผู้อื่น เพื่อเข้าไปทำร้ายเจ้าของบ้านที่ไม่มีทางสู้ด้วยอาวุธปืนจนถึงแก่ชีวิต เพียงเพื่อความสนุกคึกคะนองและสะใจของตัวเอง และยังโพสต์คลิปอวดสังคม คำถามที่สังคมต้องถาม คือ พฤติกรรมนี้เราควรร่วมประณามอย่างไรบ้างให้สาสม ครั้งนี้คงต้องทบทวนหาแนวทางปกป้องคุ้มครองสัตว์เหล่านี้ให้ครอบคลุมและเคร่งครัดยิ่งขึ้น ซึ่งครั้งนี้ กฎหมายอาจจะเอาผิดกับคนเหล่านี้ไม่ได้ แต่สังคมสามารถตัดสินความผิดเหล่านี้ได้ไม่ยาก”
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งการให้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. เร่งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทบทวนมาตรการทางกฎหมายทุกฉบับ เพื่อให้สามารถปกป้องรักษาทรัพยากรทางทะเลเหล่านี้ไว้ให้ได้ ในเมื่อสัตว์ทะเลเหล่านี้ป้องกันตัวเองจากคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ เราก็ต้องช่วยกันปกป้องสัตว์เหล่านี้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีนี้ ตนได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ติดตาม ตรวจสอบ และรายงานผลความคืบหน้าให้ตนได้ทราบ และกำชับหน่วยงานในพื้นที่ให้เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและลาดตระเวนให้มากขึ้น พร้อมทั้งให้สร้างเครือข่ายในพื้นที่ และเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างจริงจังและทั่วถึงโดยด่วน
ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า ทันทีที่ตนได้รับทราบรายงานดังกล่าว ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ลงพื้นที่ตรวจสอบ และประสาน สภ.เมืองกระบี่ ภายหลังที่ได้ทราบว่าสำนักงานตำรวจน้ำกระบี่ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีในข้อหาใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบพิกัดพื้นที่ พบว่าบริเวณที่เกิดเหตุอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยห่างออกไปราว 96 กิโลเมตร และห่างจากฝั่งประมาณ 42 กิโลเมตร และไม่อยู่ในพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม
นายโสภณ เผยว่า จากการตรวจสอบการดำเนินคดี ทราบว่า นายอลงกรณ์ ชลธี อายุ 29 ชาวจ.กระบี่ ได้ออกไปตกปลากับพวกรวม 5 คน จากท่าเรือเกาะพีพี ไปยังจุดตก ทั้งนี้ ได้สอบถามไปยังนักวิชาการ ทราบว่า ฉลามจำพวกฉลามหูดำ พบมากตามกองหินห่างจากฝั่งพบได้ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ที่สำคัญ “ยังไม่พบว่าเคยทำอันตรายกับมนุษย์”
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมถึงความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ซึ่งฉลามหูดำไม่ได้บรรจุอยู่ในบัญชีสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งกรมฯ จะได้สำรวจและผลักดันสัตว์ทะเลชนิดสำคัญ รวมถึง ฉลามหูดำ เพื่อบรรจุในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์คุ้มครองตาม พ.ร.บ. ป้องกันและทารุณกรรมสัตว์ และผลักดันให้ฉลามหูดำเข้าสู่บัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต่อไป