ผบช.น.เผย ดำเนินคดีม็อบราษฎร 8 ราย ก่อความวุ่นวายปาระเบิด และสิ่งของใส่ตำรวจ เจ็บ 23 นาย ย้ำยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อคุมสถานการณ์ โต้ "เฌอเอม" ตร.ไม่ใช้แก๊สน้ำตา ด้านการ์ดม็อบแตกกันเละ "สมบัติ ทองย้อย" อดีตหน.การ์ด แฉมีการปลุกระดม
กรณีม็อบคณะราษฎรนัดชุมนุม จัดกิจกรรมนับ 1 ถึงล้านคืนอำนาจให้ประชาชน เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเคลื่อนขบวนไปบริเวณหน้าศาลฎีกา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแนวสกัดอยู่ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม ขว้างปาสิ่งของ ประทัดยักษ์ และระเบิดปิงปองเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น นอกจากนี้ยังมีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มไปที่สน.นางเลิ้ง เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม
วานนี้ (14 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เมื่อเวลา 18.00 น.(13ก.พ.) กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนตัวจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาที่หน้าศาลหลักเมือง ตำรวจได้ประกาศเตือนว่า เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขอให้ยุติการชุมนุม แต่ก็ถูกขว้างปาด้วย สิ่งของมีทั้งระเบิดปิงปอง ก้อนหิน ขวดน้ำ และวัตถุอื่นๆ เป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 23 นาย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิด และได้รับผลกระทบทางการได้ยิน อยู่ระหว่างรักษาตัวในรพ.
ต่อมาแกนนำได้ประกาศยุติการชุมนุม แต่มีบางส่วนยังก่อความวุ่นวาย ยื้อเวลากว่า 30 นาที ตำรวจจำเป็นต้องยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ยืนยันไม่มีคำสั่งใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง ส่วนที่ปรากฏภาพตำรวจรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่พยาบาล (กั๊กเขียว) จากการตรวจสอบบุคคลดังกล่าว ไม่ใช่พยาบาล อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม อาสาเป็นหน่วยปฐมพยาบาล และพบว่าอยู่ในกลุ่มที่ก่อความวุ่นวาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าชายรายนี้ พกอาวุธซุกซ่อนอยู่ภายในเสื้อกั๊กพยาบาลด้วย
หลังเกิดความวุ่นวาย ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ 11 ราย เบื้องต้นดำเนิน คดี 8 ราย ข้อหา พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานและทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน นำตัวไปควบคุมไว้ที่ บก.ตชด.ภาค 1 ส่วนอีก 3 ราย เมาสุราไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม เปรียบเทียบปรับ และปล่อยตัวไป ทั้งนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมที่รื้อถอนสิ่งของรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำร้ายร่างกายตำรวจ
หน.การ์ดเดือดโยนระเบิดใส่พวกเดียวกัน
ด้านนายสมบัติ ทองย้อย อดีตหัวหน้าการ์ดม็อบราษฎร และการ์ดเสื้อแดง โพสต์เฟชบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์การชุมนุมของม็อบราษฎร โดยระบุถึงเหตุการณ์ตอนหนึ่งว่า ตนเองและนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ“ครูใหญ่”แกนนำม็อบราษฎร เข้าไปเจรจากับจนท. แต่กลับมีกลุ่มม็อบบางส่วนไม่พิจารณาสถานการณ์ ตั้งเป้าจะใช้ความรุนแรง จนในที่สุดแม้แต่พวกเดียวกัน ยังต้องหนีหัวซุกหัวซุน
