xs
xsm
sm
md
lg

“The Great Reset”กับแผนสมคบคิด???

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


Klaus Schwab นักเศรษฐศาสตร์ชาวเยอรมัน
ปิดท้ายสัปดาห์นี้...ยังไม่รู้ว่าจะออกไปทางเบาๆ-สบายๆ หรือหนักไปทาง “บวดหัว” ชนิดต้องหันไปคว้ายา “บวดหาย” มากรอกปากสักกำ-สองกำ หรือไม่ อย่างไร ก็ยังมิอาจสรุปได้ เพราะกะว่าจะชวนท่านทั้งหลายไปลองรับรู้ รับทราบ ถึงสิ่งที่อาจถือเป็น “แนวคิด” หรือ “ทฤษฎี” ก็คงพอได้ ที่ถูกเรียกขานกันในภาษาปะกิตว่า “The Great Reset” หรืออภิมหาแห่งการปรับเปลี่ยนเพื่อไปตั้งต้นกันใหม่ อะไรประมาณนั้น...

คือแนวคิดหรือทฤษฎีที่ว่านี้...ว่ากันว่าเริ่มต้นมาจากนักเศรษฐกิจและวิศวกรชาวเยอรมัน ชื่อว่า “นายKlaus Schwab” ที่ต้องถือว่าเป็นนักคิด นักเศรษฐศาสตร์ ชนิดดังระเบิดเถิดเทิงในระดับโลก ไม่ว่าในแง่ “ชื่อเสียง” หรือ “บารมี” ก็ตาม จบด็อกเตอร์ทั้งทางเศรษฐศาสตร์และวิศวะ จากมหาวิทยาลัย “Fribourg” และ “ETH Zurich” ในสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะมารับตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ทางด้านเศรษฐกิจที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1972 ไปจนถึงปี 2003 โน่นเลย อีกทั้งยังถือเป็นผู้ก่อตั้งเวทีประชุมทางเศรษฐกิจในระดับโลก หรือ “World Economic Forum” (WEF) และยังเขียนหนังสือเรื่องต่างๆ เอาไว้อีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่า “The Fourth Industrial Revolution” ปี ค.ศ. 2016 “Shaping the Fourth Industrial Revolution” ปี ค.ศ. 2018 จนล่าสุด...ช่วงปีนี้ หรือปี ค.ศ. 2020 นี่เอง ก็ได้เข็นหนังสือออกมาอีกเล่ม ชื่อว่า “COVID-19 : The Great Reset” ร่วมกับนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังอย่าง “นายThierry Malleret” จนได้เรื่อง ได้ราว หรือกลายเป็นเรื่อง เป็นราว ชนิดต้องเอามาพูดถึง กล่าวถึงกันในช่วงปิดท้ายสัปดาห์นี้...

คือในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมปีนี้ หรือช่วงที่เชื้อไวรัส “COVID-19” ท่านกำลังมาแรง แซงโค้งหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ว่ากันว่า “นายKlaus Schwab” ในฐานะประธานเวทีประชุม “WEF” ร่วมกับเจ้าฟ้าชาย “ชาร์ลส์” แห่งอังกฤษ ที่เคยมอบเกียรติ มอบยศ มอบตำแหน่ง “ท่านเซอร์” ให้กับนักเศรษฐศาสตร์รายนี้ ได้ทรงออกมาชี้แนะ ชี้นำ ถึงแนวคิดในการปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ภายในระบบเศรษฐกิจแบบ “ทุนนิยม” ที่ชักออกอาการสาละวันเตี้ยลง-เตี้ยลง ลงไปทุกที ชนิดอาจถือเป็น “ช่วงสุดท้ายของทุนนิยม” เอาเลยก็ว่าได้ เพื่อนำไปสู่การหวนกลับไปตั้งต้นกันใหม่ โดยอาศัยฉากสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดของเชื้อ “COVID-19” กำลังสร้างความพังพินาศฉิบหายให้กับใครต่อใคร ไม่ว่าทางด้านสุขภาพ หรือทางเศรษฐกิจมาใช้เป็น “เงื่อนไข” หรือ “เหตุปัจจัย” ในการนำไปสู่การ “The Great Reset” นั่นเอง...

