เอเจนซีส์ – การเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันยังคงหาผู้ชนะไม่ได้ในวันพุธ (4พ.ย.) รวมทั้งยังส่อเค้าวุ่น หลังจากทรัมป์อวดอ้างชัยชนะตั้งแต่เช้าของวันหลังการเลือกตั้ง ขณะที่ยังมีบัตรเลือกตั้งอีกหลายล้านใบที่ยังไม่ได้ถูกนับ ซ้ำประกาศขู่เตรียมขอให้ศาลสูงสุดสั่งยุติการนับคะแนน ทางด้านไบเดนประกาศมั่นใจได้ครองทำเนียบขาวเช่นเดียวกัน และพร้อมต่อสู้เพื่อให้มีการนับคะแนนทุกๆ เสียงโหวต
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของวิกฤตโรคระบาดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในอเมริกาแล้วกว่า 230,000 คน ดูเหมือนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับทำได้ดีเกินคาด โดยล้มล้างผลโพลของหลายสำนักที่ก่อนหน้านี้ชี้ว่า โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต เป็นฝ่ายมีคะแนนนำในหลายรัฐ ทั้งที่เป็นรัฐสมรภูมิ และที่เป็นรัฐซึ่งทรัมป์เคยชนะอย่างสบายๆ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังต้องลุ้นในอีกหลายรัฐสมรภูมิซึ่งนับคะแนนกันยังไม่เสร็จ เพื่อให้ได้ครองทำเนียบขาวต่ออีก 4 ปี
เช้าวันพุธ หรือหนึ่งวันหลังการเลือกตั้ง ทรัมป์แหวกจารีตของอเมริกาที่ได้ชื่อว่า เป็นประเทศประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการกล่าวหาว่า มีการโกงการเลือกตั้งขนานใหญ่ พร้อมประกาศชัยชนะจากภายในห้องอีสต์รูมของทำเนียบขาว ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้สนับสนุนใกล้ชิดที่หลายคนไม่สวมหน้ากากเพื่อป้องกันโควิด-19 แม้ในขณะนั้นยังไม่มีผู้สมัครคนใดได้เสียงจากคณะผู้เลือกตั้งถึง 270 เสียงเพื่อเป็นผู้ชนะก็ตาม
ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้สำทับว่า จะยื่นคำร้องให้ศาลสูงสุดยุติการนับคะแนนทั้งหมด โดยไม่ได้ให้รายละเอียดว่า จะอ้างเหตุผลใดในการฟ้องร้อง
แม้การเลือกตั้งทั่วอเมริกายุติลงแล้ว แต่กฎหมายการเลือกตั้งในรัฐต่างๆ กำหนดให้นับคะแนนบัตรเลือกตั้งทุกใบ และที่ผ่านมาในอดีต หลายรัฐใช้เวลานับคะแนนนานหลายวัน
ตลอดหลายเดือนมานี้ ทรัมป์กล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานว่า การเลือกตั้งทางไปรษณีย์เปิดช่องให้มีการโกงขนานใหญ่ ขณะที่การเลือกตั้งปีนี้มีผู้ใช้สิทธิ์ล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์ถึง 100 ล้านคน เนื่องจากกังวลกับวิกฤตโรคระบาด ส่งผลให้การนับคะแนนเลือกตั้งอาจล่าช้ากว่าปกติ
ทีมหาเสียงของไบเดนตอบโต้ว่า ความพยายามของทรัมป์ในการยุติการนับคะแนนเป็นการกระทำที่ร้ายแรงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมยืนยันว่า จะต้องมีการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งทั้งหมด และเสริมว่า พร้อมต่อสู้ในศาลหากจำเป็น
ก่อนหน้านี้ไบเดนเตือนว่า การนับคะแนนอาจต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เขามั่นใจว่า ตนเองจะชนะ ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งที่ 3 ในการเข้าสู่ทำเนียบขาวของอดีตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตผู้นี้
ทวิตเตอร์ติดธงเตือนในโพสต์ของทรัมป์ที่อวดอ้างชัยชนะและกล่าวหาว่า มีการโกงการเลือกตั้ง เนื่องจากเข้าข่ายเป็นความพยายามให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ด้าน ทอม วูล์ฟ ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนียสังกัดพรรคเดโมแครต ประกาศว่า บัตรเลือกตั้งที่ส่งมาทางไปรษณีย์ 1 ล้านใบจะได้รับการนับคะแนนทั้งหมด
ทั้งนี้ ตลอด 4 ปีที่รับตำแหน่ง ทรัมป์โอดครวญเสมอมาว่า ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ดี แม้แต่พันธมิตรของเขาเองยังมีน้อยคนมากที่ไม่รู้สึกรู้สากับความพยายามขัดขวางการนับคะแนนครั้งนี้
แอดัม คินซิงเกอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกันเช่นเดียวกับทรัมป์ ทวิตว่า จะต้องนับคะแนนบัตรเลือกตั้งทั้งหมด ไม่ว่าทรัมป์จะแพ้หรือชนะก็ตาม และว่า คนอเมริกันยอมรับได้ที่จะอดทนรอ
ทั้งนี้ เครือข่ายทีวีหลายแห่งทำนายว่า ไบเดนเป็นผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตคนแรกในรอบ 24 ปีที่กวาดชัยชนะในรัฐแอริโซนา และขณะนี้ยังคงเป็นรัฐเดียวที่ทรัมป์เคยชนะในปี 2016 แล้วถูกไบเดนช่วงชิงไปได้สำเร็จในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์คว้าชัยชนะในรัฐสำคัญอย่างฟลอริดา จากแนวทางการใช้ไม้แข็งกับฝ่ายซ้ายที่ทำให้เขาได้ใจคนอเมริกันเชื้อสายคิวบา รวมทั้งยังได้ไอโอวาและเทกซัส ดับฝันไบเดนที่คิดว่า จะเห็นแววชัยชนะอย่างรวดเร็ว
ไบเดนนั้นได้แคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นรัฐที่มีคณะผู้เลือกตั้งมากที่สุด รวมทั้งยังชนะในนิวยอร์ก มินนิโซตา และนิวแฮมป์เชียร์
ความสนใจจึงพุ่งตรงไปที่ 3 รัฐสำคัญที่ทรัมป์เคยชนะเมื่อ 4 ปีก่อนอีกครั้ง ได้แก่ มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ซึ่งยังไม่ได้นับบัตรลงคะแนนล่วงหน้าในเมืองที่เป็นฐานเสียงของเดโมแครตอย่างดีทรอยต์ ฟิลาเดลเฟีย และมิลวอกี้
ไบเดนบอกว่า รู้สึกดีมากกับมิชิแกนและวิสคอนซิน และมั่นใจกับเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง
ทว่า ทรัมป์ยังคงยืนยันว่า ตนเองกวาดชัยในหลายรัฐ รวมทั้งมีคะแนนทิ้งห่างในเพนซิลเวเนีย
ทั้งนี้หากชนะในทั้ง 3 รัฐสำคัญนี้ ไบเดนจะมีคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งเพียงพอสำหรับการเข้าสู่ทำเนียบขาว
เมื่อถึงเวลาประมาณ 21.00 น.วันพุธ เวลาเมืองไทย สื่อใหญ่ๆ ของสหรัฐฯ คาดหมายให้ทรัมป์ชนะใน 23 รัฐ และได้จำนวนคณะผู้เลือกตั้งรวม 213 เสียง ขณะที่ไบเดนได้ไป 20 รัฐ มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งรวม 238 เสียง โดยที่ใครได้ถึง 270 เสียงจากคณะผู้เลือกตั้งซึ่งมีทั้งหมด 538 เสียง ก็จะเป็นผู้ชนะได้เป็นประธานาธิบดีไป 4 ปี
ผู้เชี่ยวชาญเตือนล่วงหน้าหลายสัปดาห์แล้วว่า การนับคะแนนการเลือกตั้งปีนี้ต้องใช้เวลา รวมทั้งยังแสดงความกังวลว่า ทรัมป์อาจยั่วยุให้เกิดความวุ่นวายหรือกระทั่งเกิดความรุนแรงด้วยการตั้งคำถามเกี่ยวกับกระบวนการนับคะแนนน
แม้ยังไม่มีรายงานเหตุการณ์วุ่นวาย แต่ห้างร้านมากมายในวอชิงตันและอีกหลายเมืองตัดสินใจป้องกันไว้ก่อนด้วยการนำไม้อัดแผ่นใหญ่มาตอกปิดกระจกด้านหน้า ขณะที่มหาอำนาจหลายชาติเรียกร้องให้การเลือกตั้งของอเมริกาปราศจากความรุนแรง
นอกจากเป็นการลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีแล้ว ในวันอังคารชาวอเมริกันยังต้องตัดสินใจเลือกพรรคที่จะควบคุมรัฐสภาในช่วง 2 ปีข้างหน้าด้วย ซึ่งผลการนับคะแนนล่าสุดปรากฏว่า พรรคเดโมแครตยังสามารถรักษาเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเอาไว้ได้ต่อไป ทว่าในวุฒิสภานั้น แม้เดโมแครตชิงที่นั่งเก่าของรีพับลิกันมาได้ 1 ที่นั่ง แต่ตนเองก็เสียให้แก่พรรครีพับลิกันไป 1 ที่นั่งเช่นเดียวกัน ทั้งนี้มีอีกหลายที่นั่งซึ่งยังนับคะแนนกันไม่เสร็จสิ้น
