ผู้จัดการรายวัน 360 - คณะจุฬาฯ นัดจุดเทียนไว้อาลัยความยุติธรรม-มอบดอกไม้ให้กำลังใจแม่เพนกวิน-ไผ่ ดาวดิน ขณะที่ ม็อบเดินทะลุฟ้า V.2 นัดชุมนุม 13 มี.ค.นี้ เดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปทำเนียบ แนะเตรียมอุปกรณ์ค้างคืนด้วย “พนัส” จี้ศาลให้ประกันโจก 3 นิ้วมีเงื่อนไข ขณะที่ ตร. เตรียมดำเนินคดีม็อบ 2 จุด 9 มี.ค. พบความผิดหลายข้อหา เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิด และรอศาลพิจารณาส่งตัวแทนแจ้งเอาผิด “ละเมิดศาล” ด้านโฆษกศาลยุติธรรม ยันจะใช้ความอดทน ไม่ต้องการไปเป็นคู่ความผู้ชุมนุม ไม่มากเกินไปพร้อมปล่อยผ่าน 'รุ้ง' ยุคนนอกคุกออกมาให้ถึงล้าน
วานนี้ (10 มี.ค. คณะจุฬาฯ ร่วมกับ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) และ สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย I Student Council of Chulalongkorn University ได้ร่วมจัดกิจกรรมไว้อาลัยให้กระบวนการยุติธรรมไทย ที่ไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน ณ ลานจักรพงษ์ เพื่อไว้อาลัยความยุติธรรมของประเทศไทย และมอบดอกไม้ให้กำลังใจแก่ผู้ปกครองของแกนนำม็อบที่ถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรม และไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
โดยกลุ่มแกนนำที่ถูกคุมขัง ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒกุล หรือรุ้ง, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง, นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดกลุ่ม We Volunteer หรือวีโว่
ขณะที่การชุมนุมคู่ขนานที่บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ของกลุ่มมวลชนอิสระ เริ่มคึกคักขึ้น โดยมี น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา แกนนำมวลชนได้ปราศรัย โจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่บริหารประเทศล้มเหลว ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้รับสวัสดิการการดูแลให้ดีขึ้น รวมถึงยังมีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย และได้ยุติลงตามเวลาประมาณ 21.00 น.
"ม็อบเดินทะลุฟ้า V.2" นัดบุกประชิดรั้วทำเนียบรัฐบาล 13 มี.ค.นี้
เพจฯเฟซบุ๊ก "UNME of Anarchy" ภาคีกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎร ซึ่งจัดกิจกรรม เดินทะลุฟ้า V.1 คือเดินจากจังหวัดนครราชสีมา มาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมระยะทาง 247.5 กิโลเมตร เพื่อชู 3 ประเด็น คือ 1.ปล่อยเพื่อนที่ถูกจับกุม 2. แก้รัฐธรรมนูญ และ 3. ยกเลิก ม.112 นั้น
ล่าสุดเพจฯดังกล่าวได้เผยแพร่กิจกรรม เดินทะลุฟ้า ได้เผยแพร่การทำกิจกรรม V.2 ในวันเสาร์ที่ 13 มี.ค.นี้ เวลา 14:00 น. โดยจะเริ่มเดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปยังทำเนียบรัฐบาล
"เราจะเริ่มเดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปทำเนียบรัฐบาล เดินไปสร้างหมู่บ้านทะลุฟ้า เขียนรัฐธรรมนูญประชาชน
นอกจากนี้เรายังเปิดพื้นที่ เปิดรับความหลากหลายของปัญหา ใครมีปัญหาหรือเรื่องอะไรอยากบอกต่อหรือสร้างกิจกรรมก็สามารถมาเข้าร่วมกับเราได้
ส่วนการเตรียมตัวสำหรับค้างคืนกับเรา เราแนะนำให้เตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาด้วย เช่น เต็นท์ หมอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า และอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว"
ตร.เร่งรวมรวบหลักฐานเอาผิดม็อบ 9 มี.ค.
