xs
xsm
sm
md
lg

ประณามพม่าปราบโหดเลือดนอง บอมบ์KNUกะเหรี่ยงทะลักเข้าไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

สหรัฐฯ และ UNรวมทั้ง รัฐมนตรีกลาโหม12 ชาติ ประณามพม่าใช้กระสุนจริง ปราบนองเลือดวันเดียวตาย114 ศพ ขณะที่พม่าบินทิ้งบอมบ์"เคเอ็นยู" กะเหรี่ยงหนีตายทะลักเข้าเขตไทย

กรณีกองกำลังด้านความมั่นคงเมียนมา ปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร เมื่อวันเสาร์ (27 มี.ค.) ที่ผ่านมามีประชาชนเสียงชีวิตถึง 114 ศพในจำนวนนี้มีทั้งเด็กและผู้หญิง ถือเป็นวันนองเลือดที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมดกว่า 440 ราย

ความรุนแรงปะทุขึ้นทั่วประเทศ ทหารใช้กระสุนจริง ยิงเข้าใส่การประท้วงตามเมืองต่างๆ มากกว่า 40 แห่ง ใน 9 เขต ในนั้นรวมถึงที่เมืองย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของพม่า

ขณะที่ในวันเดียวกันนั้น เป็นวันกองทัพ ที่กรุงเนปิดอว์ ได้มีพิธีสวนสนามใหญ่ ของกองทหารและยานยนต์ต่างๆของกองทัพ โดยพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหาร เป็นประธาน และได้กล่าวปราศรัยุึงพฤติกรรมของกลุ่มผู้ประท้วงว่าเป็นการก่อการร้าย เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ และเน้นย้ำคำสัญญา จัดการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่ได้ให้กรอบเวลาใดๆเหมือนเดิม

ทั้งนี้ในวันกองทัพ มีตัวแทนจาก 8 ประเทศ รัสเซีย จีน อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ เวียดนาม ลาว และไทย ส่งตัวแทนเข้าร่วม แต่รัสเซีย เป็นเพียงชาติเดียวที่ส่ง นายอเล็กซานเดอร์ โฟมิน รมช.กลาโหมของรัสเซีย เข้าร่วมพิธีสวนสนาม ในวันดังกล่าว

ขณะที่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ได้ประณามการสังหารโหดครั้งนี้ ว่าการเดินหน้าปราบปรามของกองทัพ เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ และเราขอเรียกร้องนานาชาติ ตอบโต้อย่างหนักแนน เป็นหนึ่งเดียวกันและด้วยความแน่วแน่

แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เขียนบนทวิตเตอร์ว่า วอชิงตัน สยดสยองต่อการกระทำนองเลือดของกองกำลังด้านความมั่นคงพม่า ส่วนโดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ระบุว่า การฆ่าพลเมืองและเด็กที่ปราศจากอาวุธ คือจุดต่ำสุดรอบใหม่ ขณะที่ผู้แทนอียู ประจำพม่า บอกว่า วันเสาร์ (27 มี.ค.) จะตราตรึงในความทรงจำตลอดไป ในฐานะวันแห่งความสยดสยอง และวันไร้เกียรติภูมิ

นอกจากนี้ บรรดารัฐมนตรีกลาโหม จากชาติๆ 12 ประเทศ มีทั้ง สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ได้ออกถ้อยแถลงร่วมประณาม เหตุนองเลือดในพม่าที่กองกำลังด้านความมั่นคง เปิดฉากยิงใส่ผู้ประท้วง ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย

"ทหารมืออาชีพต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสากล และมีหน้าที่รับผิดชอบปกป้อง ไม่ใช่ก่อภัยอันตรายแก่ประชาชนที่พวกเขารับใช้เสียเอง" รัฐมนตรีกลาโหม 12 ชาติ ระบุในถ้อยแถลงร่วม

พม่าบินทิ้งบอมบ์ กะเหรี่ยงเคเอ็นยู

หลังจากทางการเมียนมา ส่งเครื่องบินไม่ทราบชนิด ทำการโจมตีฐานที่มั่นกะเหรี่ยงอิสระ ของกองพลน้อยที่ 5 ที่บ้านเดปู่โน๊ะ เขต อ.มูตรอ จ.ผาปูน รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งอยู่ตรงข้ามพื้นที่บ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้มีราษฎรเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศ 2 คน และได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 20 คน และส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่บ้านหวี่กะโหล่ และหมู่บ้านใกล้เคียง ต้องอพยพหลบหนีไปยังพื้นที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว

ล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (28 มี.ค.) ทหารเมียนมา ได้ส่งเครื่องบินรบโจมตีหมู่บ้านกะเหรี่ยงอีกรอบ ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย และประชาชนต้องหลบหนีเข้าไปอยู่ในป่า นอกจากนี้ ราษฎรกะเหรี่ยงหมู่บ้านอีตูทะ และหมู่บ้านใกล้เคียง จ.ผาปูน รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน ทั้งหมดกว่า 3,000 คน ได้อพยพออกจากหมู่บ้าน โดยนั่งเรือข้ามแม่น้ำสาละวิน ไปอาศัยอยู่ในเขตไทย ที่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน ซึ่งเป็นพื้นที่ของ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากเกรงกลัวเครื่องบินรบของรัฐบาลทหารเมียนมาจะไปทิ้งระเบิดอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น