ทนายเผย "ซูจี" ไม่ถูกตั้งข้อหากบฏตามข่าวลือ สมาชิกพรรคซูจีประกาศตั้ง รบ.พลเรือนสู้ “บิ๊กตู่” เผยพร้อมรับคนไทยกลับบ้านหากจำเป็น ยันห่วงโซ่การค้าชายแดนยังปกติ ด้าน มท.1 เผยผู้ว่าฯแนวชายแดนไทย-เมียนมา เตรียมแผนรับผู้อพยพไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวคืบหน้าสถานการณ์ทางการเมืองและการชุมนุมประท้วงในประเทศเมียนมาว่า วานนี้ (1 เม.ย.) นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ถูกนำตัวขึ้นศาลกรุงเนปิดอว์ โดยมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลทหารจะกล่าวหาซูจีทำผิดคดีอาญาหลายข้อหา รวมไปถึงข้อหากบฏ ซึ่งอาจมีโทษถึงประหารชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม มิน มิน โซ หนึ่งในทีมทนายความของนางอองศาน ยืนยันว่า ไม่มีการตั้งข้อหาใหม่กับซูจีระหว่างการไต่สวนคดีที่ศาลในวันนี้
โดยที่ผ่านมา นางซูจีถูกตั้งตั้งข้อหาแล้วหลายข้อหา ตั้งแต่การนำเข้าวิทยุสื่อสารอย่างผิดกฎหมาย ไปจนถึงกระทำการให้เกิดความวุ่นวายในที่สาธารณะ นอกจากนี้ กองทัพเมียนมายังได้กล่าวหาเธอว่าทุจริตรับสินบนนักธุรกิจด้วย
ขณะเดียวกัน สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเอ็นแอลดีที่ถูกปลด ประกาศแผนตั้งรัฐบาลพลเรือนชุดใหม่ภายในสัปดาห์แรกของเดือน เม.ย.นี้ รวมทั้งยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2008 ที่กองทัพร่างขึ้นเพื่อผูกขาดอำนาจควบคุมทางการเมือง และกลุ่มผู้ประท้วงได้พากันเผาสำเนารัฐธรรมนูญบนถนน
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ซูเปอร์มาร์เก็ตของกองทัพ 2 แห่งในย่างกุ้งถูกลอบวางเพลิงเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีกองทัพอากาศเตรียมเครื่องบินพร้อมรับคนไทยในเมียนมากลับประเทศว่า มีการประสานงานกันอยู่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้เตรียมการทางประเทศเมียนมาไว้ ทางเราก็เตรียมความพร้อมไว้ เมื่อสถานการณ์จำเป็นก็ค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การค้าระหว่างประเทศไทยและเมียนมา ยังปกติหรือไม่ เพราะตอนนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคขยับตัวสูงขึ้น จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การขนส่งยังถือว่าเป็นปกติ เพียงแต่เขาต้องการมากขึ้น ก็เป็นเรื่องพ่อค้าของเราที่อยู่ในห่วงโซ่ของเขา และต้องแยกแยะ เรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม ที่เป็นคนละเรื่องกัน สิ่งสำคัญที่สุดต้องเข้าใจบริบทประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการดูแลผู้อพยพอะไรต่างๆ ภาระหน้าที่ผูกพันกันมายาวนาน และวันนี้เราจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างที่สุด แต่อย่างไรเราก็มีความพร้อม อย่างแรกคือ มนุษยธรรม ใครบาดเจ็บอะไรต่างๆ ก็ดูแลรักษาให้ และการเตรียมรับหากเกิดสถานการณ์จำเป็นจริงๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่ต้องคำนึงว่าแล้วจะต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมตรงนี้ และได้สั่งการไปหมดแล้ว
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.หาดไทย ยืนยันพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ทางผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆมีแผนรองรับ หากเกิดการอพยพของชาวเมียนมา โดยขั้นต้นก็จะเป็นการจัดพื้นที่อาศัย อาหาร รวมถึงจัดโซนคัดกรองโควิด-19 และยังมีการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนชาวเมียนมาด้วยว่า หากสถานการณ์ยังปกติ อยากให้อยู่ในที่เดิม แต่หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ขึ้นมาจริง ฝ่ายไทยก็พร้อมรับสถานการณ์ โดยยึดหลักมนุษยธรรม ซึ่งฝ่ายปกครองในพื้นที่ ก็ประสานงานกับกองกำลังทหารที่ดูแลชายแดนอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวคืบหน้าสถานการณ์ทางการเมืองและการชุมนุมประท้วงในประเทศเมียนมาว่า วานนี้ (1 เม.