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ผลสรุปการปฏิบัติงานจากสถานการณ์การชุมนุม เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่า การชุมนุมมี 2 จุด คือ 1.ที่หน้าศาลอาญารัชดาภิเษก โดยกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ 2.ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และกลุ่มแดงก้าวหน้า 63 ซึ่งการชุมนุมทั้ง 2 จุด พบการกระทำความผิด พ.ร.บ.จราจร ที่กีดขวางถนน , ผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ที่มาชุมนุมกันในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และ พ.ร.บ.ความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
“ในส่วนการชุมนุมที่หน้าศาลอาญารัชดาภิเษกนั้น ทางศาลยุติธรรมกำลังพิจารณาว่ามีการละเมิดศาลหรือไม่ อย่างไร หากพบว่ามีการละเมิดศาล ทางตัวแทนศาลยุติธรรมจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจท้องที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” รอง ผบช.น. กล่าว
ส่วนการดูแลความปลอดภัยการชุมนุมในวันที่ 10 มี.ค. เวลา 17.00 น. ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้มีการจัดวางกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนไว้ดูแลความสงบเรียบร้อยตามแผนปกติ ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์ว่าจะมีการปรับแผนอย่างไรหรือไม่
เตรียมพิจารณาชุมนุมหน้าศาล เข้าข่ายละเมิดหรือไม่
ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า โดยปกติเมื่อเกิดการชุมนุม หรือเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ทางเจ้าของพื้นที่คือศาลอาญารัชดาภิเษกจะเป็นผู้พิจารณาว่ามีการกระทำใดที่เข้าข่ายละเมิดศาลบ้าง หากพบมีการละเมิดศาลจะทำเรื่องรายงานถึงสำนักกิจการคดี ศาลยุติธรรม เพื่อพิจารณาหาแนวทางดำเนินการต่อ หากจะดำเนินคดีจะมีคำสั่งให้ศาลศาลอาญารัชดาภิเษกส่งตัวแทนไปแจ้งความกับตำรวจท้องที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
“ศาลยุติธรรมจะใช้ความอดทน เพราะไม่ต้องการไปเป็นคู่ความกับประชาชนผู้ชุมนุม อะไรที่ไม่มากเกินไปก็จะปล่อยผ่าน เพราะศาลเป็นองค์กรที่ต้องดำรงความยุติธรรมกับสังคม ไม่ใช่จะจ้องเอาผิดกับประชาชนเพียงอย่างเดียว จึงอยากขอร้องให้ผู้ชุมนุมคำนึงถึงสิทธิของผู้อื่นด้วย คิดทบทวนให้ดีก่อนที่จะทำอะไรลงไปที่ผิดกฎหมาย” นายสุริยัณห์ กล่าว
อดีตคณบดีนิติฯ มธ.ชงให้ประกัน3นิ้วแบบมีเงื่อนไข
นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โพสต์เฟซบุ๊กสั้นว่า ให้ประกันโดยกำหนดเงื่อนไขว่าต้องไม่ก่อม็อบ ไม่พูดถึงสถาบันต่อสาธารณชนอีกในระหว่างการพิจารณาคดีก็น่าจะทำได้ ทำไมต้องเอาเข้าคุกด้วย
"รุ้ง" ส่งสารสาวกระดมพลให้ถึงล้าน
เฟซบุ๊กเพจ "แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม" โพสต์ข้อความของ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ซึ่งถูกคุมขังที่ ทัณฐานหญิงกลาง โดยมีรายละเอียดดังนี้
แถลงการณ์ จาก รุ้ง - ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ถึงเพื่อน พ่อ แม่ พี่ น้อง ผู้รักประชาธิปไตยทุกคน
หากทุกท่านได้รับสารนี้ ตัวรุ้งเองคงไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว รุ้งและเพื่อน ๆ อีกหลายคนคงไปอยู่ในเรือนจำ ด้วยกระบวนการอันแสนจะอยุติธรรมในประเทศนี้ที่ปิดปากผู้เห็นต่าง มิหนำซ้ำเรายังถูกผลักไสให้กลายเป็นศัตรูโดยรัฐ ถูกคุกคาม ปราบปราม จับกุม คุมขัง ด้วยเหตุเพียงว่าพวกเราฝันใฝ่ในสิทธิเสรีภาพ และสังคมที่ดีกว่า