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของวิกฤตโรคระบาดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในอเมริกาแล้วกว่า 230,000 คน ดูเหมือนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับทำได้ดีเกินคาด โดยล้มล้างผลโพลของหลายสำนักที่ก่อนหน้านี้ชี้ว่า โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต เป็นฝ่ายมีคะแนนนำในหลายรัฐ ทั้งที่เป็นรัฐสมรภูมิ และที่เป็นรัฐซึ่งทรัมป์เคยชนะอย่างสบายๆ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังต้องลุ้นในอีกหลายรัฐสมรภูมิซึ่งนับคะแนนกันยังไม่เสร็จ เพื่อให้ได้ครองทำเนียบขาวต่ออีก 4 ปี
เช้าวันพุธ หรือหนึ่งวันหลังการเลือกตั้ง ทรัมป์แหวกจารีตของอเมริกาที่ได้ชื่อว่า เป็นประเทศประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการกล่าวหาว่า มีการโกงการเลือกตั้งขนานใหญ่ พร้อมประกาศชัยชนะจากภายในห้องอีสต์รูมของทำเนียบขาว ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้สนับสนุนใกล้ชิดที่หลายคนไม่สวมหน้ากากเพื่อป้องกันโควิด-19 แม้ในขณะนั้นยังไม่มีผู้สมัครคนใดได้เสียงจากคณะผู้เลือกตั้งถึง 270 เสียงเพื่อเป็นผู้ชนะก็ตาม
ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้สำทับว่า จะยื่นคำร้องให้ศาลสูงสุดยุติการนับคะแนนทั้งหมด โดยไม่ได้ให้รายละเอียดว่า จะอ้างเหตุผลใดในการฟ้องร้อง
แม้การเลือกตั้งทั่วอเมริกายุติลงแล้ว แต่กฎหมายการเลือกตั้งในรัฐต่างๆ กำหนดให้นับคะแนนบัตรเลือกตั้งทุกใบ และที่ผ่านมาในอดีต หลายรัฐใช้เวลานับคะแนนนานหลายวัน
ตลอดหลายเดือนมานี้ ทรัมป์กล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานว่า การเลือกตั้งทางไปรษณีย์เปิดช่องให้มีการโกงขนานใหญ่ ขณะที่การเลือกตั้งปีนี้มีผู้ใช้สิทธิ์ล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์ถึง 100 ล้านคน เนื่องจากกังวลกับวิกฤตโรคระบาด ส่งผลให้การนับคะแนนเลือกตั้งอาจล่าช้ากว่าปกติ
ทีมหาเสียงของไบเดนตอบโต้ว่า ความพยายามของทรัมป์ในการยุติการนับคะแนนเป็นการกระทำที่ร้ายแรงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมยืนยันว่า จะต้องมีการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งทั้งหมด และเสริมว่า พร้อมต่อสู้ในศาลหากจำเป็น
ก่อนหน้านี้ไบเดนเตือนว่า การนับคะแนนอาจต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เขามั่นใจว่า ตนเองจะชนะ ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งที่ 3 ในการเข้าสู่ทำเนียบขาวของอดีตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตผู้นี้
ทวิตเตอร์ติดธงเตือนในโพสต์ของทรัมป์ที่อวดอ้างชัยชนะและกล่าวหาว่า มีการโกงการเลือกตั้ง เนื่องจากเข้าข่ายเป็นความพยายามให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ด้าน ทอม วูล์ฟ ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนียสังกัดพรรคเดโมแครต ประกาศว่า บัตรเลือกตั้งที่ส่งมาทางไปรษณีย์ 1 ล้านใบจะได้รับการนับคะแนนทั้งหมด
