xs
xsm
sm
md
lg

ว่าด้วยเรื่อง... “สองโลกาประชาธิปไตย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย
วันนี้...สงสัยคงต้องไปว่ากันเรื่องประเภท “แนวคิด” “ทฤษฎี” หรือหนักไปทาง “แนวทาง” ที่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง การปกครองของประเทศโน้น ประเทศนี้ สังคมโน้น สังคมนี้ ซึ่งแม้จะเป็นอะไรที่ออกจะ “หนักหัว-หนักกบาล” อยู่ตามสมควร แต่คงต้องหันมาให้ความสนใจเอาไว้มั่ง แม้เล็กๆ น้อยก็ยังดี เพราะอะไรต่อมิอะไรที่มันกำลังเป็น “ปัญหา” และ “ตัณหา” ในบ้านนั้น เมืองโน้น หรือแม้แต่ “เมืองนี้” ย่อมต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง พัวพันอยู่กับบรรดาแนวคิดและทฤษฎีในทางการเมือง การปกครอง โดยเฉพาะ แบบที่เรียกๆ กันว่า “ประชาธิปไตย” ทั้งหลาย นั่นแล...

อย่างบ้านเรา...ที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจเพิ่งผ่านไปแบบสดๆ ร้อนๆ โดยไม่ว่าจะกร่อยแสนกร่อยปานประดุจ “น้ำล้างหัวล้าน” หรือพอจะ “หวานมันซ์ซ์ซ์ฉันคือเธอ” ตาม “รสนิยม” ของใคร-ของมันก็แล้วแต่ เอาไป-เอามาแล้ว...ย่อมเกี่ยวกับทิศทางความเป็นประชาธิปไตย-ไม่ประชาธิปไตย ตามความหมาย คำนิยาม ของใครต่อใครไปตามเรื่อง-ตามราวนั่นแหละทั่น หรือที่บ้านเขา บ้านใกล้-เรือนเคียง อย่างพม่า หรือเมียนมา ซึ่งยังหาทางออก ทางไป แทบไม่เจอจนตราบเท่าทุกวันนี้ ต้องตายโหง ตายห่า กันชนิดรายแล้ว รายเล่า ก็หนีไม่พ้นความสืบเนื่อง สืบต่อ ของการบริหาร-จัดการกับความประชาธิปไตย หรือกับกระบวนการเลือกตั้งคราวล่าสุด ที่รัฐบาลพลเรือนของ “นางอองซาน ซูจี” ถูกตั้งข้อกล่าวหาโดย “เผด็จการทหาร” ของ “นายพลมิน อ่อง หล่าย” ว่า “โกงเลือกตั้ง” หรือ “ขโมยเลือกตั้ง” แบบเดียวกับ “ทรัมป์บ้า” อดีตผู้นำอเมริกา กล่าวหา “ผู้เฒ่าโจ” ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน แบบเดียวกันเป๊ะๆๆ...

และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้เมื่อช่วงวันศุกร์ (19 ก.พ.) ที่ผ่านมา ขณะเดินทางไปพูดจาปราศรัยเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ ในเวทีประชุมความมั่นคงระหว่างประเทศ หรือเวทีประชุม “MSC” (Munich Security Conference) ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ อย่าง “ผู้เฒ่าโจ” ท่านถึงได้หันมาเน้น หันมาให้ความสำคัญเอามากๆ กับเรื่องความเป็นประชาธิปไตย-ไม่เป็นประชาธิปไตย ตามความหมาย คำนิยาม หรือตามมาตรฐานของตัวเองแบบจริงๆ จังๆ โดยออกจะให้ความยอมรับอยู่พอสมควร ว่าไม่ว่าจะเป็น “ประชาธิปไตยอเมริกา” หรือ “ประชาธิปไตยในยุโรป” ต่างกำลังเป็น “ปัญหา” เพราะต้องเจอกับ “ตัณหา” ไปด้วยกันทั้งสิ้น อันทำให้ “ความเป็นประชาธิปไตย” (Democracy) กำลังเข้าสู่จุดแห่งการเบี่ยงเบนจนอาจนำไปสู่ “ความเป็นเอกาธิปไตย” (Autocracy) เอาง่ายๆ หรือการใช้ความคิด ความเห็นของตัวเองเป็นมาตรฐาน ด้วยการ “บุกรัฐสภาอเมริกา” เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาหรือไม่ อย่างไร อันนั้น...คงต้องไปถามท่านเอาเองก็แล้วกัน...