ย.) นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ถูกนำตัวขึ้นศาลกรุงเนปิดอว์ โดยมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลทหารจะกล่าวหาซูจีทำผิดคดีอาญาหลายข้อหา รวมไปถึงข้อหากบฏ ซึ่งอาจมีโทษถึงประหารชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม มิน มิน โซ หนึ่งในทีมทนายความของนางอองศาน ยืนยันว่า ไม่มีการตั้งข้อหาใหม่กับซูจีระหว่างการไต่สวนคดีที่ศาลในวันนี้
โดยที่ผ่านมา นางซูจีถูกตั้งตั้งข้อหาแล้วหลายข้อหา ตั้งแต่การนำเข้าวิทยุสื่อสารอย่างผิดกฎหมาย ไปจนถึงกระทำการให้เกิดความวุ่นวายในที่สาธารณะ นอกจากนี้ กองทัพเมียนมายังได้กล่าวหาเธอว่าทุจริตรับสินบนนักธุรกิจด้วย
ขณะเดียวกัน สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเอ็นแอลดีที่ถูกปลด ประกาศแผนตั้งรัฐบาลพลเรือนชุดใหม่ภายในสัปดาห์แรกของเดือน เม.ย.นี้ รวมทั้งยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2008 ที่กองทัพร่างขึ้นเพื่อผูกขาดอำนาจควบคุมทางการเมือง และกลุ่มผู้ประท้วงได้พากันเผาสำเนารัฐธรรมนูญบนถนน
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ซูเปอร์มาร์เก็ตของกองทัพ 2 แห่งในย่างกุ้งถูกลอบวางเพลิงเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีกองทัพอากาศเตรียมเครื่องบินพร้อมรับคนไทยในเมียนมากลับประเทศว่า มีการประสานงานกันอยู่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้เตรียมการทางประเทศเมียนมาไว้ ทางเราก็เตรียมความพร้อมไว้ เมื่อสถานการณ์จำเป็นก็ค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การค้าระหว่างประเทศไทยและเมียนมา ยังปกติหรือไม่ เพราะตอนนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคขยับตัวสูงขึ้น จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การขนส่งยังถือว่าเป็นปกติ เพียงแต่เขาต้องการมากขึ้น ก็เป็นเรื่องพ่อค้าของเราที่อยู่ในห่วงโซ่ของเขา และต้องแยกแยะ เรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม ที่เป็นคนละเรื่องกัน สิ่งสำคัญที่สุดต้องเข้าใจบริบทประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการดูแลผู้อพยพอะไรต่างๆ ภาระหน้าที่ผูกพันกันมายาวนาน และวันนี้เราจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างที่สุด แต่อย่างไรเราก็มีความพร้อม อย่างแรกคือ มนุษยธรรม ใครบาดเจ็บอะไรต่างๆ ก็ดูแลรักษาให้ และการเตรียมรับหากเกิดสถานการณ์จำเป็นจริงๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่ต้องคำนึงว่าแล้วจะต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมตรงนี้ และได้สั่งการไปหมดแล้ว
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.หาดไทย ยืนยันพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ทางผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆมีแผนรองรับ หากเกิดการอพยพของชาวเมียนมา โดยขั้นต้นก็จะเป็นการจัดพื้นที่อาศัย อาหาร รวมถึงจัดโซนคัดกรองโควิด-19 และยังมีการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนชาวเมียนมาด้วยว่า หากสถานการณ์ยังปกติ อยากให้อยู่ในที่เดิม แต่หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ขึ้นมาจริง ฝ่ายไทยก็พร้อมรับสถานการณ์ โดยยึดหลักมนุษยธรรม ซึ่งฝ่ายปกครองในพื้นที่ ก็ประสานงานกับกองกำลังทหารที่ดูแลชายแดนอย่างใกล้ชิด