ต้องตามลุ้นผลกันนาทีต่อนาที สำหรับศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งในขณะนี้ยังยากที่จะฟันธงผู้ชนะ โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันยังคงมีคะแนนนำในรัฐสมรภูมิหลักๆ อย่างนอร์ทแคโรไลนา, โอไฮโอ และเทกซัส ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินผลเลือกตั้ง และมีแนวโน้มจะกวาดผู้แทนเลือกตั้งในรัฐสำคัญอย่างฟลอริดาได้ด้วย
ฟ็อกซ์นิวส์ประเมินว่า ทรัมป์ จะชนะที่ฟลอริดา ซึ่งถือเป็นรัฐที่เขาจะต้องช่วงชิงมาให้ได้หากต้องการเก็บคณะผู้แทนเลือกตั้งให้ได้ถึง 270 เสียง เพื่อครองทำเนียบขาวต่ออีก 4 ปี
สำหรับ ไบเดน ก็ฝากความหวังเอาไว้กับบรรดารัฐ “กำแพงสีน้ำเงิน” อย่างมิชิแกน, วิสคอนซิน และเพนซิลเวเนีย ซึ่งเคยส่งให้ ทรัมป์ คว้าเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ มาแล้วเมื่อปี 2016 ทว่าผลการนับคะแนนในรัฐทั้ง 3 นี้คาดว่าจะยืดเยื้อออกไปอีกหลายชั่วโมงหรืออาจจะนานหลายวันกว่าจะรู้ผลแพ้-ชนะ
แม้ ทรัมป์ จะมีคะแนนนำใน 3 รัฐนี้ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นคะแนนจากกลุ่มฐานเสียงรีพับลิกันซึ่งเลือกไปลงคะแนนในวันเลือกตั้ง 3 พ.ย. ทว่ายังมีบัตรเลือกตั้งอีกจำนวนมากที่ถูกส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลานับกันนานพอสมควร
ทรัมป์ ได้ติดตามผลการนับคะแนนพร้อมกับนางเมลาเนีย ภริยา, อิวองกา บุตรสาว และ เจเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยคนโปรด ที่ห้องนั่งเล่นในทำเนียบขาว โดยผู้ช่วย ทรัมป์ คนหนึ่งระบุว่า บรรยากาศภายในห้อง “ดี แต่ก็เต็มไปด้วยความกังวล”
เวลานี้ผลการนับคะแนนในรัฐสมรภูมิ 10 กว่ารัฐที่จะเป็นตัวตัดสินผลเลือกตั้งยังคงยากที่จะสรุปฟันธง ทว่า ทรัมป์ เป็นฝ่ายมีคะแนนนำ ไบเดน อยู่ในหลายรัฐ ตัวอย่างเช่น ฟลอริดา ซึ่ง ทรัมป์ นำ ไบเดน อยู่ 51.2% ต่อ 47.7% จากการนับคะแนนที่ผ่านไปแล้วประมาณ 94%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ไบเดน วัย 77 ปี ก็ยังมีโอกาสที่จะคว้าคณะผู้แทนเลือกตั้งถึง 270 เสียง แม้จะไม่ชนะที่ฟลอริดาซึ่งเป็นรัฐที่เขาทุ่มเททั้งเวลาและกำลังทรัพย์อย่างมากมายเพื่อดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มพลเมืองที่เคยเทคะแนนให้กับ ทรัมป์ เมื่อปี 2016
ไบเดน ยังต้องรอลุ้นผลเลือกตั้งในรัฐแบทเทิลกราวนด์อย่างนอร์ทแคโรไลนา ซึ่ง ทรัมป์ ได้มีคะแนนนำ 49.9% ต่อ 48.8% จากการนับคะแนนที่ผ่านไปแล้ว 93% ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงเป็นฝ่ายนำในรัฐโอไฮโอ, เทกซัส และจอร์เจีย ซึ่งล้วนแต่เป็นรัฐที่เขาเคยกำชัยชนะมาแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน
ที่มา : รอยเตอร์