แต่เอาเป็นว่า...ไม่ว่าท่านจะหมายความอย่างไร จะนิยามอย่างไร ประชาธิปไตยตามแบบฉบับอเมริกา และประชาธิปไตยในยุโรป ซึ่งต่างต้องถือเป็น “ประชาธิปไตยเสรีนิยม” หรือ “ประชาธิปไตยที่ถูกขับเคลื่อนโดยทุนนิยมเสรี” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ออกจะเป็นอะไรที่มี “ปัญหา” มานานแล้ว หรือมีมาก่อนหน้าที่ผู้นำอย่าง “ทรัมป์บ้า” จะผงาดขึ้นเป็นประธานาธิบดีอเมริกันเอาเลยด้วยซ้ำ จนทำให้พวกเสรีนิยมใหม่ หรือพวก “ลิเบอรัล” ทั้งหลาย ต้องกลายสภาพเป็น “ลิเบอร่าน” ไปตามๆ กัน และนั่นเอง...ที่ทำให้ผู้นำโลกเสรี อย่าง “ผู้เฒ่าโจ” ท่านเลยต้องลุกขึ้นมาสร้างแรงกระตุ้น แรงจูงใจ สร้างความหวัง ความมั่นอก มั่นใจให้กับบรรดาประเทศประชาธิปไตยตามแบบตะวันตก หรือประชาธิปไตยที่ถูกขับเคลื่อนโดยทุนนิยมเสรีกันแบบจริงๆ จังๆ ดังเช่นคำพูดจาปราศรัย ที่เน้นเอาไว้ว่า... “เราต้องปกป้องมัน (ประชาธิปไตยตามแบบตะวันตก) สร้างความแข็งแกร่งให้มัน ต้องปรับปรุงขึ้นมาใหม่ เราต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า แบบอย่าง แนวทาง ของเรา ไม่ใช่เป็นเพียงแค่วัตถุโบราณในประวัติศาสตร์แต่เพียงเท่านั้น นี่คือวิธีการเดียวที่ดีที่สุด และเป็นจริงเป็นจังที่สุด ในการสร้างคำมั่นสัญญาให้กับอนาคตของเรา โดยถ้าหากเราร่วมมือ-ร่วมใจกันในหมู่ประเทศหุ้นส่วนประชาธิปไตย ด้วยความแน่วแน่และเชื่อมั่น ประชาธิปไตยจะเป็นฝ่ายชนะแน่นอน” นี่...ต้องเรียกว่าอาจส่งผลให้นักประชาธิปไตยบ้านเรา อย่างคุณน้อง “ธนาธร” คุณน้อง “ปิยบุตร” เกิดอาการซู๊ดๆ ซ๊าดๆ หรือไม่ เพียงใด ไปถึงขั้นไหนต่อขั้นไหน คงต้องไปสอบถามกันเอาเองก็แล้วกัน ส่วนการคิด “ปรับปรุงมันขึ้นมาใหม่” จะเป็นไปในแนวเดียวกับ “The Great Reset” ของประธาน “World Economic Forum” และมกุฎราชกุมารอังกฤษ หรือแบบ “Build Back Better” ตามคำโฆษณาหาเสียงของ “ผู้เฒ่าโจ” เอง หรือไม่ อย่างไร ก็คงต้องคอยติดตามกันต่อไปเป็นระยะๆ...

แต่โดยสรุปรวมความแล้ว...ก็เอาเป็นว่า อาจด้วยเหตุเพราะ “ความเป็นตะวันตก” หรือ “ประชาธิปไตยแบบตะวันตก” ที่เคยเป็นอะไรที่สุดแสนจะสูงส่ง วิเศษวิเสโส ชนิดทาก็ได้ ดมก็ได้ หรืออม-หยอด-สอด-เสียบได้เสมอๆ ในสายตาของบรรดาชาวรัสเซียนับตั้งแต่แนวคิดทฤษฎี หรือแนวทางแบบ “คอมมิวนิสต์” ได้พังทลายต่อหน้าต่อตากันเห็นๆ เมื่อไม่กี่สิบปีที่แล้ว แต่มาถึง ณ วันนี้ ณ ขณะนี้ ภายใต้ผู้นำที่แข็งแกร่ง เฉียบขาด คมกริบ ไม่ต่างอะไรไปจาก “หมีขาว” เอาเลยก็ไม่แน่ นั่นคือท่านประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” การประกาศ “ไม่เอากับประชาธิปไตยแบบตะวันตก” หรือกระทั่ง “ไม่เอากับความเป็นตะวันตก” ดูจะเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างเป็นทางการ และอย่างเป็นงาน เป็นการ ยิ่งเข้าไปทุกที ใครที่อยากรู้รายละเอียด ตื้น-ลึก-หนา-บาง คงต้องลองไปหาอ่านข้อเขียน บทความ เรื่อง “Why Russia is Driving the West cracy” ของ “นายเปเป้ เอสโคบาร์” (Pepe Escobar) ที่เว็บไซต์ “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮา นำมาถ่ายทอดไว้เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา ในชื่อเรื่องประมาณว่า... “เบื้องลึก...ปูติน...นำรัสเซียสู่เส้นทางยูเรเชีย ชูประชาธิปไตยที่มีอธิปไตย ไม่ยอมเป็นเด็กฝึกงานประชาธิปไตยเสรีของตะวันตก” ทำนองนั้น...