แม้ตัวรุ้งจะไม่อยู่ตรงนี้แล้วแต่การต่อสู้ของพวกเรายังต้องดำเนินต่อ เพราะการต่อสู้นี้เป้าหมายของพวกเราอันประกอบไปด้วยข้อเรียกร้องคือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และองคาพยพ ลาออก 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับประชาชน และ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย ข้อเรียกร้องเหล่านี้แม้ตัวของรุ้งเองจะไม่ได้อยู่ตรงนี้ รุ้งอยากให้ทุกคนสานต่อมัน สานต่อความฝันว่าวันหนึ่ง เราจะมีรัฐสวัสดิการที่ดี เราจะไม่เห็นใครอดอยาก เราจะไม่เห็นใครสูงส่งกว่าใคร และ เราจะมีสังคมประชาธิปไตยที่เสมอภาคและเท่าเทียม
การต่อสู้ของพวกเราคือการต่อสู้ที่เป็นระยะทางที่ยาวไกลมาก การต่อสู้นี้คือการเดินทางไกลของพวกเรา พวกเราทุกคนต่างเห็นแล้วว่าเป้าหมายของเราอยู่ข้างหน้าและเราจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน แต่กระนั้นเองการที่เราจะเดินไปถึงเป้าหมายนั้นได้ เราย่อมต้องพึ่งความเป็นวินัยและความเป็นเอกภาพอยู่อย่างเสมอ อย่าตกเป็นเครื่องมือของรัฐในการที่พวกเขานั้นจะใช้สลายเราด้วยความรุนแรงเหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มา หากแต่เราต้องสู้ด้วยความอดทนอดกลั้นต่ออำนาจที่ไม่ชอบธรรมนี้
ในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเราจึงจำเป็นต้องที่จะยึดมั่นในการต่อสู้ด้วยสันติวิธีมากกว่าครั้งใด สันติวิธีในที่นี้คือพวกเราจะไม่เป็นผู้ที่เริ่มก่อน เราจะไม่เป็นผู้ที่ใช้ความรุนแรง เพราะหากเราขาดสติและตอบโต้มันด้วยความรุนแรง พวกรัฐบาลศักดินาชั่วย่อมที่จะใช้มันเป็นโอกาสที่จะย้อนกลับมาทำร้ายเราอย่างแน่นอน ซึ่งการที่รัฐนั้นเป็นผู้กระทำเราก่อนย่อมหมายถึงการทำลายภาพอันดูศักดิ์สิทธิ์และ ชอบธรรม ที่ไม่ใช่แค่เพียงรัฐบาลเผด็จการ แต่หมายถึงการที่กลับไปลดทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้อยู่เบื้องหลัง
เพดานของพวกเราทุกคนนั้นถูกผลักออกมาไกลจากปีที่แล้วมาก จงอย่าก้มลงและหมอบคลานให้กับอำนาจมืดและศักดินาอีก ขอพึงระลึกถึงการต่อสู้นี้ว่าเราต้องทำอย่างมีแบบแผน มีวินัย และมีเอกภาพ เราต้องมีทั้งสามสิ่งนี้กว่าครั้งไหน ๆ ในห้วงเวลาอันแสนมืดมนนี้ รุ้งอยากจะขอร้อง ขอในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ขอในฐานะคนหนึ่งคนที่ออกมาต่อสู้กับทุกคนว่าให้ออกมากันเถิด ออกมาให้ถึงหมื่น ออกมาให้ถึงแสน และออกมาให้ถึงล้าน ต่อให้วันใดที่ฟ้ามืดมิดที่สุด เราทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็ตามในพื้นแผ่นดิน จะเป็นเปลวไฟแห่งแสงคอยส่องให้ประเทศกลับมาสดใสและสว่างอีกครั้ง
สุดท้ายนี้เองกล่าวกันตามตรงกับพี่น้องทุกคนว่า หนทางข้างหน้าของเราไม่ใช่หนทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ การที่เราจะมุ่งสู่เป้าหมายได้นั้นย่อมต้องพึ่งพลัง มานะ และความอดทนของเพื่อนพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้มั่นยึดในอุดมการณ์ประชาธิปไตยและสันติวิธี ขอให้ทุกคนยึดมั่นถึงสังคมที่เท่าเทียมและรัฐสวัสดิการที่มนุษย์ทุกคนพึงต้องได้รับ
ทนายร้องศาลขอย้าย "โตโต้-ไผ่-ไมค์"