"ครูใหญ่เข้าไปเจรจา กูก็เข้าไปด้วย ข้างนอกก็ เฮิ่มๆๆๆ จะบวก จะบวก ส่วนรถเครื่องเสียง ใครไม่รู้แม่งนับถอยหลัง 10-9-8-7-6-5-4-3-2-1 สิ้นเสียง1 ระเบิด ประทัดยักษ์ ขวดน้ำ สารพัดลอยมาทั้งๆ ที่กู ครูใหญ่ ยังอยูในฝั่งตำรวจ กูนี่มุดหัวซุกหัวซุนกับครูใหญ่ นักข่าว พอหลุดออกมาได้ ด่าแม่งโลด เขวี้ยงหาพ่องงมึงหรือ พวกกูยังอยู่ข้างในกันอยู่เลย แล้วถ้าหล่นใส่หัวพวกเดียวกันเอง จะว่ายังไงว๊ะ โมโห เหี้ยๆ แม่งไม่ประสานกันเลย แบบนี้แม่งเละ เหี้ยๆ"
"ไม่มีมือที่สาม ที่ไม่ยอมกลับนั้นการ์ด และมวลชนทั้งนั้น ปลุกปั่นอารมณ์กันมาตลอดวัน วันนี้ไม่ถึงศาลหลักเมืองไม่ถอย สู้ตาย การ์ดทุกๆคน ทำหน้าที่ตัวเองเป็นตัวปะทะ พามวลชนมาอีกนิดเดียวจะถึง ปะทะกันรอบแรก ปิงปอง ปาระเบิดเบาๆ แกนนำเข้าไปเจรจา ออกมาไม่พูดอะไรเรียกสื่อมาถ่ายรูปรุ้ง กับ วีโว่เทสี เขียนสีที่แผงเหล็ก แถลงข่าวกับสื่อ บนรถประกาศให้แยกย้ายกลับบ้าน ทุกคนงง การ์ด และมวลชนไม่ยอมกลับอารมณ์ค้าง
แหวนซ้ำเติมสถานการณ์เอาทีมรถพยาบาลมาวิ่งวน เหมือนจะไล่กวาดคนให้ถอย กับเอารถขยายเสียงมาด่ามวลชน ใครไม่กลับไม่ใช่พวก ไม่รับผิดชอบโดนโห่ไล่ ด่ากลับจนต้องวางไมค์ อยากให้ฟังน้ำเสียงแหวนดู ไม่มีจิตวิทยา คุมอารมณ์คนไม่อยู่ ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น ระเบิด ประทัด สารพัด วีโว่ ก็จะโดนกระทืบเอา ไอ้ที่อยู่มันการ์ดทั้งนั้น ต่อไปใครจะทำตัวเป็นเจ้าของม็อบ เที่ยวไล่ด่าไล่ข่มคน มึงจะโดนเอา"
นอกจากนี้ นายสมบัติ ยังแชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กว่า “เค ไกล้กาวกว่าเดิม มาแว๊วววววว” ระบุว่า “วันก่อนเห็นระเบิด นายพลโตโต้วิ่งเข้าไปรายงานเป็นฉากๆเลย ไม่กลัวด้วยทั้งๆ ที่ระเบิดยังไม่ทำงาน แต่วันนี้มวลชนอยู่ในเหตุการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือจากทีมการ์ดของนายพลโตโต้ นายพลโตโต้ ใช้วิชาตัวเบาเหมือนในหนังจีน ใช้วิชาล่องหนเหมือนนินจาในหนังญี่ปุ่น เขาต้องประกาศตามหาตัวนายพลโตโต้ ทั้งทวิภพ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากท่านนายพลโตโต้เลย 5555555 # มึงไปม็อบมาทั้งวันพึ่งกลับถึงบ้าน มึงเจอนายพลโตโต้มั่งไหมพี่สมบัติ ทองย้อย ...จากใจชายวัยรุ่นคนนึง...”
กรณีม็อบคณะราษฎรนัดชุมนุม จัดกิจกรรมนับ 1 ถึงล้านคืนอำนาจให้ประชาชน เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเคลื่อนขบวนไปบริเวณหน้าศาลฎีกา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแนวสกัดอยู่ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม ขว้างปาสิ่งของ ประทัดยักษ์ และระเบิดปิงปองเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น นอกจากนี้ยังมีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มไปที่สน.นางเลิ้ง เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม
วานนี้ (14 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เมื่อเวลา 18.00 น.(13ก.พ.) กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนตัวจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาที่หน้าศาลหลักเมือง ตำรวจได้ประกาศเตือนว่า เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขอให้ยุติการชุมนุม แต่ก็ถูกขว้างปาด้วย สิ่งของมีทั้งระเบิดปิงปอง ก้อนหิน ขวดน้ำ และวัตถุอื่นๆ เป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 23 นาย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิด และได้รับผลกระทบทางการได้ยิน อยู่ระหว่างรักษาตัวในรพ.
