ใครจะได้ครองทำเนียบขาวในช่วงเวลา 4 ปีข้างหน้านี้ ความเป็นไปได้ยังคงก้ำกึ่งคู่คี่ขณะเวลาในสหรัฐฯ ย่างเข้าสู่เช้าวันพุธ (4 พ.ย.) โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต กำลังเฝ้าลุ้นผลคะแนนใน 3 รัฐสมรภูมิ อันได้แก่ วิสคอนซิน, มิชิแกน, และเพนซิลเวเนีย ซึ่งน่าจะมีความสำคัญยิ่งในการตัดสินชี้ขาดผู้ชนะในศึกเลือกตั้งหนนี้
รัฐที่ยังนำคะแนนกันไม่เสร็จและสื่ออเมริกันระบุว่ายังไม่สามารถคาดการณ์ผลได้ มีอยู่ด้วยกัน 6 รัฐ ได้แก่ จอร์เจีย, มิชิแกน, เนวาดา, นอร์ทแคโรไลนา, เพนซิลเวเนีย, และวิสคอนซิน
ณ เวลา 23.00 น. วันพุธ ตามเวลาเมืองไทย ไบเดนมีคะแนนนำอยู่เล็กน้อยที่มิชิแกน, เนวาดา, และวิสคอนซิน ขณะทรัมป์นำที่ จอร์เจีย, นอร์ทแคโรไลนา, และเพนซิลเวเนีย
ทว่ายังคงเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ฟันธงผลการแข่งขัน โดยเฉพาะที่มิชิแกน และวิสคอนซิน รวมทั้งดูเหมือนมีความเป็นไปได้ที่จะมีการนับคะแนนใหม่ในวิสคอนซิน ซึ่งมีกฎเกณฑ์ว่าผู้สมัครที่ดูเหมือนเป็นฝ่ายแพ้สามารถที่จะขอให้นับโหวตกันใหม่ได้ ถ้าผลต่างของคะแนนอยู่ในระดับไม่ถึง 1%
สำหรับเพนซิลเวเนียนั้น ยังมีเสียงโหวตที่ไม่ได้นับอยู่อีกหลายแสนคะแนน
ยังไม่มีผู้สมัครคนไหนที่ได้รับเสียงโหวตจากคณะผู้เลือกตั้ง (อิเล็กทอรัล คอลเลจ) ถึง 270 เสียงอย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่าเป็นผู้ชนะได้ครองทำเนียบขาวอย่างแน่นอน ขณะที่ผลต่างระหว่างคะแนนของทั้งสองก็คู่คี่กันมากในรัฐสมรภูมิแห่งอื่นๆ หลายๆ รัฐ กระนั้น พวกที่ปรึกษาระดับท็อปของทั้งไบเดนและทรัมป์ต่างแสดงความมั่นอกมั่นใจในตอนเช้าวันพุธว่า พวกเขาเป็นฝ่ายซึ่งน่าจะอยู่บนเส้นทางสู่ชัยชนะในรัฐที่ยังคงนับคะแนนกันไม่เสร็จ
คะแนนของผู้สมัครทั้งสองทิ้งห่างกันไม่มากในรัฐจำนวนมากทั่วประเทศ โดยที่ในรัฐซึ่งเป็นสมรภูมิสำคัญนั้น แต่ละคนต่างแลกหมัดชนะได้มาคนละรัฐ ทรัมป์ได้เปรียบกว่าตรงคว้าฟลอริดามาได้ ซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดมีจำนวนเสียงคณะผู้เลือกตั้งมากที่สุดในบรรดารัฐสมรภูมิด้วยกัน ขณะที่ไบเดนชิงเอาแอริโซนามาไว้ในกำมือ โดยที่รัฐนี้เคยโหวตให้รีพับลิกันมาตลอดในการเลือกตั้งระยะปีหลังๆ
ถึงแม้มีหลายรัฐซึ่งนับคะแนนกันยังไม่เสร็จสิ้น ขณะที่เสียงสนับสนุนของผู้สมัครทั้งคู่ก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แต่หลังจากผ่านเที่ยงคืนวันเลือกตั้งไปได้ไม่กี่ชั่วโมง ทรัมป์ก็ได้เคลื่อนไหวแบบที่ผิดแผกไปจากธรรมดา ด้วยการออกมาแถลงอ้างว่าตนเองคือผู้ชนะ รวมทั้งบอกว่าเขาจะยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลสูงสุดเพื่อยุติการนับคะแนน โดยยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเขาจะดำเนินการทางกฎหมายเช่นนี้ด้วยเหตุผลข้ออ้างอย่างไร
“เราชนะการเลือกตั้งครั้งนี้แล้วแน่ๆ” ประธานาธิบดีวัย 74 ปีกล่าว “นี่เป็นการฉ้อโกงหลอกลวงสาธารณชนอเมริกัน”
