xs
xsm
sm
md
lg

ไฟนรกสุดขอบฟ้าใกล้ลุกพรึ่บเต็มที (จบ)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


Volodymyr Zelensky ประธานาธิบดียูเครน
บรรยากาศแนวรบในด้านยุโรปตะวันออกนั้น...ต้องเรียกว่าร้อนฉ่า ร้อนแรง ไม่แพ้แนวรบด้านอื่นๆ อีกเช่นกัน โดยเฉพาะหลังจากเรือพิฆาตติดขีปนาวุธชั้น “Arleigh Burke-class” ของอเมริกา ที่ติดจรวดโทมาฮอว์ก จรวดต่อต้านเรือดำน้ำ จรวด RIM-156 และ SM-2 (จรวดพื้นผิวสู่อากาศ) ได้ออกปฏิบัติการในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน นั่นคือแล่นผ่านช่องแคบบอสฟอรัสของตุรกี เข้าไปในทะเลดำ เมื่อช่วงวันที่ 14-15 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีกำหนดการที่จะแล่นไป-แล่นมา อยู่ภายในทะเลแห่งนี้ ไปจนถึงวันที่ 4-5 พฤษภาคมโน่นเลย อันเป็นสิ่งที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ถือว่าเป็น “ปฏิบัติการโดยปกติ” ตามแนวทาง แนวนโยบายที่เรียกๆ กันว่า “Freedom of Navigation” หรือปฏิบัติการเพื่อก่อให้เกิด “การเดินเรือเสรี” ภายในน่านน้ำต่างๆ อะไรทำนองนั้น...
 
แต่สำหรับน่านน้ำอย่าง “ทะเลดำ” แล้ว...ไม่เพียงแต่ถือเป็นเขตแดน พรมแดน ของกองทัพเรือหมีขาวมาแต่อ้อน แต่ออก แต่ในช่วงระยะเวลาเดียวกันนี้ ยังถือเป็น “เขตซ้อมรบ” ที่บรรดาเรือรบรัสเซีย ไม่ว่าเรือ “Grayvoron” เรือ “Vyshny Volochek” ชั้น “Buyan-class” หรือบรรดาเรือคอร์เวต เรือฟรีเกต ประเภทติดอาวุธร้ายแรงทั้งหลาย รวมทั้งเครื่องบินรบ เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ ออกร่วมปฏิบัติซ้อมรบ ยิงปืนใหญ่ ยิงจรวด ชนิดสนั่นหวั่นไหว ความพยายามเกร่ไป-เกร่มา แล่นฉวัดเฉวียนอยู่ในทะเลดำของเรือพิฆาตอเมริกัน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย จึงย่อมก่อให้เกิดความเปรี้ยวมือ เปรี้ยวเท้า เกิดอาการ “เส้นกระตุก” บริเวณส้นตีน ของกองทัพเรือรัสเซียได้ไม่ยากส์ส์ส์ ยิ่งมีข่าวว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน อย่าง “USS Roosevelt” และ “USS Donald Cook” อาจตามมาสมทบในอีกไม่ช้า-ไม่นานนับจากนี้ แม้จะเกิดการ “ยกเลิกโดยกะทันหัน” โดยไม่ระบุสาเหตุ ไปเมื่อช่วงวันจันทร์ (19 เม.ย.) ที่ผ่านมา แต่นั่น...คงไม่ได้ช่วยให้เกิดการอ่อนตัว การผ่อนคลายบรรยากาศลงไปมากมายสักเท่าไหร่...
 
เพราะจุดที่กำลังเป็น “ไฮไลต์” ของฉากสถานการณ์ในยุโรปตะวันออกช่วงนี้ ก็คือการหาทางออก ทางไป หาข้อยุติ ลงตัว ต่อพื้นที่ด้านตะวันออกของประเทศยูเครน อันเคยเป็นส่วนหนึ่งของ “สหภาพโซเวียต” ก่อนที่จะแตกสลายกลายเป็นประเทศรัสเซียและอีกสิบๆ ประเทศจนตราบเท่าทุกวันนี้ นั่นก็คือดินแดน “Donetsk” และ “Luhansk” ที่อยู่ในแคว้น “Donbass” อันเต็มไปด้วยชาวรัสเซีย และผู้สนับสนุนฝักใฝ่รัสเซีย จนเกิดการก่อตั้งขบวนการติดอาวุธ “DPR” (Donets People’s Republics) และ “LPR” (Luhansk People’s Republic) รบกันไป-รบกันมากับกองทัพยูเครน หลังจากที่พวกนักประท้วงประเภท “ชู 3 นิ้ว” ของยูเครน สามารถขับไล่อดีตประธานาธิบดีผู้ฝักใฝ่รัสเซีย (Viktor Yanukovych) ออกนอกประเทศ แล้วจัดตั้งรัฐบาลที่หันไปฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา ขึ้นมาปกครองดูแล ประเทศยูเครนจนตราบเท่าทุกวันนี้...
 
อันนี้นี่แหละ...ที่กำลังทำให้ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ร้อนฉ่าและร้อนแรงอย่างชนิด “กระสุนนัดแรก” อาจระเบิดจากปากกระบอกปืนของฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใด ก็ย่อมได้ เพราะนอกจากก่อให้เกิดการซ้อมรบในทะเลดำของกองทัพเรือรัสเซียในช่วงนี้ บรรดาทหารรัสเซียนับพันๆ พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์อีกเพียบ ต่างถูกระดมไปไว้ที่ชายแดนด้านตะวันออกของยูเครน หรือบริเวณพื้นที่ติดต่อกับจังหวัด “Donetsk” และ “Luhansk” อย่างเป็นระบบและเป็นกิจการ หรืออย่างชนิดที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกัน และแม้แต่เลขาธิการ “นาโต” ถึงกับจินตนาการไว้ล่วงหน้า ว่าอาจนำไปสู่การ“บุกยูเครน” หรือการงาบดินแดนบางส่วนของยูเครน มาเป็นของรัสเซีย แบบครั้งที่เคยงาบพื้นที่ตั้งฐานทัพเรือรัสเซียในทะเลดำ หรือดินแดนไครเมีย มาเป็นของรัสเซีย โดยผ่านกระบวนการลงประชามติ เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2014 นั่นเอง...
 
แต่สำหรับรัสเซียแล้ว...การเคลื่อนไหวของกองทัพหมีขาวคราวนี้ ไม่ได้ถือเป็นการคิดจะบุกรุก ล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนยูเครนแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงแค่การ “ป้องปราม” หรือ “ปกป้องตัวเอง” จากแนวทาง แนวนโยบายของรัฐบาลยูเครน ที่พยายามไปชักลาก เอา “นาโต” ให้เข้ามารุกล้ำเข้ามาประชิด ติดพรมแดนรัสเซีย หรือกลืนกินบรรดาประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของ “สหภาพโซเวียต” จนแทบไม่ต่างอะไรไปจากการ “ควักมีดมาจ่อคอหอย” รัสเซียยิ่งเข้าไปทุกที โดยเฉพาะในพื้นที่ประเทศอย่างยูเครน ไปจนถึงเบลารุส ฯลฯ เป็นต้น ยิ่งผู้นำที่เคยเป็นอดีตดาวตลก อย่าง “นายVolodymyr Zelensky” ประธานาธิบดียูเครนคนปัจจุบัน ได้ออกมาป่าวประกาศแบบเต็มปาก เต็มคำ ว่าการดิ้นรนหาทางทำให้ยูเครนกลายไปเป็นส่วนหนึ่ง หรือเป็น “สมาชิกนาโต” อย่างเป็นทางการ ถือเป็น “ทางออกทางเดียวเท่านั้น” ในอันที่จะหาจุดลงตัว หรือหาข้อยุติความขัดแย้ง ในบริเวณพื้นที่ด้านตะวันออกของยูเครน หรือในดินแดน “Donbass” ลงไปได้แบบจริงๆ-จังๆ...
 
คือพูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากยูเครนสามารถเข้าเป็น “สมาชิกนาโต” อย่างเป็นทางการ ด้วยการอาศัย “มาตรา 5” ในข้อตกลงความร่วมมือของบรรดาสมาชิกนาโต ย่อมทำให้ยูเครนไม่จำเป็นต้องสะทกสะท้านต่อ “กองทัพรัสเซีย” อีกต่อไป สามารถ “ปิดประตูตีแมว” หรือปิดประตูเล่นงานพวกกองกำลังอาวุธที่คิดจะแยกดินแดน อย่าง “DPR” และ “LPR” ได้อย่างถนัดมือ ถนัดตีน เพราะถ้ารัสเซียคิดให้การสนับสนุน ด้วยการล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนยูเครนเมื่อไหร่ บรรดามวลสมาชิกนาโตทั้งหลาย จำเป็นต้องให้การปกป้องยูเครน ตามสนธิสัญญา-ข้อตกลง อย่างมิอาจผันแปรไปเป็นอื่น หรือหนีไม่พ้นต้อง “จุดชนวนสงคราม” ระหว่างรัสเซียกับนาโต ที่มีคุณพ่ออเมริกาเป็นหัวหอก จนอาจลุกลามกลายเป็น “สงครามโลกครั้งที่ 3” ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้...นั่นเอง!!!
 
อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้ต้องเกิดการแปลความ ตีความ คำพูด คำจา การแสดงออกถึงการสนับสนุนยูเครน ไม่ว่าโดยรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา หรือประธานาธิบดีอเมริกันรายใหม่ ที่โทรศัพท์พูดจาเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ กับประธานาธิบดีและผู้นำทางทหารยูเครน เมื่อไม่กี่วัน กี่สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ อันก่อให้เกิด “แรงกระตุ้น” หรือเกิดความปรารถนา ความต้องการ ที่จะฉุดกระชากลากถู องค์กรพันธมิตรทางทหารอย่าง “นาโต” ให้เข้ามาเปิดศึกกับรัสเซีย ภายในบ้านตัวเอง หรือทำให้กองทัพรัสเซียหนีไม่พ้นต้องออเข้ามาอยู่บริเวณริมชายแดนยูเครน ก่อนหน้าที่ “นาโต” จะตัดสินใจให้ยูเครนเป็นหนึ่งในสมาชิกองค์กร หรือไม่? อย่างไร? คือถ้าหากนาโตยอมรับให้ยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของนาโต ก็เท่ากับว่าองค์กรพันธมิตรทางทหารแห่งนี้ พร้อมแล้ว...ที่จะเปิดศึกกับรัสเซีย หรือพร้อมที่จะ “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้!!!
 
การแล่นไป-แล่นมา ของกองทัพเรืออเมริกันในน่านน้ำทะเลดำ ขณะที่กองทัพรัสเซียที่มักออกอาการ “เส้นกระตุก” อยู่บ่อยๆ เคยยิงโน่น ยิงนี่ สอยโน่น สอยนี่ มาเป็นประจำ กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการซ้อมรบแบบชนิดเอาจริง-เอาจังยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ฉากสถานการณ์ของแนวรบด้านยุโรปตะวันออก ออกจะร้อนฉ่า ร้อนแรง ไม่น้อยกว่าแนวรบในทะเลจีน หรือแนวรบในตะวันออกกลางมากมายสักเท่าไหร่ หรือทำให้รายการ “ยั่วยวนกวนส้นตีน” ระหว่างมหาอำนาจ 2 ฝ่าย คือระหว่างฝ่าย “โลกขั้วอำนาจเดียว” กับฝ่าย “โลกหลายขั้วอำนาจ” ที่ยังไงๆ...ยากส์ส์ส์ที่จะหาข้อยุติ ข้อลงตัว หรือสามารถหาหนทางที่จะ “อยู่ร่วมกันโดยสันติ” ได้เลยแม้แต่น้อย มันจึงตกอยู่ภายใต้บรรยากาศที่แต่ละฝ่ายจะเผลอไปเกาโน่น เกานี่ ออกมือ ออกไม้ ออกท่า ออกทางใดๆ ก็ตาม ค่อนข้างลำบากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะอาจส่งผลให้อีกฝ่ายถือเป็นการ “ออกอาวุธ” เอาเลยก็ไม่แน่ พูดง่ายๆ ว่า...ทุกสิ่งทุกอย่าง ออกจะหวีดหวิว ฉิวเฉียดต่อการนำไปสู่ฉากสถานการณ์ระดับ “สงครามโลกครั้งที่ 3” หรือการ “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาบนโลกใบนี้ อีกครั้งและอีกครั้ง นั่นเอง...




กำลังโหลดความคิดเห็น