ผู้จัดการรายวัน360 - พพ.เผยหลักเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชนเบื้องต้นยืนยันยังคงใช้วิธีประมูลหรือ Bidding แทน “จับสลาก”โดยไม่กระทบราคาพืชพลังางานเกษตรกร ขณะที่ส.อ.ท.หนุนจับสลากหวั่นซ้ำรอยเอสพีพีไฮบริด พร้อมจัดทำแผน AEDP ภาคประชาชนยื่นถึงหน่วยงานรัฐโดยเฉพาะก.พลังงาน เร่งรัดโรงไฟฟ้าขยะ พลังงานหมุนเวียนเพิ่ม
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยภายหลังร่วมงานสัมมนา AEDP ภาคประชาชนที่จัดโดยกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ร่วมกับ มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน ว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก อยู่ระหว่างกำหนดกรอบรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์จากเดิมสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เสนอแนะให้จัดทำโครงการนำร่องรับซื้อไฟฟ้าอยู่ที่ 100 เมกะวัตต์ ส่วนวิธีคัดเลือกทางกระทรวงพลังงาน จะใช้วิธีการเปิดประมูลแข่งขันด้านราคารับซื้อไฟฟ้า (Competitive Bidding) ซึ่งจะไม่กระทบต่อราคารับซื้อวัตถุดิบ เพราะจะเป็นการกำหนดให้ประมูลแข่งขันในช่วงของโรงไฟฟ้าไม่ใช่ในส่วนของเชื้อเพลิง และจะแยกแข่งขัน 2 ประเภทเชื้อเพลิง ระหว่างเชื้อเพลิงชีวมวล กับ เชื้อเพลิงชีวภาพ
“การรับซื้อก็จะแบ่งเป็นชีวมวลและชีวภาพอย่างละครึ่งไม่ว่าจะเป็น100-150เมกะวัตต์ โดยการประมูลแข่งขันจะเป็นการแข่งขันในส่วนของโรงไฟฟ้า แต่ส่วนของเชื้อเพลิงยังเป็นราคาเดิมที่รัฐกำหนดไว้ จึงไม่กระทบต่อราคาเชื้อเพลิง กับเกษตรกรหากใช้วิธีจับสลากตามที่บางส่วนเสนอจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างหลักเกณฑ์เงื่อนไขก็จะให้เสร็จภายในสิ้นปีก่อนที่จะเปิดรับข้อเสนอซื้อไฟม.ค.64 ”นายประเสริฐ
นายสุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท.กล่าวว่า การจัดทำพีดีพีภาคประชาชนครั้งนี้เพื่อที่จะให้เห็นแนวทางการพัฒนาของภาคประชาชนโดยหลังจากนี้จะทำสรุปรวมเล่มก่อนจะนำเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงพลังงาน คมนาคม อุตสาหกรรม เป็นต้น ในเดือนธ.ค.นี้
นายนที สิทธิประศาสน์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท. กล่าวว่า รัฐควรใช้วิธีการจับฉลากคัดเลือกโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน แทนการประมูล เพราะอาจซ้ำรอย โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ SPP Hybrid Firm ปี 2560 ที่ผู้ชนะประมูลยังไม่สามารถเดินหน้าลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)ได้ เพราะส่วนหนึ่งราคาแข่งขันรับซื้อไฟฟ้าต่ำเกินไป และควรรับซื้อไฟขนาด 150 เมกะวัตต์ที่จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้รวม 10,300 ล้านบาท
นายทวี จงควินิต รองประธานด้านพลังงานขยะ กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท. กล่าวว่า เห็นด้วยหากรัฐจะเปิดซื้อไฟโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ในปี 2564 เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพร้อมเตรียมยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) พิจารณาขยายระยะเวลาสัญญารับซื้อไฟฟ้า(PPA) โครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบFeed-in Tariff ออกไปอีก 2 ปี เพราะพ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ เพิ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อปี 60 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการฯ
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยภายหลังร่วมงานสัมมนา AEDP ภาคประชาชนที่จัดโดยกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ร่วมกับ มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน ว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก อยู่ระหว่างกำหนดกรอบรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์จากเดิมสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เสนอแนะให้จัดทำโครงการนำร่องรับซื้อไฟฟ้าอยู่ที่ 100 เมกะวัตต์ ส่วนวิธีคัดเลือกทางกระทรวงพลังงาน จะใช้วิธีการเปิดประมูลแข่งขันด้านราคารับซื้อไฟฟ้า (Competitive Bidding) ซึ่งจะไม่กระทบต่อราคารับซื้อวัตถุดิบ เพราะจะเป็นการกำหนดให้ประมูลแข่งขันในช่วงของโรงไฟฟ้าไม่ใช่ในส่วนของเชื้อเพลิง และจะแยกแข่งขัน 2 ประเภทเชื้อเพลิง ระหว่างเชื้อเพลิงชีวมวล กับ เชื้อเพลิงชีวภาพ
“การรับซื้อก็จะแบ่งเป็นชีวมวลและชีวภาพอย่างละครึ่งไม่ว่าจะเป็น100-150เมกะวัตต์ โดยการประมูลแข่งขันจะเป็นการแข่งขันในส่วนของโรงไฟฟ้า แต่ส่วนของเชื้อเพลิงยังเป็นราคาเดิมที่รัฐกำหนดไว้ จึงไม่กระทบต่อราคาเชื้อเพลิง กับเกษตรกรหากใช้วิธีจับสลากตามที่บางส่วนเสนอจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างหลักเกณฑ์เงื่อนไขก็จะให้เสร็จภายในสิ้นปีก่อนที่จะเปิดรับข้อเสนอซื้อไฟม.ค.64 ”นายประเสริฐ
นายสุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท.กล่าวว่า การจัดทำพีดีพีภาคประชาชนครั้งนี้เพื่อที่จะให้เห็นแนวทางการพัฒนาของภาคประชาชนโดยหลังจากนี้จะทำสรุปรวมเล่มก่อนจะนำเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงพลังงาน คมนาคม อุตสาหกรรม เป็นต้น ในเดือนธ.ค.นี้
นายนที สิทธิประศาสน์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท. กล่าวว่า รัฐควรใช้วิธีการจับฉลากคัดเลือกโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน แทนการประมูล เพราะอาจซ้ำรอย โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ SPP Hybrid Firm ปี 2560 ที่ผู้ชนะประมูลยังไม่สามารถเดินหน้าลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)ได้ เพราะส่วนหนึ่งราคาแข่งขันรับซื้อไฟฟ้าต่ำเกินไป และควรรับซื้อไฟขนาด 150 เมกะวัตต์ที่จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้รวม 10,300 ล้านบาท
นายทวี จงควินิต รองประธานด้านพลังงานขยะ กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท. กล่าวว่า เห็นด้วยหากรัฐจะเปิดซื้อไฟโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ในปี 2564 เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพร้อมเตรียมยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) พิจารณาขยายระยะเวลาสัญญารับซื้อไฟฟ้า(PPA) โครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบFeed-in Tariff ออกไปอีก 2 ปี เพราะพ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ เพิ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อปี 60 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการฯ