xs
xsm
sm
md
lg

คำขอโทษ : ก็ไม่น่าพอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


ไฮโก มาส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี
อาทิตย์ที่ผ่านมา มีการกล่าวขอโทษจาก รมต.ต่างประเทศเยอรมนี ประเทศใหญ่สุดของสหภาพยุโรปขณะนี้ ที่กล่าวขอโทษต่อการกระทำขั้น “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ที่ประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมในดินแดนหลายแห่งในแอฟริกาช่วง ค.ศ. 1880 ได้กระทำต่อชนชาวท้องถิ่นที่ถูกยึดครองเป็นเมืองขึ้น โดยรมต.ไฮโก มาส (Heiko Maas) ได้กล่าวขอโทษในนามประเทศเยอรมนี ต่อการกระทำที่เลวร้ายถึงขั้น “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ต่อชนเผ่า Nama และ Herero ที่เป็นเจ้าของประเทศ Namibia ในปัจจุบัน

รมต.มาส ได้ประกาศขอโทษพร้อมประกาศจัดสรรงบประมาณเพื่อการพัฒนานามิเบียเป็นเวลา 30 ปี ด้วยเงิน 1,100 ล้านยุโรป (ประมาณ 40,000 ล้านบาท)

ชาวนามิเบียปัจจุบัน น่าจะพอใจต่อคำประกาศขอโทษพร้อมเงินก้อนโตนี้

แต่ผู้นำชนเผ่าต่างๆ ที่เป็นฝ่ายพยายามกดดันเยอรมนีให้ออกมาขอโทษได้ออกมาแสดงความไม่พอใจ เพราะพวกเขาได้ถูกกระทำชนิดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จนแทบจะสูญสิ้นชาติ และชาวเยอรมันก็ได้เข้ายึดครองแผ่นดิน โดยขับไล่ชนพื้นเมืองเจ้าของประเทศให้ออกจากแผ่นดินที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ อันเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ด้านเกษตรกรรม ทั้งการเพาะปลูกและปศุสัตว์ รวมทั้งชายทะเลก็มีการประมงชายฝั่งที่อุดมสมบูรณ์

กองทัพอันเกรียงไกรของเยอรมนี ได้เข้ายึดครองหลายดินแดน ทั้งโตโก, แทนซาเนีย, นามิเบีย, แคเมอรูน, บุรุนดี Chad, กาน่า กาบอง และปล้นสะดมข่มขืน รวมทั้งยึดครองดินแดนอย่างป่าเถื่อน

การฆ่าชาวพื้นเมืองเจ้าของแผ่นดินโดยกองทัพเยอรมนี ที่สาหัสที่สุดคือที่นามิเบียเพราะมีการต่อต้านสูงมาก

ประเทศนามิเบียนี้อุดมสมบูรณ์มากในอดีต และปัจจุบันมีการพบแร่ธาตุที่สำคัญ ที่ทำให้รายได้ประชาชนต่อหัวค่อนข้างสูง แต่มีการเหลื่อมล้ำสูงมากเช่นกัน

ที่ส่งออกสำคัญก็คือ เพชร แล้วยังมียูเรเนียมกับแร่ทองแดง, เหล็ก ตลอดจนการพบน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ

ที่ดินกว้างใหญ่ แต่มีประชากรแค่ 2.5 ล้านคนเท่านั้น โดยชนพื้นเมืองถูกกวาดต้อนจากดินแดนอุดมสมบูรณ์ ให้ไปอยู่ในทะเลทรายที่แห้งแล้ง (คล้ายกับที่อิสราเอลทำกับชาวปาเลสไตน์ในปัจจุบัน) แล้วยังตัดทางไหลของน้ำ เพื่อให้ชาวพื้นเมืองอดตายเพราะขาดน้ำ เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อชาวพื้นเมืองพยายามขุดหาน้ำจากบ่อ ก็ถูกวางยาพิษจนใช้น้ำไม่ได้

ชาวนามิเบียและเฮอเรโร (Herero) ที่พยายามสร้างเครือข่ายเพื่อปลดแอกจากเยอรมนี จะถูกจองจำและทรมานอย่างสาหัส และทำให้ชาวพื้นเมืองตายเพราะถูกใช้แรงงานทาส, ตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ตายเพราะอดอาหารและน้ำ ตายสูงถึง 80% ของประชากรทั้งหมด