ที่ศาลอาญา นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ เข้ายื่นคำร้องขอให้ศาลออกคำสั่งให้นำตัว นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ , นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง จากเรือนจำพิเศษธนบุรี มาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ให้ตรงกับหมายขังระหว่างสอบสวนและพิจารณาคดี เนื่องจากหมายขังจะต้องจัดการให้เป็นไปตามเขตของศาล
นอกจากนี้การนำตัวไปขังในเรือนจำที่ห่างไกล นั้นกระทบกระเทือนต่อสิทธิในการต่อสู้คดีของผู้ต้องหาและสิทธิอื่นๆ เนื่องจากทนายความและญาติเข้าเยี่ยมไม่สะดวก โดยหลังจากยื่นคำร้องไปแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งศาล
วานนี้ (10 มี.ค. คณะจุฬาฯ ร่วมกับ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) และ สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย I Student Council of Chulalongkorn University ได้ร่วมจัดกิจกรรมไว้อาลัยให้กระบวนการยุติธรรมไทย ที่ไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน ณ ลานจักรพงษ์ เพื่อไว้อาลัยความยุติธรรมของประเทศไทย และมอบดอกไม้ให้กำลังใจแก่ผู้ปกครองของแกนนำม็อบที่ถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรม และไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
โดยกลุ่มแกนนำที่ถูกคุมขัง ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒกุล หรือรุ้ง, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง, นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดกลุ่ม We Volunteer หรือวีโว่
ขณะที่การชุมนุมคู่ขนานที่บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ของกลุ่มมวลชนอิสระ เริ่มคึกคักขึ้น โดยมี น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา แกนนำมวลชนได้ปราศรัย โจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่บริหารประเทศล้มเหลว ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้รับสวัสดิการการดูแลให้ดีขึ้น รวมถึงยังมีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย และได้ยุติลงตามเวลาประมาณ 21.00 น.
"ม็อบเดินทะลุฟ้า V.2" นัดบุกประชิดรั้วทำเนียบรัฐบาล 13 มี.ค.นี้
เพจฯเฟซบุ๊ก "UNME of Anarchy" ภาคีกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎร ซึ่งจัดกิจกรรม เดินทะลุฟ้า V.1 คือเดินจากจังหวัดนครราชสีมา มาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมระยะทาง 247.5 กิโลเมตร เพื่อชู 3 ประเด็น คือ 1.ปล่อยเพื่อนที่ถูกจับกุม 2. แก้รัฐธรรมนูญ และ 3. ยกเลิก ม.112 นั้น
ล่าสุดเพจฯดังกล่าวได้เผยแพร่กิจกรรม เดินทะลุฟ้า ได้เผยแพร่การทำกิจกรรม V.2 ในวันเสาร์ที่ 13 มี.ค.นี้ เวลา 14:00 น. โดยจะเริ่มเดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปยังทำเนียบรัฐบาล
"เราจะเริ่มเดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปทำเนียบรัฐบาล เดินไปสร้างหมู่บ้านทะลุฟ้า เขียนรัฐธรรมนูญประชาชน
นอกจากนี้เรายังเปิดพื้นที่ เปิดรับความหลากหลายของปัญหา ใครมีปัญหาหรือเรื่องอะไรอยากบอกต่อหรือสร้างกิจกรรมก็สามารถมาเข้าร่วมกับเราได้
ส่วนการเตรียมตัวสำหรับค้างคืนกับเรา เราแนะนำให้เตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาด้วย เช่น เต็นท์ หมอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า และอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว"
ตร.เร่งรวมรวบหลักฐานเอาผิดม็อบ 9 มี.ค.