ทั้งนี้ ตลอด 4 ปีที่รับตำแหน่ง ทรัมป์โอดครวญเสมอมาว่า ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ดี แม้แต่พันธมิตรของเขาเองยังมีน้อยคนมากที่ไม่รู้สึกรู้สากับความพยายามขัดขวางการนับคะแนนครั้งนี้
แอดัม คินซิงเกอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกันเช่นเดียวกับทรัมป์ ทวิตว่า จะต้องนับคะแนนบัตรเลือกตั้งทั้งหมด ไม่ว่าทรัมป์จะแพ้หรือชนะก็ตาม และว่า คนอเมริกันยอมรับได้ที่จะอดทนรอ
ทั้งนี้ เครือข่ายทีวีหลายแห่งทำนายว่า ไบเดนเป็นผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตคนแรกในรอบ 24 ปีที่กวาดชัยชนะในรัฐแอริโซนา และขณะนี้ยังคงเป็นรัฐเดียวที่ทรัมป์เคยชนะในปี 2016 แล้วถูกไบเดนช่วงชิงไปได้สำเร็จในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์คว้าชัยชนะในรัฐสำคัญอย่างฟลอริดา จากแนวทางการใช้ไม้แข็งกับฝ่ายซ้ายที่ทำให้เขาได้ใจคนอเมริกันเชื้อสายคิวบา รวมทั้งยังได้ไอโอวาและเทกซัส ดับฝันไบเดนที่คิดว่า จะเห็นแววชัยชนะอย่างรวดเร็ว
ไบเดนนั้นได้แคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นรัฐที่มีคณะผู้เลือกตั้งมากที่สุด รวมทั้งยังชนะในนิวยอร์ก มินนิโซตา และนิวแฮมป์เชียร์
ความสนใจจึงพุ่งตรงไปที่ 3 รัฐสำคัญที่ทรัมป์เคยชนะเมื่อ 4 ปีก่อนอีกครั้ง ได้แก่ มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ซึ่งยังไม่ได้นับบัตรลงคะแนนล่วงหน้าในเมืองที่เป็นฐานเสียงของเดโมแครตอย่างดีทรอยต์ ฟิลาเดลเฟีย และมิลวอกี้
ไบเดนบอกว่า รู้สึกดีมากกับมิชิแกนและวิสคอนซิน และมั่นใจกับเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง
ทว่า ทรัมป์ยังคงยืนยันว่า ตนเองกวาดชัยในหลายรัฐ รวมทั้งมีคะแนนทิ้งห่างในเพนซิลเวเนีย
ทั้งนี้หากชนะในทั้ง 3 รัฐสำคัญนี้ ไบเดนจะมีคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งเพียงพอสำหรับการเข้าสู่ทำเนียบขาว
เมื่อถึงเวลาประมาณ 21.00 น.วันพุธ เวลาเมืองไทย สื่อใหญ่ๆ ของสหรัฐฯ คาดหมายให้ทรัมป์ชนะใน 23 รัฐ และได้จำนวนคณะผู้เลือกตั้งรวม 213 เสียง ขณะที่ไบเดนได้ไป 20 รัฐ มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งรวม 238 เสียง โดยที่ใครได้ถึง 270 เสียงจากคณะผู้เลือกตั้งซึ่งมีทั้งหมด 538 เสียง ก็จะเป็นผู้ชนะได้เป็นประธานาธิบดีไป 4 ปี
ผู้เชี่ยวชาญเตือนล่วงหน้าหลายสัปดาห์แล้วว่า การนับคะแนนการเลือกตั้งปีนี้ต้องใช้เวลา รวมทั้งยังแสดงความกังวลว่า ทรัมป์อาจยั่วยุให้เกิดความวุ่นวายหรือกระทั่งเกิดความรุนแรงด้วยการตั้งคำถามเกี่ยวกับกระบวนการนับคะแนนน
แม้ยังไม่มีรายงานเหตุการณ์วุ่นวาย แต่ห้างร้านมากมายในวอชิงตันและอีกหลายเมืองตัดสินใจป้องกันไว้ก่อนด้วยการนำไม้อัดแผ่นใหญ่มาตอกปิดกระจกด้านหน้า ขณะที่มหาอำนาจหลายชาติเรียกร้องให้การเลือกตั้งของอเมริกาปราศจากความรุนแรง
นอกจากเป็นการลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีแล้ว ในวันอังคารชาวอเมริกันยังต้องตัดสินใจเลือกพรรคที่จะควบคุมรัฐสภาในช่วง 2 ปีข้างหน้าด้วย ซึ่งผลการนับคะแนนล่าสุดปรากฏว่า พรรคเดโมแครตยังสามารถรักษาเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเอาไว้ได้ต่อไป ทว่าในวุฒิสภานั้น แม้เดโมแครตชิงที่นั่งเก่าของรีพับลิกันมาได้ 1 ที่นั่ง แต่ตนเองก็เสียให้แก่พรรครีพับลิกันไป 1 ที่นั่งเช่นเดียวกัน ทั้งนี้มีอีกหลายที่นั่งซึ่งยังนับคะแนนกันไม่เสร็จสิ้น