ต่อมาแกนนำได้ประกาศยุติการชุมนุม แต่มีบางส่วนยังก่อความวุ่นวาย ยื้อเวลากว่า 30 นาที ตำรวจจำเป็นต้องยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ยืนยันไม่มีคำสั่งใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง ส่วนที่ปรากฏภาพตำรวจรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่พยาบาล (กั๊กเขียว) จากการตรวจสอบบุคคลดังกล่าว ไม่ใช่พยาบาล อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม อาสาเป็นหน่วยปฐมพยาบาล และพบว่าอยู่ในกลุ่มที่ก่อความวุ่นวาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าชายรายนี้ พกอาวุธซุกซ่อนอยู่ภายในเสื้อกั๊กพยาบาลด้วย
หลังเกิดความวุ่นวาย ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ 11 ราย เบื้องต้นดำเนิน คดี 8 ราย ข้อหา พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานและทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน นำตัวไปควบคุมไว้ที่ บก.ตชด.ภาค 1 ส่วนอีก 3 ราย เมาสุราไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม เปรียบเทียบปรับ และปล่อยตัวไป ทั้งนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมที่รื้อถอนสิ่งของรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำร้ายร่างกายตำรวจ
หน.การ์ดเดือดโยนระเบิดใส่พวกเดียวกัน
ด้านนายสมบัติ ทองย้อย อดีตหัวหน้าการ์ดม็อบราษฎร และการ์ดเสื้อแดง โพสต์เฟชบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์การชุมนุมของม็อบราษฎร โดยระบุถึงเหตุการณ์ตอนหนึ่งว่า ตนเองและนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ“ครูใหญ่”แกนนำม็อบราษฎร เข้าไปเจรจากับจนท. แต่กลับมีกลุ่มม็อบบางส่วนไม่พิจารณาสถานการณ์ ตั้งเป้าจะใช้ความรุนแรง จนในที่สุดแม้แต่พวกเดียวกัน ยังต้องหนีหัวซุกหัวซุน
"ครูใหญ่เข้าไปเจรจา กูก็เข้าไปด้วย ข้างนอกก็ เฮิ่มๆๆๆ จะบวก จะบวก ส่วนรถเครื่องเสียง ใครไม่รู้แม่งนับถอยหลัง 10-9-8-7-6-5-4-3-2-1 สิ้นเสียง1 ระเบิด ประทัดยักษ์ ขวดน้ำ สารพัดลอยมาทั้งๆ ที่กู ครูใหญ่ ยังอยูในฝั่งตำรวจ กูนี่มุดหัวซุกหัวซุนกับครูใหญ่ นักข่าว พอหลุดออกมาได้ ด่าแม่งโลด เขวี้ยงหาพ่องงมึงหรือ พวกกูยังอยู่ข้างในกันอยู่เลย แล้วถ้าหล่นใส่หัวพวกเดียวกันเอง จะว่ายังไงว๊ะ โมโห เหี้ยๆ แม่งไม่ประสานกันเลย แบบนี้แม่งเละ เหี้ยๆ"
"ไม่มีมือที่สาม ที่ไม่ยอมกลับนั้นการ์ด และมวลชนทั้งนั้น ปลุกปั่นอารมณ์กันมาตลอดวัน วันนี้ไม่ถึงศาลหลักเมืองไม่ถอย สู้ตาย การ์ดทุกๆคน ทำหน้าที่ตัวเองเป็นตัวปะทะ พามวลชนมาอีกนิดเดียวจะถึง ปะทะกันรอบแรก ปิงปอง ปาระเบิดเบาๆ แกนนำเข้าไปเจรจา ออกมาไม่พูดอะไรเรียกสื่อมาถ่ายรูปรุ้ง กับ วีโว่เทสี เขียนสีที่แผงเหล็ก แถลงข่าวกับสื่อ บนรถประกาศให้แยกย้ายกลับบ้าน ทุกคนงง การ์ด และมวลชนไม่ยอมกลับอารมณ์ค้าง
แหวนซ้ำเติมสถานการณ์เอาทีมรถพยาบาลมาวิ่งวน เหมือนจะไล่กวาดคนให้ถอย กับเอารถขยายเสียงมาด่ามวลชน ใครไม่กลับไม่ใช่พวก ไม่รับผิดชอบโดนโห่ไล่ ด่ากลับจนต้องวางไมค์ อยากให้ฟังน้ำเสียงแหวนดู ไม่มีจิตวิทยา คุมอารมณ์คนไม่อยู่ ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น ระเบิด ประทัด สารพัด วีโว่ ก็จะโดนกระทืบเอา ไอ้ที่อยู่มันการ์ดทั้งนั้น ต่อไปใครจะทำตัวเป็นเจ้าของม็อบ เที่ยวไล่ด่าไล่ข่มคน มึงจะโดนเอา"
นอกจากนี้ นายสมบัติ ยังแชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กว่า “เค ไกล้กาวกว่าเดิม มาแว๊วววววว” ระบุว่า “วันก่อนเห็นระเบิด นายพลโตโต้วิ่งเข้าไปรายงานเป็นฉากๆเลย ไม่กลัวด้วยทั้งๆ ที่ระเบิดยังไม่ทำงาน แต่วันนี้มวลชนอยู่ในเหตุการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือจากทีมการ์ดของนายพลโตโต้ นายพลโตโต้ ใช้วิชาตัวเบาเหมือนในหนังจีน ใช้วิชาล่องหนเหมือนนินจาในหนังญี่ปุ่น เขาต้องประกาศตามหาตัวนายพลโตโต้ ทั้งทวิภพ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากท่านนายพลโตโต้เลย 5555555 # มึงไปม็อบมาทั้งวันพึ่งกลับถึงบ้าน มึงเจอนายพลโตโต้มั่งไหมพี่สมบัติ ทองย้อย ...จากใจชายวัยรุ่นคนนึง...”