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ผลสรุปการปฏิบัติงานจากสถานการณ์การชุมนุม เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่า การชุมนุมมี 2 จุด คือ 1.ที่หน้าศาลอาญารัชดาภิเษก โดยกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ 2.ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และกลุ่มแดงก้าวหน้า 63 ซึ่งการชุมนุมทั้ง 2 จุด พบการกระทำความผิด พ.ร.บ.จราจร ที่กีดขวางถนน , ผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ที่มาชุมนุมกันในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และ พ.ร.บ.ความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
“ในส่วนการชุมนุมที่หน้าศาลอาญารัชดาภิเษกนั้น ทางศาลยุติธรรมกำลังพิจารณาว่ามีการละเมิดศาลหรือไม่ อย่างไร หากพบว่ามีการละเมิดศาล ทางตัวแทนศาลยุติธรรมจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจท้องที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” รอง ผบช.น. กล่าว
ส่วนการดูแลความปลอดภัยการชุมนุมในวันที่ 10 มี.ค. เวลา 17.00 น. ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้มีการจัดวางกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนไว้ดูแลความสงบเรียบร้อยตามแผนปกติ ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์ว่าจะมีการปรับแผนอย่างไรหรือไม่
เตรียมพิจารณาชุมนุมหน้าศาล เข้าข่ายละเมิดหรือไม่
ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า โดยปกติเมื่อเกิดการชุมนุม หรือเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ทางเจ้าของพื้นที่คือศาลอาญารัชดาภิเษกจะเป็นผู้พิจารณาว่ามีการกระทำใดที่เข้าข่ายละเมิดศาลบ้าง หากพบมีการละเมิดศาลจะทำเรื่องรายงานถึงสำนักกิจการคดี ศาลยุติธรรม เพื่อพิจารณาหาแนวทางดำเนินการต่อ หากจะดำเนินคดีจะมีคำสั่งให้ศาลศาลอาญารัชดาภิเษกส่งตัวแทนไปแจ้งความกับตำรวจท้องที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
“ศาลยุติธรรมจะใช้ความอดทน เพราะไม่ต้องการไปเป็นคู่ความกับประชาชนผู้ชุมนุม อะไรที่ไม่มากเกินไปก็จะปล่อยผ่าน เพราะศาลเป็นองค์กรที่ต้องดำรงความยุติธรรมกับสังคม ไม่ใช่จะจ้องเอาผิดกับประชาชนเพียงอย่างเดียว จึงอยากขอร้องให้ผู้ชุมนุมคำนึงถึงสิทธิของผู้อื่นด้วย คิดทบทวนให้ดีก่อนที่จะทำอะไรลงไปที่ผิดกฎหมาย” นายสุริยัณห์ กล่าว
อดีตคณบดีนิติฯ มธ.ชงให้ประกัน3นิ้วแบบมีเงื่อนไข
นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โพสต์เฟซบุ๊กสั้นว่า ให้ประกันโดยกำหนดเงื่อนไขว่าต้องไม่ก่อม็อบ ไม่พูดถึงสถาบันต่อสาธารณชนอีกในระหว่างการพิจารณาคดีก็น่าจะทำได้ ทำไมต้องเอาเข้าคุกด้วย
"รุ้ง" ส่งสารสาวกระดมพลให้ถึงล้าน
เฟซบุ๊กเพจ "แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม" โพสต์ข้อความของ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ซึ่งถูกคุมขังที่ ทัณฐานหญิงกลาง โดยมีรายละเอียดดังนี้
แถลงการณ์ จาก รุ้ง - ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ถึงเพื่อน พ่อ แม่ พี่ น้อง ผู้รักประชาธิปไตยทุกคน
หากทุกท่านได้รับสารนี้ ตัวรุ้งเองคงไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว รุ้งและเพื่อน ๆ อีกหลายคนคงไปอยู่ในเรือนจำ ด้วยกระบวนการอันแสนจะอยุติธรรมในประเทศนี้ที่ปิดปากผู้เห็นต่าง มิหนำซ้ำเรายังถูกผลักไสให้กลายเป็นศัตรูโดยรัฐ ถูกคุกคาม ปราบปราม จับกุม คุมขัง ด้วยเหตุเพียงว่าพวกเราฝันใฝ่ในสิทธิเสรีภาพ และสังคมที่ดีกว่า