ทว่า มิตช์ แมคคอนเนลล์ ส.ว.พรรครีพับลิกัน ที่เป็นผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ได้แถลงลดทอนน้ำหนักข้ออ้างชัยชนะอย่างรวดเร็วของประธานาธิบดี โดยเขากล่าวว่าจะต้องให้เวลาอีกระยะหนึ่งสำหรับที่รัฐต่างๆ จะได้ดำเนินการนับคะแนน นักการเมืองจากรัฐเคนทักกีผู้นี้ ซึ่งเพิ่งคว้าชัยชนะได้เป็นวุฒิสมาชิกต่อไปอีกสมัย กล่าวในวันพุธว่า “การอ้างว่าคุณชนะการเลือกตั้งนั้น มันแตกต่างจากการให้ยุติการนับคะแนน”
ทรัมป์นั้นเก็บตัวอยู่ห่างจากสายตาสาธารณชน แต่อาศัยทวิตเตอร์เป็นเครื่องมือเพื่อเสนอแนะอย่างไม่มีมูลว่า การเลือกตั้งกำลังแปดเปื้อนสกปรกเนื่องจากมีการนับคะแนนจนล่วงเลยวันเลือกตั้งไปแล้ว ทำให้ทวิตเตอร์ต้องขึ้นธงเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่เป็น “การชี้นำไปในทางที่ผิด”
“เมื่อคืนผมกำลังนำอยู่ในรัฐสำคัญๆ จำนวนมาก มักนำแบบหนักแน่นมั่นคงด้วย ในแทบทุกกรณีเลยเดโมแครตวิ่งไล่และถูกควบคุมเอาไว้” นี่เป็นข้อความที่ทรัมป์ทวีต “แต่แล้วทีละรัฐๆ มันก็เริ่มหายวับไปเหมือนเจอเวทมนตร์ ขณะที่มีการนับบัตรลงคะแนนซึ่งทุ่มเข้ามาแบบน่าเซอร์ไพรส์”
อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานเกี่ยวกับความผิดปกติใดๆ และในรัฐอื่นๆ หลายรัฐ ผู้ได้คะแนนนำก็มีการเปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมา ขณะที่การนับคะแนนคืบหน้าไป
เราต้องมีความอดทน
ทรัมป์มีคะแนนนำที่เพนซิลเวเนียคิดเป็นตัวเลขกลมๆ คือ 500,000 คะแนน หลังจากนับเสียงโหวตไปได้ราว 78% ทว่ายังมีโหวตจำนวนมากยังไม่ได้นับซึ่งมาจากพื้นที่หลายแห่งของรัฐที่ถือกันว่าเป็นของเดโมแครต
“เราต้องมีความอดทน” ทอม วูลฟ์ ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนียบอก โดยเตือนว่า “เราอาจจะยังไม่รู้ผลในวันนี้ (วันพุธ) ก็ได้
“มีบัตรเลือกตั้งที่ส่งทางไปรษณีย์เป็นล้านๆ ใบ” เขาบอก “บัตรเหล่านี้กำลังจะถูกนับอย่างถูกต้อง และจะถูกนับอย่างครบถ้วน”
ผู้ว่าการรัฐซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตผู้นี้พูดลดทอนน้ำหนักเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทำเนียบขาวในเรื่องนับคะแนนช้า และกล่าวว่า “ประชาธิปไตยของเรากำลังถูกทดสอบในการเลือกตั้งครั้งนี้”
“เพนซิลเวเนียจะมีการเลือกตั้งที่ยุติธรรม” เขายืนยัน “และการเลือกตั้งจะปลอดจากอิทธิพลภายนอก”
สำหรับไบเดนกล่าวในวันพุธเรียกร้องให้มีความอดทนเช่นกัน และพูดถึงการเลือกตั้งว่า “ยังคงไม่เสร็จสิ้นลงจนกว่าเสียงโหวตทุกๆ เสียงจะถูกนับ บัตรเลือกตั้งทุกใบจะถูกนับ”
“มันไม่ใช่เรื่องของผม หรือเรื่องของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะประกาศว่าใครคือผู้ชนะการเลือกตั้งคราวนี้” ไบเดนบอก “นั่นเป็นการตัดสินของประชาชนอเมริกัน”
ทางด้านทีมรณรงค์หาเสียงของไบเดนก็สำทับว่า การอวดอ้างชัยชนะของทรัมป์เป็น “ความพยายามอย่างล่อนจ้อนที่จะฉกฉวยเอาสิทธิทางประชาธิปไตยของพลเมืองอเมริกันไป”
“ถ้าท่านประธานาธิบดีทำตามคำของเขาที่จะไปฟ้องศาล เพื่อพยายามหาทางขัดขวางไม่ให้มีการนับคะแนนกันอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้ว เราก็มีทีมกฎหมายของเราเตรียมพร้อมเอาไว้แล้วเพื่อเข้าต้านทานความพยายามดังกล่าว” ทีมหาเสียงของไบเดนบอก
(ที่มา : เอพี, เอเอฟพี)