มีการจับคนพื้นเมืองเหล่านี้มาเป็นหนูทดลองยา (เช่นเดียวกับที่กองทัพนาซี เยอรมนีทำกับชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่ 2...และกองทัพญี่ปุ่นทำกับชาวจีนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่นกัน)

เหล่าประเทศตะวันตก ที่ล่าอาณานิคมและมาขีดเส้นแบ่งประเทศที่เข้ายึดครอง มักตกลงแบ่งผลประโยชน์กันอย่างถ้วนหน้าในกรณีของแอฟริกาก็จะมีอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เบลเยียม, เยอรมนี, โปรตุเกส เป็นต้น โดยการขีดเส้นแบ่งดินแดนกันนี้ กระทำขึ้นโดยเจ้าของแผ่นดินเป็นชนเผ่าที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการจัดแบ่งดินแดนแต่อย่างใด

รมต.มาส ได้บอกกับชาวนามิเบียว่า ปธน.ของเยอรมนีจะเดินทางมายังประเทศนามิเบีย เพื่อมากล่าวคำขอโทษด้วยตนเอง และจะมีการผ่านกฎหมายในสภาเยอรมนีถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงที่เกิดกับประเทศนามิเบีย

แต่กลุ่มเครือข่ายที่ได้กดดันและกำลังฟ้องร้องรัฐบาลเยอรมนีถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่นามิเบีย ผู้นำกลุ่มหลายคนออกมาแสดงความไม่พอใจ โดยแสดงความคิดเห็นว่า เงินน้อยนิดที่ฟาดหัวลงมายังไม่มีแผนแน่ชัดว่า จะช่วยในการพัฒนานามิเบียแบบไหน เพราะขณะนี้ ชาวเยอรมันได้ครอบครองแผ่นดินมั่งคั่งของนามิเบีย ทั้งเมืองใหญ่, เหมืองต่างๆ, บ่อน้ำมัน รวมทั้งแหล่งเกษตรกรรมทั้งหมด ชาวพื้นเมือง (ที่เป็นลูกหลานของเหล่าบรรพชนที่ถูกเยอรมนีทรมาน และฆ่าตายถึงเกือบแสนคน) กลับอยู่ในระดับล่างของเศรษฐกิจ ไม่มีปัญญาได้ลืมตาอ้าปากใดๆ ทั้งสิ้น

สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ กองทุนก้อนโตที่จะซื้อที่ดินคืนมาจากชาวเยอรมัน เพื่อมาจัดสรรให้ชาวนามิเบีย เพื่อใช้ทำมาหากินประกอบอาชีพได้ต่อไป

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส
หัวหน้ากลุ่มเครือข่ายที่ต่อสู้เพื่อได้สิทธิในที่ดินคืนมาจากเยอรมนี ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การแถลงขอโทษของรมต.ต่างประเทศเยอรมนีนี้ทำอย่างเร่งรีบ ซึ่งอาจเพราะไม่อยากให้เสียหน้า เนื่องจากปธน.มาครงแห่งฝรั่งเศส เพิ่งแถลงขอโทษต่อชาวรวันดา ในสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดที่นั่น และฝรั่งเศสมิได้มีบทบาทในการขัดขวางไม่ให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่นั่น

จริงๆ แล้วปธน.มาครงได้เคยแถลงขอโทษต่อชาวแอลจีเรีย ที่ต้องบาดเจ็บล้มตายในการต่อสู้เพื่อกู้เอกราชจากฝรั่งเศส; เมื่อเขาเข้ามาเป็นปธน.ใหม่ๆ

ส่วนเยอรมนีก็เคยกล่าวขอโทษต่อชาวยิว จากการกระทำของฮิตเลอร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย

และยังมีผู้นำอีกหลายประเทศ ที่ต้องออกมาขอโทษต่อการกระทำเลวร้ายต่อดินแดนยึดครอง ไม่ว่าจะที่ออสเตรเลีย ที่คนพื้นเมืองถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง, ที่แคนาดาที่ฆ่าหมู่เด็กพื้นเมือง เป็นต้น

ที่นามิเบียจะต้องติดตามต่อไปว่ารัฐบาลเยอรมนีจะมีการกระทำล้างโทษของตัวเองให้สมกับที่ชาวนามิเบียได้ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น