ณ นาทีนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า กระแสข่าวที่ออกมาเป็นระยะๆ ว่า เกิดความแตกแยกขัดแย้งกันในหมู่แกนนำม็อบ 3 นิ้ว เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ปฏิบัติการไอโอของฝ่ายรัฐที่ยุให้รำ ตำให้รั่ว
ก่อนหน้านี้ คนทั่วไปรวมทั้งสื่อต่างๆ เข้าใจว่า บรรดาแกนนำม็อบ 3 นิ้วที่เปิดเผยตัว ทั้งเพนกวิน รุ้ง อานนท์ นำภา ไมค์ ระยอง ฟอร์ด ทัตเทพ ไผ่ ดาวดิน ฯลฯ เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน เรียกรวมๆ กันว่า แกนนำม็อบปลดแอกบ้าง คณะราษฎรบ้าง
จนกระทั่ง โพสต์ของ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่บอกว่า ทั้งเขาและเธอ เป็นสมาชิกกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มเยาวชนปลดแอก แนวคิดต่างๆ ที่ปรากฏในแฟนเพจเฟซบุ๊กของเยาวชนปลดแอกนั้น แตกต่างจากแนวคิดของกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่ตนสังกัดอยู่ และไม่ใช่มติของผู้ชุมนุม
จึงเป็นที่ชัดเจนว่า แกนนำที่ออกหน้าขึ้นเวทีปราศรัยนั้น มาจากหลายๆ กลุ่ม อย่างน้อยที่สุด คือ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมของเพนกวิน กับรุ้ง และกลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ Free Youth จากจุฬาฯ ที่มีฟอร์ด ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เป็นเลขาธิการกลุ่ม
แนวคิดของเยาวชนปลดแอกที่เพนกวินกล่าวถึงก็คือ การเชิดชูลัทธิคอมมิวนิสต์ว่า ไม่ใช่เผด็จการ แต่เป็นประชาธิปไตยที่นายทุนหวาดกลัว และการใช้ตัวอักษร RT ที่ออกแบบให้ดูเป็นค้อนกับเคียว อันเป็นสัญลักษณ์ของคอมมิวนิสต์
คาร์ล มาร์กซ์ ศาสดาแห่งลัทธิคอมมิวนิสต์กล่าวไว้ว่า ภราดรภาพในหมู่สหาย จะพิสูจน์ได้ในยามที่พรรคตกต่ำที่สุด อยู่ในสถานการณ์เข้าตาจนมากที่สุด
วันนี้ม็อบ 3 นิ้วอยู่ในช่วงขาลงแบบสุดๆ จนต้องยุติการชุมนุมแบบกะทันหัน เหมือนกองทัพพ่ายศึก แม่ทัพต่างหนีเอาตัวรอด โดยไม่ได้ในสิ่งที่ข้อเรียกร้องเลยสักอย่าง เพนกวินกับรุ้ง ตัดสินใจโดยไม่ลังเล ตัดขาดความเป็นพี่เป็นน้องกับมิตรร่วมรบกับเยาวชนปลดแอก เพราะกระแสโจมตีเยาวชนปลดแอกในเรื่องนี้รุนแรงมาก
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องเอาหรือไม่เอาคอมมิวนิสต์ เพราะก่อนหน้านี้ เพนกวินก็เคยยกย่องอดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เคยทำหนังสือ “คอมมิวนิสต์ สำหรับสหายน้อย” ที่ภาพปกเป็นรูปตัวเองกับรุ้ง ในชุดเลียนแบบทหารกองทัพปลดแอกประชาชน และตั้งชื่อพรรคการเมืองในธรรมศาสตร์ของตนว่า “พรรคโดมปฏิวัติ”
ทั้งเพนกวินกับฟอร์ด ไม่ได้รู้ และเข้าใจในลัทธิคอมมิวนิสต์เลย แต่จำเรื่องที่เคยอ่าน เคยฟังมาพูดต่อตามความเข้าใจของตัว เหมือนตาบอดคลำช้าง คลำไปที่หาง ก็บอกว่า ช้างเป็นเส้นยาวๆ ปลายเป็นพู่ คลำไปเจอขา ก็บอกว่า ช้างเป็นแท่งใหญ่ๆ
ความต่างกันในเรื่องแนวทาง ถ้าจะมีก็คือ เยาวชนปลดแอก ไม่พุ่งเป้าไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ในการชุมนุมครั้งแรกวันที่ 18 กรกฎาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือ 1. ยุบสภา 2. หยุดคุกคามประชาชน และ 3. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่
ต่อมาแนวร่วมธรรมศาสตร์จัดการชุมนุม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ในวันที่ 10 สิงหาคม เพนกวิน รุ้ง และอานนท์ นำภา ขึ้นเวทีโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง มีการยื่นข้อเสนอ 10 ข้อต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ลอกมาจากเฟซบุ๊กของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล โดยไม่มีการพูดถึงข้อเรียกร้อง 3 ข้อของเยาวชนปลดแอกเลย
