ตำรวจ-กลุ่มวีโว่ปะทะวุ่น ก่อนคุมตัว “โตโต้-แกนนำ” ไปสอบที่ ตชด.ภาค 1 หลังขนกุ้ง 3 ตันมาขายกลางสนามหลวง อ้างช่วยเกษตร ก่อนต้องย้ายวิกไปตั้งอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ แยกคอกวัว โฆษก ตร.ฮึ่มผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โทษคุก 2 ปี
วานนี้ (31 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดอาสา We Volunteer (WeVo) หรือกลุ่มวีโว่ ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กระบุว่า “31 ธ.ค.เราจะเปลี่ยน กทม.ให้เป็นย่างกุ้ง เผาเลยพี่น้อง ผมกินเอง ในเวลา 18.00 น. ณ สถานที่ที่เคย Countdown ยอดฮิตกลางกรุง แห่งหนึ่ง พบกับ WeVo เผากุ้งขาย จำหน่ายกุ้งสด เน้นเป็นกุ้งก้ามกรามสดๆ เป็นๆ น้ำหนักรวมโดยประมาณ 3-4 ตัน คละขนาด และเพศของกุ้งขนกันมาจากฟาร์ม ส่งถึงกลางกรุงเทพฯ พร้อมบริการปิ้งย่าง และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดให้รับประทาน มีบริการส่งด่วนตรงถึงบ้านในเขต กทม. และปริมณฑล ค่าส่งคิดตามจริง”
ก่อนที่ในช่วงสายของวันที่ 31 ธ.ค. นายปิยรัฐและกลุ่มวีโว่ ได้นำรถกะบะจำนวน 4 คัน บรรทุกกุ้งประมาณ 3 ตัน มูลค่าราว 8 แสนบาท เข้าไปจับจองพื้นที่สนามหลวง เพื่อขายกุ้ง โดยอ้างว่าเพื่อช่วยเหลือเกษตกร
ต่อมา เวลา 11.00 น. ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) นำโดย พ.ต.อ. อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (รอง ผบก.น.1 ) รักษาราชการแทน ผบก.น.1 และ พ.ต.อ. สนอง แสงมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม (ผกก.สน.ชนะสงคราม) ได้เข้าเจรจากับ นายปิยรัฐ ให้ยุติกิจกรรม เนื่องจากสถานที่ดังกล่าว เป็นที่สาธารณะ ห้ามขายของเด็ดขาด พร้อมนำกำลังกระชับพื้นที่ล้อมรถเครื่องขยายเสียงไว้
ต่อมา เวลา 11.35 น. นายปิยรัฐ ประกาศผ่านกระบะรถโมบายสีแดง ว่า เรายังไม่ได้ทำอะไร คุณควรจะให้พื้นที่เขาขาย เขาเดือดร้อน ตอนนี้ประตูสนามหลวงเราปิดไว้แล้ว ตำรวจอีก 1 กองร้อย พยายามมายึดสนามหลวง เราได้ปิดสนามหลวงไว้แล้ว ด้วยทีมการ์ดวีโว่ของเรา เราแค่จะเปิดขายกุ้งออนไลน์ ให้พี่น้องได้ช่วยกันซื้อ
“ขอให้ประชาชนมาที่นี่ให้มากที่สุด ที่ติดตามที่บ้านให้เดินทางมาก บัดนี้ท่านล้อมเรา เราก็จะล้อมท่าน ถ้าพวกท่านไม่ออกภายใน 10 นาทีนี้ ท่านจะไม่ได้ออกจากที่นี่ ประชาชนจะล้อมท่าน ประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนผ่านทางออนไลน์ ห้ามตำรวจแม้แต่นายเดียวออกจากท้องสนามหลวง ให้ประชาชนมาตอนนี้”นายปิยรัฐ ระบุ
ต่อมา เวลา 12.10 น. ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้อ่านประกาศว่า การกระทำของกลุ่มวีโว่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และบริเวณท้องสนามหลวงไม่อนุญาตให้ตั้งเต็นท์เพื่อทำการใดๆ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะทำการรื้อเต็นท์ แต่กลุ่มวีโว่ไม่ยินยอม จึงเกิดความชุลมุนชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเสริมกำลังเพิ่มเติม และควบคุมตัว นายปิยรัฐ พร้อมการ์ดจำนวนหนึ่ง ส่งสน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินคดี ขณะที่ทางกลุ่มการ์ด ได้ให้รถทขนกุ้งมา ขับออกจากบริเวณสนามหลวงทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ตำรวจพยายามปิดประตูสนามหลวง ทางกลุ่มวีโว่ได้พยายามยื้อแย่งประตู เนื่องจากต้องการให้เพื่อนที่อยู่ด้านใน นำสิ่งของออกมาก่อน ทำให้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น ก่อนที่จะมีการปิดสนามหลวงในเวลาต่อมา ทั้งนี้ ทางกลุ่มวีโว่ ได้ย้ายไปตั้งจุดขายที่แยกคอกวัว หน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยขายกุ้งก้ามกรามในราคา กก.ละ 359 บาท
มีรายงานว่าตำรวจได้นำตัว นายปิยรัฐ และพวกจำนวนหนึ่ง ไปควบคุมตัวไว้ที่ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค1 (บก.ตชด.ภ.1) คาดว่าจะถูกดำเนินคดี ในข้อหา ห้ามมั่วสุม-ชุมนุม-ทำกิจกรรมแออัด เสี่ยงแพร่เชื้อ โควิด-19 ตามคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยว่า การมนุมกันจัดกิจกรรมเผากุ้งขาย จำหน่ายกุ้งสด สุ่มเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิด-19 โดยอยู่ในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนต่อข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม มั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