เรียกว่า...มี “กรรมวิธี” ต่างๆ นานา ในอันที่จะนำไปสู่การ “Reset” ที่ว่า ไม่ว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 การก่อรูป ก่อร่าง สร้างเศรษฐกิจแบบดิจิทัล การปรับเปลี่ยนระบบสาธารณูปโภคแบบใหม่หมด ฯลฯ หรือถ้าว่ากันตามคำอธิบายของรัชทายาทอันดับหนึ่งของอังกฤษ หมายถึงความพยายามที่จะปรับปรุงระบบทุนนิยมให้ดีขึ้น ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ฯลฯ ทั้งนั้น ทั้งนี้...โดยขึ้นอยู่กับว่าบรรดาปวงชนและพสกนิกรทั้งหลาย จะเอาด้วยหรือไม่ อย่างไร หรือถ้าว่ากันตามคำนิยามของประธาน “WEF” คือการทำให้เกิด “ทุนนิยมที่มีความรับผิดชอบ” (Responsible Capitalism) อะไรประมาณนั้น ซึ่งออกจะเป็นอะไรที่ดูดี ดูเก๋ ดูเท่ อยู่พอสมควร แม้ว่าความพยายามกอบกู้ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมไม่ให้เด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ลงไปซะก่อน อาจไม่ถือเป็น “เรื่องใหม่” หรือเป็นเรื่องที่ใครต่อใครเคยพูดจา ว่ากล่าว มานานแล้ว จนเกิดแนวคิดแปลกๆ ใหม่ๆ เยอะแยะมากมาย...

แต่ก็นั่นแหละ...การอาศัยฉากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ “COVID-19” เป็น “เงื่อนไข” หรือ “ข้ออ้าง” เพื่อนำไปสู่การ “Reset” ดังกล่าว กลับส่งผลให้เกิดเรื่อง เกิดราว แทนที่จะเป็นเรื่อง เป็นราวขึ้นมาจนได้ โดยเฉพาะเมื่อบรรดา “ผู้นำทางการเมือง” ไม่ว่าจะนายกรัฐมนตรีแคนาดา “นายจัสติน ทรูโด” นายกรัฐมนตรีอังกฤษ “นายบอริส จอห์นสัน” ไปจนถึงว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันรายใหม่ อย่าง “ผู้เฒ่าโจ” หรือ “โจ ไบเดน” ฯลฯ ได้ออกมาขานรับกันอย่างเป็นระบบและกิจการ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีแคนาดา ถึงกับนำไปแถลงอย่างเป็นทางการระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ หรือการแสดงวิสัยทัศน์ ที่เรียกว่า “Agenda 2030” เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา จนทำให้บรรดา “เงื่อนไข” และ “ข้ออ้าง” เหล่านี้ ถูกนำไปแปลความ ตีความ ให้กลายเป็น “แผนสมคบคิด” ของบรรดาพวก “อีลีทโลก” (Global Financial Elites) ในอันที่จะหาทางปรับเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมของรัฐบาลต่างๆ ในโลกนี้ เพื่อที่จะนำเอา “ระบบอำนาจนิยม” แบบเดียวกันกับพวก “ฝ่ายซ้าย” หรือพวก “มาร์กซิสต์” ทั้งหลาย เข้ามาเป็นเครื่องมือควบคุม และแผ่ขยายพลังอำนาจแห่งทุนนิยม ให้ครอบโลกทั้งโลกไว้ภายในอุ้งมือ เพื่อดำรงความเป็น “New World Order” ความเป็นโลกาภิวัตน์ภายใต้การขับเคลื่อนของทุนนิยม หรือความเป็น “โลกาภิวัตน์จากด้านบน” ให้ยั่งยืนสถาพรต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องตกม้าตาย ไม่ต้อง “อวสานทุนนิยม” ไปก่อนกำหนดการ...