นั่นทำให้การชุมนุมที่จัดในนาม ประชาชนปลดแอก แต่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น คณะประชาชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 16 สิงหาคม เพนกวิน รุ้ง และไมค์ ระยอง ไม่ได้ขึ้นเวที และข้อเรียกร้อง 10 ข้อของแนวร่วมธรรมศาสตร์ เปลี่ยนเป็น 1 ความฝัน คือ การมีระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนข้อเรียกร้องอีกครั้ง ในการชุมนุมวันที่ 14 ตุลาคม คือ 1. ให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก 2. ให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3. ให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และใช้ชื่อ คณะราษฎร 2563 ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ เยาวชนปลดแอก ประชาชนปลดแอก และนักเรียนเลว
เป็นการประนีประนอมระหว่างแนวร่วมธรรมศาสตร์กับเยาวชนปลดแอก เพื่อไม่ให้เสียงานใหญ่ และนับตั้งแต่นั้นมา แนวร่วมธรรมศาสตร์ก็เข้ายึดกุมการนำแต่เพียงฝ่ายเดียว เห็นได้จากการชุมนุมทุกครั้ง พุ่งเป้าไปที่การจาบจ้วงโจมตีสถาบันเป็นหลัก แทบจะไม่แตะต้องพล.อ.ประยุทธ์ หรือประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย
เยาวชนปลดแอกมาจากจุฬาฯ แต่ก็มีนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น นักศึกษาในกลุ่มนี้นอกจากทัตเทพแล้วก็มี เนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล และธนวัฒน์ วงศ์ไชย หรือบอล โต้โผใหญ่ งานวิ่งไล่ลุงเมื่อตอนต้นปี
น่าสังเกตว่า การชุมนุมของม็อบ 3 นิ้ว เนติวิทย์ และธนวัฒน์ ไม่มีบทบาทเข้าร่วมเลย มีแต่ทัตเทพคนเดียวที่ขึ้นเวทีบ้าง แต่ก็มีบทบาทน้อยกว่าแกนนำจากจุฬาฯ จนทำให้ม็อบในช่วงหลังจากวันที่ 14 ตุลาคม มีเสียงร่ำลือว่า เด็กจุฬาฯ ไม่ร่วมด้วย
ในขณะเดียวกัน ทัตเทพไปเปิดบัญชีรับบริจาคเงินถึง 2 บัญชีในนามของ “เจมส์” ภานุมาศ สิงห์พรม แฟนหนุ่มของทัตเทพถึง 2 บัญชี จนฝ่ายธรรมศาสตร์ต้องโพสต์ทวิเตอร์ถามว่า เอาเงินไปใช้อะไรบ้างเพราะฟรียูธ หรือเยาวชนปลดแอก เป็นกลุ่มแรกๆ ที่เปิดรับบริจาค และได้เงินไปมาก
แต่จนถึงบัดนี้ ไม่มีคำชี้แจงจากทัตเทพถึงยอดรายรับ รายจ่ายของเงินบริจาค
ความแตกแยกในหมู่การ์ด ม็อบ เป็นที่รับรู้กันทั่วว่า แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า มีการ์ดอาชีวะ ฟันเฟืองประชาธิปไตย การ์ดภาคีฯ การ์ดวีโว่ ของปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ และ การ์ดเสื้อแดงที่มีสมบัติ ทองย้อย เป็นหัวหน้า จนในที่สุด เพนกวินใช้อำนาจเผด็จการยุบการ์ดทั้งหมด ให้มาขึ้นตรงกับตนคนเดียว
ในหมู่แกนนำขึ้นเวที เป็นที่รับรู้กันวงในว่า แตกเป็นสายธรรมศาสตร์ที่มีเพนกวิน กับรุ้ง เป็นตัวแทนกับสายจุฬาฯ ในชื่อ เยาวชนปลดแอก
ขบวนการนักศึกษาในยุค 14-6 ตุลาฯ นักเคลื่อนไหว เด็กกิจกรรมจากจุฬาฯ ถูกมองว่า เป็นซ้ายศักดินา เพราะมาจากมหาวิทยาลัยชาววัง ไม่ลุย ไม่สู้ ในขณะที่ธรรมศาสตร์มีภาพของมหาวิทยาลัยประชาชน ที่เปิดกว้างต้อนรับชาวนา ชาวไร่ ผู้ใช้แรงงาน เป็นศูนย์รวมของกลุ่มอิสระที่หลากหลาย นักเคลื่อนไหวจากรั้วเหลืองแดง มักจะเป็นผู้นำในการชุมนุมประท้วงในยุคนั้น มากกว่าชาวน้องพี่สีชมพูจากสามย่าน
ความแตกต่างนี้ ยังคงดำรงอยู่ในหมู่แกนนำม็อบ 3 นิ้ว ด้วยบุคลิกหน้าตาของทัตเทพ ที่ดูแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากบุคลิกแบบประหลาดๆ ของเพนกวิน รุ้ง และไมค์ ระยอง รวมไปถึงการพูดจาการปราศรัยที่มีหลักการสุภาพเรียบร้อยกว่า ทำให้ทัตเทพถูกมองว่า เหินห่างแปลกแยกจากแกนนำคนอื่นๆ ที่มาจากธรรมศาสตร์
ม็อบ 3 นิ้วจะชื่ออะไรก็แล้วแต่ โดยเนื้อแท้แล้ว คือ ม็อบของแกนนำจากธรรมศาสตร์ที่มีอุดมการณ์ “ล้มเจ้า” ที่ถูกบ่มเพาะจากกลุ่มอาจารย์บางคน และสำนักฟ้าเดียวกัน ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เคยเป็นนักกิจกรรมของธรรมศาสตร์มาก่อน
ราษฎรทั้งหลาย พึงรู้ว่า พวกท่านเป็นเพียงเบี้ยในเกมโค่นล้มสถาบันของเจ้าของม็อบตัวจริงเท่านั้น