แม้ตัวรุ้งจะไม่อยู่ตรงนี้แล้วแต่การต่อสู้ของพวกเรายังต้องดำเนินต่อ เพราะการต่อสู้นี้เป้าหมายของพวกเราอันประกอบไปด้วยข้อเรียกร้องคือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และองคาพยพ ลาออก 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับประชาชน และ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย ข้อเรียกร้องเหล่านี้แม้ตัวของรุ้งเองจะไม่ได้อยู่ตรงนี้ รุ้งอยากให้ทุกคนสานต่อมัน สานต่อความฝันว่าวันหนึ่ง เราจะมีรัฐสวัสดิการที่ดี เราจะไม่เห็นใครอดอยาก เราจะไม่เห็นใครสูงส่งกว่าใคร และ เราจะมีสังคมประชาธิปไตยที่เสมอภาคและเท่าเทียม
การต่อสู้ของพวกเราคือการต่อสู้ที่เป็นระยะทางที่ยาวไกลมาก การต่อสู้นี้คือการเดินทางไกลของพวกเรา พวกเราทุกคนต่างเห็นแล้วว่าเป้าหมายของเราอยู่ข้างหน้าและเราจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน แต่กระนั้นเองการที่เราจะเดินไปถึงเป้าหมายนั้นได้ เราย่อมต้องพึ่งความเป็นวินัยและความเป็นเอกภาพอยู่อย่างเสมอ อย่าตกเป็นเครื่องมือของรัฐในการที่พวกเขานั้นจะใช้สลายเราด้วยความรุนแรงเหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มา หากแต่เราต้องสู้ด้วยความอดทนอดกลั้นต่ออำนาจที่ไม่ชอบธรรมนี้
ในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเราจึงจำเป็นต้องที่จะยึดมั่นในการต่อสู้ด้วยสันติวิธีมากกว่าครั้งใด สันติวิธีในที่นี้คือพวกเราจะไม่เป็นผู้ที่เริ่มก่อน เราจะไม่เป็นผู้ที่ใช้ความรุนแรง เพราะหากเราขาดสติและตอบโต้มันด้วยความรุนแรง พวกรัฐบาลศักดินาชั่วย่อมที่จะใช้มันเป็นโอกาสที่จะย้อนกลับมาทำร้ายเราอย่างแน่นอน ซึ่งการที่รัฐนั้นเป็นผู้กระทำเราก่อนย่อมหมายถึงการทำลายภาพอันดูศักดิ์สิทธิ์และ ชอบธรรม ที่ไม่ใช่แค่เพียงรัฐบาลเผด็จการ แต่หมายถึงการที่กลับไปลดทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้อยู่เบื้องหลัง
เพดานของพวกเราทุกคนนั้นถูกผลักออกมาไกลจากปีที่แล้วมาก จงอย่าก้มลงและหมอบคลานให้กับอำนาจมืดและศักดินาอีก ขอพึงระลึกถึงการต่อสู้นี้ว่าเราต้องทำอย่างมีแบบแผน มีวินัย และมีเอกภาพ เราต้องมีทั้งสามสิ่งนี้กว่าครั้งไหน ๆ ในห้วงเวลาอันแสนมืดมนนี้ รุ้งอยากจะขอร้อง ขอในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ขอในฐานะคนหนึ่งคนที่ออกมาต่อสู้กับทุกคนว่าให้ออกมากันเถิด ออกมาให้ถึงหมื่น ออกมาให้ถึงแสน และออกมาให้ถึงล้าน ต่อให้วันใดที่ฟ้ามืดมิดที่สุด เราทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็ตามในพื้นแผ่นดิน จะเป็นเปลวไฟแห่งแสงคอยส่องให้ประเทศกลับมาสดใสและสว่างอีกครั้ง
สุดท้ายนี้เองกล่าวกันตามตรงกับพี่น้องทุกคนว่า หนทางข้างหน้าของเราไม่ใช่หนทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ การที่เราจะมุ่งสู่เป้าหมายได้นั้นย่อมต้องพึ่งพลัง มานะ และความอดทนของเพื่อนพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้มั่นยึดในอุดมการณ์ประชาธิปไตยและสันติวิธี ขอให้ทุกคนยึดมั่นถึงสังคมที่เท่าเทียมและรัฐสวัสดิการที่มนุษย์ทุกคนพึงต้องได้รับ
ทนายร้องศาลขอย้าย "โตโต้-ไผ่-ไมค์"
ที่ศาลอาญา นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ เข้ายื่นคำร้องขอให้ศาลออกคำสั่งให้นำตัว นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ , นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง จากเรือนจำพิเศษธนบุรี มาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ให้ตรงกับหมายขังระหว่างสอบสวนและพิจารณาคดี เนื่องจากหมายขังจะต้องจัดการให้เป็นไปตามเขตของศาล
นอกจากนี้การนำตัวไปขังในเรือนจำที่ห่างไกล นั้นกระทบกระเทือนต่อสิทธิในการต่อสู้คดีของผู้ต้องหาและสิทธิอื่นๆ เนื่องจากทนายความและญาติเข้าเยี่ยมไม่สะดวก โดยหลังจากยื่นคำร้องไปแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งศาล