จริง-ไม่จริง...เชื่อ-ไม่เชื่อ อันนี้คงต้องไปนั่งคิด นอนคิด เอาเองก็แล้วกัน แต่ด้วยเหตุเพราะถูกทำให้กลายเป็น “ทฤษฎีสมคบคิด” มันเลยถูกขยายความไปตามความหูแหก-ตาแหก หรือความ “วิตกจริต” ของใครต่อใครไปตามสภาพ โดยบรรดาพวกที่มักหยิบเอาสิ่งเหล่านี้มาใช้เป็นข้อกล่าวหาต่อผู้นำทางการเมือง ซึ่งถูกจัดในประเภทก้าวหน้า ทันสมัย หรือพวก “ปีกซ้าย” ทั้งหลาย ก็ดันหนีไม่พ้นไปจากฝ่ายตรงข้าม อย่างพวก “ปีกขวา” หรือพวกขวาจัด ประเภทพวกเชื้อชาตินิยม ประชานิยม พวกที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าผู้อพยพ ผู้ที่ต่างผิว ต่างพรรณ ฯลฯ อะไรทำนองนั้น ที่เคยอาศัย “ความล้มเหลวของลัทธิเสรีนิยมใหม่” ผงาดขึ้นมีอำนาจและบทบาท จนส่งผลให้ระบอบประชาธิปไตยภายใต้ทุนนิยม แทบกลายเป็น “ประชาธิป...ตาย” กันไปแถบๆ นั่นแล...

หรือพูดง่ายๆ ก็คือ...บรรดาพวกที่มีรสนิยมจัดอยู่ในประเภท “ทรัมป์บ้า” ทั้งหลาย ไม่ว่าในอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฯลฯ ที่ต่างออกมาตั้งข้อกล่าวหาว่า “The Great Reset” ของพวก “อีลีทโลก” คราวนี้ อาจนำไปสู่การฉวยโอกาสทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างเป็นระบบ อาจถึงขั้นคิดรื้อถอน ทำลายสิทธิส่วนบุคคล สิทธิในทรัพย์สิน หรือกระทั่งการเป็นเจ้าของกิจการฯลฯ อาจถึงขั้นใช้กำลังตำรวจ ทหาร เข้าควบคุมเมืองสำคัญต่างๆ ไปจนการบีบบังคับให้ใครต่อใครต้องสวมหน้ากากอนามัย ล็อกดาวน์ และฉีดวัคซีน ฯลฯ หรืออาจนำไปสู่ “การเพิ่มอำนาจเผด็จการ” ตาม “เงื่อนไข” และ “ข้ออ้าง” ที่เชื้อไวรัส “COVID-19” ท่านได้มอบไว้ให้ ไม่ว่าในทางสุขภาพหรือในทางเศรษฐกิจก็ตาม...

ด้วยเหตุนี้...ไปๆ-มาๆ ผู้ที่ออกมาเพรียกหา เรียกหา “เสรีภาพ-เสมอภาค-ภารดรภาพ” กลับกลายเป็นบรรดาพวก “ฝ่ายขวา” ทั้งหลายไปซะนี่!!! ที่หันมาลงถนน หันมาไล่ทุบ ไล่ตี ไล่ฉีดน้ำกับบรรดาเจ้าหน้าที่ จนประชาธิปไตยภายใต้ระบบทุนนิยม หรือประชาธิปไตยของพวกเสรีนิยมใหม่ทั้งหลาย ยิ่งกลายเป็น “ประชาธิป...ตาย” หนักเข้าไปทุกที โอกาสที่จะดำรงรักษาความเป็น “New World Oder” ด้วยกระบวนการ “The Great Reset” ที่ว่า จึงเป็นอะไรที่ยากลำบากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าอาจเป็นสิ่งที่ดูดี ดูเก๋ ดูเท่ แต่หนักไปทาง “ไม่มีอะไรจะแ-ก” โอกาสที่จะสู้ “เผด็จการของแท้และดั้งเดิม” อย่างคุณพี่จีน หรือ “ทุนนิยมเผด็จการ” ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน จึงแทบเป็นไปไม่ได้เอาเลย...




กำลังโหลดความคิดเห็น