ใครที่ได้อ่านผลสำรวจของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตล่าสุด คงมีคำตอบว่า เพราะเหตุใดม็อบคณะราษฎรที่ออกมาไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงมีผู้เข้าร่วมชุมนุมอย่างล้นหลามทั่วประเทศ
สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง จากกลุ่มตัวอย่าง 5,728 คน ระหว่างวันที่ 19-22 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยพบว่า 62.33% ของกลุ่มตัวอย่าง ระบุว่าสาเหตุที่การชุมนุมมีมากขึ้น เพราะความไม่พอใจการบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์
ผลสำรวจความคิดเห็นของโดยสำนักโพลต่างๆ มักจะขัดกับความรู้สึกของประชาชน แต่ผลสำรวจของสวนดุสิตโพลครั้งนี้ ในประเด็นที่การชุมนุมของม็อบคณะราษฎรมีมากขึ้น เป็นผลสำรวจที่ตรงใจประชาชน
แม้ข้อเรียกร้องของม็อบคณะราษฎรจะมี 3 ข้อหลัก แต่ข้อใหญ่สุด น่าจะเป็นประเด็นการขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก
ถ้าม็อบเด็กที่ลุกฮือกันทั่วประเทศ จะชูธงเรียกร้องเพียงข้อเดียว ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออก การชุมนุมจะมีมวลมหาประชาชนเข้าร่วมชนิดมืดฟ้ามัวดิน และข้อเรียกร้องคงบรรลุเป้าหมายไปแล้ว
ม็อบคนเสื้อเหลืองที่พึ่บพั่บกันขึ้นมา เพราะต้องการแสดงพลังปกป้องสถาบัน ไม่ได้มาช่วยประคองพล.อ.ประยุทธ์ให้อยู่ในอำนาจต่อ
ถ้าปลุกระดมให้เข้ามาสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ม็อบคนเสื้อเหลืองคงมีจำนวนเพียงหยิบมือ หรืออาจมีเพียงม็อบจัดตั้งของพวกที่ห้อยและโหนพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อตำแหน่งและผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น
แต่เพราะมีการ “มัดรวม” กระแสรักชาติ ศาสนา และสถาบันควบไปกับพล.อ.ประยุทธ์ ม็อบคนเสื้อเหลืองจึงดูคึกคัก
ความไม่พอใจการบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ม็อบเด็กมีมวลชนทุกกลุ่มจำนวนมากเข้าร่วมนั้น ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น หลังจากการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรอบสอง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2562
แต่เป็นความไม่พอใจที่ถูกสั่งสมมาตลอด 6 ปีของการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ เพราะไม่เคยมีผลงานเป็นรูปธรรม
ไม่ได้แก้ปัญหาของประเทศ ไม่มีการปฏิรูปอะไรเลย ไม่ว่ากระบวนการยุติธรรม การเมืองหรือการปฏิรูปตำรวจ
หลังจากการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งความคาดหวังในตัวผู้นำกองทัพคนนี้ คิดจะเข้ามาปราบนักการเมืองชั่วร้าย จะปฏิรูปการเมือง จะผ่าตัดใหญ่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะกำจัดปัญหาคอร์รัปชันให้สิ้นซาก
จะสร้างสังคมที่สงบสุข ประชาชนได้รับความเท่าเทียมในกระบวนการยุติธรรม คนไม่ดีจะต้องไม่มีที่ยืนในสังคม
และปัญหาปากท้องจะต้องได้รับการแก้ไขให้คนกินดีอยู่ดีขึ้น
แต่ความหวังทั้งหลายทั้งปวงต้องสิ้นสลาย จนแทบไม่เหลือศรัทธาใดๆ ให้พล.อ.ประยุทธ์ เพราะตลอด 6 ปี มีแต่คำสัญญาลมๆ แล้งๆ ปัญหาต่างๆ ถูกละเลย
เศรษฐกิจทรุดหนักเข้าขั้นวิกฤตหนักกว่าเดิม นักการเมืองที่ทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย และเป็นข้ออ้างการยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกดึงเข้ามาร่วมรัฐบาล เพื่อสนับสนุนให้กลับเข้ามาสืบทอดอำนาจ
ไม่มีการปฏิรูปการเมือง ไม่มีการปฏิรูปตำรวจ ทั้งที่มีร่างพ.ร.บ.ตำรวจเสร็จเรียบร้อย แต่มีความพยายามประวิงเวลา ไม่นำเสนอเข้าสภาฯ ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน จนเชื่อกันว่า ตราบใดที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ชาตินี้จะไม่มีการปฏิรูปตำรวจ
เช่นเดียวกับปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งหนักขึ้น
คดีนายบอสหรือวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทมหาเศรษฐีเครื่องดื่มกระทิงแดง ซึ่งผลการสอบสวนของนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ชี้ให้เห็นถึงการช่วยเหลือเศรษฐีให้พ้นผิด และเป็นโอกาสพล.อ.ประยุทธ์จะได้ปฏิรูปตำรวจและอัยการครั้งใหญ่
แต่จนบัดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ยอมเปิดเผยชื่อนายตำรวจและอัยการที่ร่วมกันเป่าคดีนายบอสให้สังคมรับรู้ และเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์คงไม่กล้าเล่นงานตำรวจและอัยการที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
คนเสื้อเหลืองที่ออกมาแสดงพลังช่วงนี้ ส่วนใหญ่ต้องการออกมาปกป้องสถาบัน ไม่ได้ลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องพล.อ.ประยุทธ์
เพราะในช่วงที่ยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์เคยประกาศเหมารวมว่า คนเสื้อเหลืองและคนเสื้อแดง สร้างความขัดแย้งและทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย
แต่วันนี้พล.อ.ประยุทธ์กำลังโหนกระแสคนเสื้อเหลืองที่ออกมาปกป้องสถาบัน เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง
ม็อบเด็กที่ลุกฮือทั่วประเทศ กำลังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่มที่ไม่พอใจการบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์
และการถูกเด็กโห่ร้องตะโกนขับไล่วันนี้ เป็นผลผลิตจากการบริหารประเทศตลอด 6 ปีที่ประชาชนไม่สามารถจับต้องผลงานใดๆ ของพล.อ.ประยุทธ์ได้