“ล่าสุดในวันนี้ยังได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 29 ธ.ค.63 เรื่องการห้ามการชุมนุม-มั่วสุม-ทำกิจกรรมแออัด เสี่ยงแพร่เชื้อ โควิด-19 หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไป” พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าว
วานนี้ (31 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดอาสา We Volunteer (WeVo) หรือกลุ่มวีโว่ ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กระบุว่า “31 ธ.ค.เราจะเปลี่ยน กทม.ให้เป็นย่างกุ้ง เผาเลยพี่น้อง ผมกินเอง ในเวลา 18.00 น. ณ สถานที่ที่เคย Countdown ยอดฮิตกลางกรุง แห่งหนึ่ง พบกับ WeVo เผากุ้งขาย จำหน่ายกุ้งสด เน้นเป็นกุ้งก้ามกรามสดๆ เป็นๆ น้ำหนักรวมโดยประมาณ 3-4 ตัน คละขนาด และเพศของกุ้งขนกันมาจากฟาร์ม ส่งถึงกลางกรุงเทพฯ พร้อมบริการปิ้งย่าง และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดให้รับประทาน มีบริการส่งด่วนตรงถึงบ้านในเขต กทม. และปริมณฑล ค่าส่งคิดตามจริง”
ก่อนที่ในช่วงสายของวันที่ 31 ธ.ค. นายปิยรัฐและกลุ่มวีโว่ ได้นำรถกะบะจำนวน 4 คัน บรรทุกกุ้งประมาณ 3 ตัน มูลค่าราว 8 แสนบาท เข้าไปจับจองพื้นที่สนามหลวง เพื่อขายกุ้ง โดยอ้างว่าเพื่อช่วยเหลือเกษตกร
ต่อมา เวลา 11.00 น. ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) นำโดย พ.ต.อ. อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (รอง ผบก.น.1 ) รักษาราชการแทน ผบก.น.1 และ พ.ต.อ. สนอง แสงมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม (ผกก.สน.ชนะสงคราม) ได้เข้าเจรจากับ นายปิยรัฐ ให้ยุติกิจกรรม เนื่องจากสถานที่ดังกล่าว เป็นที่สาธารณะ ห้ามขายของเด็ดขาด พร้อมนำกำลังกระชับพื้นที่ล้อมรถเครื่องขยายเสียงไว้
ต่อมา เวลา 11.35 น. นายปิยรัฐ ประกาศผ่านกระบะรถโมบายสีแดง ว่า เรายังไม่ได้ทำอะไร คุณควรจะให้พื้นที่เขาขาย เขาเดือดร้อน ตอนนี้ประตูสนามหลวงเราปิดไว้แล้ว ตำรวจอีก 1 กองร้อย พยายามมายึดสนามหลวง เราได้ปิดสนามหลวงไว้แล้ว ด้วยทีมการ์ดวีโว่ของเรา เราแค่จะเปิดขายกุ้งออนไลน์ ให้พี่น้องได้ช่วยกันซื้อ
“ขอให้ประชาชนมาที่นี่ให้มากที่สุด ที่ติดตามที่บ้านให้เดินทางมาก บัดนี้ท่านล้อมเรา เราก็จะล้อมท่าน ถ้าพวกท่านไม่ออกภายใน 10 นาทีนี้ ท่านจะไม่ได้ออกจากที่นี่ ประชาชนจะล้อมท่าน ประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนผ่านทางออนไลน์ ห้ามตำรวจแม้แต่นายเดียวออกจากท้องสนามหลวง ให้ประชาชนมาตอนนี้”นายปิยรัฐ ระบุ
ต่อมา เวลา 12.10 น. ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้อ่านประกาศว่า การกระทำของกลุ่มวีโว่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และบริเวณท้องสนามหลวงไม่อนุญาตให้ตั้งเต็นท์เพื่อทำการใดๆ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะทำการรื้อเต็นท์ แต่กลุ่มวีโว่ไม่ยินยอม จึงเกิดความชุลมุนชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเสริมกำลังเพิ่มเติม และควบคุมตัว นายปิยรัฐ พร้อมการ์ดจำนวนหนึ่ง ส่งสน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินคดี ขณะที่ทางกลุ่มการ์ด ได้ให้รถทขนกุ้งมา ขับออกจากบริเวณสนามหลวงทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ตำรวจพยายามปิดประตูสนามหลวง ทางกลุ่มวีโว่ได้พยายามยื้อแย่งประตู เนื่องจากต้องการให้เพื่อนที่อยู่ด้านใน นำสิ่งของออกมาก่อน ทำให้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น ก่อนที่จะมีการปิดสนามหลวงในเวลาต่อมา ทั้งนี้ ทางกลุ่มวีโว่ ได้ย้ายไปตั้งจุดขายที่แยกคอกวัว หน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยขายกุ้งก้ามกรามในราคา กก.ละ 359 บาท
มีรายงานว่าตำรวจได้นำตัว นายปิยรัฐ และพวกจำนวนหนึ่ง ไปควบคุมตัวไว้ที่ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค1 (บก.ตชด.ภ.1) คาดว่าจะถูกดำเนินคดี ในข้อหา ห้ามมั่วสุม-ชุมนุม-ทำกิจกรรมแออัด เสี่ยงแพร่เชื้อ โควิด-19 ตามคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยว่า การมนุมกันจัดกิจกรรมเผากุ้งขาย จำหน่ายกุ้งสด สุ่มเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิด-19 โดยอยู่ในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนต่อข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม มั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
“ล่าสุดในวันนี้ยังได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 29 ธ.ค.63 เรื่องการห้ามการชุมนุม-มั่วสุม-ทำกิจกรรมแออัด เสี่ยงแพร่เชื้อ โควิด-19 หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไป” พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าว