คือด้วยเหตุเพราะความที่ลักษณะทางภูมิศาสตร์ ภูมิรัฐศาสตร์ สภาพแวดล้อม สีสันบรรยากาศ หรืออะไรต่อมิอะไรในรัสเซียก็แล้วแต่ มันออกจะไม่สอดคล้องต้องกันกับ “ความเป็นตะวันตก” ซะทีเดียวนัก หรือยังมี “ลักษณะพิเศษ” บางอย่าง บางประการ ตามทัศนะของชาวรัสเซีย หรือของ “นายเปเป้ เอสโคบาร์” ก็แล้วแต่ ที่พยายามอรรถาธิบายเอาไว้ชนิดน่าปวดเศียรเวียนเกล้ามิใช่น้อย การนำเสนอ หรือการ “ชูธง” ประชาธิปไตยที่มีลักษณะเฉพาะแบบรัสเซีย หรือ “ประชาธิปไตยที่ต้องมีอำนาจอธิปไตยแบบเป็นจริงเป็นจัง” (Sovereign Democracy) จึงอุบัติขึ้นมาท่ามกลางความตกต่ำของประชาธิปไตยแบบตะวันตก และท่ามกลางความตกต่ำของ “ความเป็นตะวันตก” หรือ “Westlessness” ที่เคยพูดๆ เอาไว้แล้วนั่นเอง...

โดยถ้าหากยังไม่จุใจ สะใจ อาจต้องไปคว้าเอาข้อเขียน บทความ อีกบทหนึ่ง โดย “นายฟรานเชสโก ซิสซี” (Francesco Sisci) ที่เว็บไซต์ “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮาก็พร้อมนำมาแปล มาถ่ายทอด เอาไว้อีกนั่นแหละ คือบทความว่าด้วยเรื่อง... “เมื่อจีนยุติการถือเอาสหรัฐฯ เป็นแบบอย่าง หลังจากเคยทำท่าสนใจเดินตามประชาธิปไตยแบบตะวันตก” หรือ “When China stopped following the US” โดยจะมีการประดิษฐ์คิดค้นประชาธิปไตยแบบใหม่ หรือแบบที่ต้องมีอธิปไตยอย่างคุณน้ารัสเซีย หรือจะออกไปทาง “เผด็จการล้วนๆ” หรือ “ประชาธิปไตยรวมศูนย์” ตามแบบพรรคคอมมิวนิสต์จีนของแท้แต่ดั้งเดิม อันนั้น...คงต้องไปนั่งคิด นอนคิด กันเอาเองก็แล้วกัน...

แต่โดยสรุปรวมความแล้ว...อาจต้องถือเป็น “จุดเริ่มต้น” ของความพยายามสร้างความแตกต่างระหว่าง “โลกตะวันตก” กับ “โลกที่ไม่ใช่ตะวันตก” โดยจะเรียกว่าโลกเสรี-ไม่เสรีแบบเก่าๆ เดิมๆ หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ แต่ภายใต้ความแตกต่างในลักษณะเช่นนี้นี่เองที่...อาจนำไปสู่การปะทะ ขัดแย้ง ไม่ต่างอะไรไปจากยุคสงครามเย็น หรืออาจหนักซะยิ่งกว่ายุคสงครามเย็นเอาเลยก็ไม่แน่!!! โดยที่ใครชนะ-ใครแพ้ คงไม่หนักหนาสาหัส เท่ากับการต้องค้นหา “คำตอบ” ให้ชัดเจน แจ่มแจ้ง เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าสุดท้ายแล้ว...ประชาธิปไตยแบบไหนกันแน่??? ที่จะนำพาผู้คนไปสู่ความอยู่-เย็น-เป็นสุข ไม่ถูกเอารัด-เอาเปรียบ โดยผู้ปกครองมากมายเกินไปนัก หรือประชาธิปไตยของประชาชน-โดยประชาชน-และเพื่อประชาชน ไม่ใช่ประชาธิปไตยของพ่อค้า-โดยพ่อค้า-และเพื่อพ่อค้า ที่ทำให้เกิด “ปัญหา” ควบคู่ไปกับ “ตัณหา” อย่างเช่นตราบเท่าทุกวันนี้...




กำลังโหลดความคิดเห็น