ผู้จัดการรายวัน360 - "ชวน"สั่งคณะทำงานศึกษาแนวทางตั้งคณะกก.สมานฉันท์ เพื่อหาทางออกวิกฤตประเทศ "วิษณุ"ยันรัฐบาลไฟเขียวให้แก้รธน. "สุทิน"เย้ยประชามตินายกฯออกหรือไม่ออก ไม่เคยมีในโลก ขณะที่การอภิปรายในสภาเดือด "วิสาร "ส.ส.เพื่อไทย กรีดแขนกลางสภา ถาม"บิกตู่" จะเป็นทรราชย์ หรือวีรบุรุษ "สิระ-ปารีณา"กรีดซ้ำพกอาวุธเข้าสภาผิดกฎหมาย "ประยุทธ์" ลั่นจะอยู่ต่อจนกว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำงาน ไม่ขอตัดช่องน้อยในยามที่ประเทศมีปัญหา เตือนอย่าชักศึกเข้าบ้าน "วิปรัฐบาลเสนอตั้งคณะกก.เพื่อหาทางออกประเทศวันนี้
เช้าวานนี้ (27ต.ค.) ก่อนการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเป็นวันที่สอง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การนำร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับไอลอว์ เข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภา ว่า ต้องรอให้การประชุมสมัยวิสามัญผ่านไปก่อน แล้วจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองมาหารือ ว่าการพิจารณาร่างแก้ไขรธน. วาระรับหลักการ สมควรรอ ร่างไอลอว์ หรือไม่ ถ้าไม่รอก็จะให้นำทั้ง 6 ร่าง ที่กมธ.พิจารณาเสร็จแล้วมาพิจารณาก่อน ถ้ารอก็ต้องรอหลังวันที่ 12 พ.ย.
ส่วนข้อเสนอของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอตั้งคณะกรรมกรรมสมานฉันท์ หาทางออกให้กับประเทศ ก็ได้ให้คณะทำงานศึกษาอยู่ว่าเป็นไปได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้เข้าหารือ เรื่องการทำประชามติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง การจัดตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อความปรองดองเพื่อแก้ปัญหาประเทศ
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการหารือกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับปัญหาของประเทศทุกเรื่อง ส่วนเรื่องการแก้รธน.นั้น ยืนยันว่ารัฐบาลไฟเขียวให้แก้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึง ข้อเสนอตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ซึ่งประกอบด้วย 7 ฝ่าย ว่า มีทั้งรัฐบาล ตัวแทนส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ส.ว. ผู้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของผู้ชุมนุม และผู้ทรงคุณวุฒิฝ่ายต่างๆ
เย้ยประชามติ"ลาออก"ไม่มีในโลก
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการดังกล่าวต้องสื่อให้เห็นถึงความจริงใจในการตั้ง ว่าเป็นการตั้งกันชนให้รัฐบาลหรือไม่ ถ้าเข้าใจแบบนั้น ก็ไม่เกิดประโยชน์กลไกประชาธิปไตยมีอยู่แล้ว ใครจะลาออก หรือไม่ลาออก ก็ไม่เห็นประเทศใดในโลกที่ต้องมาทำประชามติ
" หากทำประชามติเรื่องอื่นก็พอฟังได้ แต่ทำประชามติว่า ลาออกหรือไม่ลาออก รธน.ยังต้องตีความว่า การทำประชามติเกี่ยวกับบุคคล รธน.ไม่ให้ทำ ก็เหมือนแบบที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เสนอให้ทำประชามติ ควรให้มีม็อบ หรือไม่มีม็อบ ก็ยิ่งไปกันใหญ่ การชุมนุมเป็นเรื่องที่รธน.ยอมรับ สิทธิขั้นพื้นฐานจะไปทำประชามติไม่ได้ ก็เหมือนการทำประชามติ ลาออกหรือไม่ลาออกเขาไม่ทำกันหรอก" นายสุทิน กล่าว
รัฐบาลอย่าผูกขาดรักสถาบันฯ
สำหรับการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ในช่วงเช้า น.ส.มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ควรเลิกอ้างได้แล้วว่า การปกป้องสถาบันฯ จะต้องมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯเท่านั้น คนไทยส่วนใหญ่เคารพ เทิดทูนสถาบันฯ อย่าผูกขาดสถาบันฯไว้ฝ่ายเดียว ตนนึกถึงประวัติศาสตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ ที่ได้ปกป้องขบวนเรือเสด็จของพระราชา นำเรือผ่านคูคลองคดเคี้ยวแต่ไม่อาจหลบเลี่ยงได้ พันท้ายนรสิงห์ คิดว่านั่นคือการไม่สามารถอารักขาได้ จึงเสนอให้ประหารชีวิตตนเอง
นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า เพื่อคลี่คลายสถานการณ์เช่นนี้ นายกฯ มี 4 ทางเลือก คือ 1. ซื้อเวลา ไม่ออก ไม่สนใจ ปล่อยให้มีการชุมนุมทำร้ายประเทศชาติไปเรื่อยๆ 2. ลาออก และยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเองเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด 3. ยุบสภา เชื่อว่าถ้าไม่มีทางออกคงเลือกข้อนี้มากที่สุด แต่การยุบสภาจะสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ การชุมนุมจะบานปลายทำให้รัฐล้มเหลว อีกทั้งกว่าผลการเลือกตั้งกว่าจะออกมาได้ ต้องใช้เวลานาน ดังนั้นการยุบสภา จึงไม่ใช่ทางออก และ 4. ยึดอำนาจ ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเกิดขึ้นจริงหายนะจะเกิดขึ้น แผ่นดินจะนองเลือด
นายกฯย้อนเตือนอย่าลืมเหตุการณ์ปี 57
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ที่มีการกล่าวหาตนว่าแบ่งชนชั้นนั้น ตนไม่เคยทำ มีแต่บอกว่า คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ต้องทำงานร่วมกัน การทำลายสถาบันครอบครัว วันนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย ลูกไม่เคารพพ่อแม่ ลูกศิษย์ไม่เคารพครูอาจารย์ เคยบอกแล้วว่าที่เข้ามาเป็นรัฐบาลเพื่ออะไร
"ท่านไม่เคยพูดเรื่องยึดอำนาจรัฐประหาร แต่ไม่เคยพูดถึงเผด็จการรัฐสภาที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้น แล้วรธน. ฉบับปี 60 ผมคิดว่าผมไม่ได้ไปก้าวล่วงเกี่ยวกับการร่างรธน. อย่าลืมว่าประวัติศาสตร์ หลายอย่างที่เกิดขึ้นก่อนที่ผมจะเข้ามา ถามว่าลืมแล้วหรือยัง สมัยนั้นท่านทำอะไรกัน สิ่งที่เกิดขึ้นวุ่นวาย การทุจริตที่มีหลักฐานชัดเจนเชิงประจักษ์ ท่านลืมหมดแล้วหรือ ถ้าลืมก็กรุณาไปทบทวนใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในปี 2557 วันนี้ที่บ้านเมืองวุ่นวายอยู่ทุกวันเพราะอะไร" นายกรัฐมนตรี กล่าว
"ถวิล"เตือนม็อบสถาบันฯไม่ใช่ศัตรู
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่าปัญหาเกิดจากการที่รัฐบาลไม่รับฟังเสียงของประชาชน ใช้กฎหมายเลือกปฏิบัติ ขู่ประชาชนที่ใช้โซเชียลฯ ถึงสามแสนราย ปิดกั้นสื่อ และคุกคามเสรีภาพสื่อ และมีการสันนิษฐานว่า จะสร้างเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ที่นำมาสู่การสังหารหมู่ ที่เคยเกิดขึ้นเช่นทุ่งสังหารราชประสงค์ ปี 53 และยังหาคนกระทำผิดมารับผิดชอบไม่ได้
นายถวิล เปลี่ยนศรี ส.ว. ลุกขึ้นประท้วง ว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ และข้อเท็จจริงไม่ตรงกับที่มีการอภิปราย พร้อมชี้แจงว่า เหตุการณ์ ปี 53 รัฐบาลไม่ได้ใช้กำลังสลายการชุมนุม และศาลวินิจฉัยแล้วว่า เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุการณ์วันที่ 18-20พ.ค.53 เป็นการกระชับวงล้อม เพื่อไม่ให้มีผู้ก่อเหตุร้ายใช้อาวุธ
“ อยากเตือนเด็กๆ ให้ทบทวนการเคลื่อนไหวให้เป็นไปตามกาลเทศะ สถาบันกษัตริย์เป็นเสาหลักประเทศไทย จะรื้อหรือทำลายลงไม่ได้ แต่ศัตรูที่แท้จริงคือ นักการเมืองไม่ดี ข้าราชการทุจริต นายทุนที่เห็นแก่ตัว คนไม่ดีเหล่านี้ปลุกปั่นเยาวชน ขอประณามไอ้โม่ง อีแอบ ที่เอาความคิด ความเกลียดชังสถาบันฯ ใส่ไปในความคิดเด็กๆ เพื่อสนองความมักใหญ่ใฝ่สูง คนที่กระทำการเยี่ยงนี้ ต้องพบกับอนาคตเลวร้าย “
พท.ชี้ 3 ความผิดที่บิ๊กตู่ต้องลาออก
น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกนั้น ไม่ใช่ทางออกของประเทศ ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเลิกหลบอยู่หลังคนอื่น ต้องยืดอกออกมารับผิดชอบด้วยตัวเอง
พล.อ.ประยุทธ์ ถ้ายังสงสัยว่าทำผิดอะไรถึงต้องลาออกนั้น ขอบอกว่า เพราะ1. พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่นักบริหาร แต่คือนักรัฐประหาร 2. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่นักปรองดอง แต่เป็นนักไล่ล่า และ 3. พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่นักปฏิรูป แต่เป็นนักปฏิเสธการปฏิรูป
ส.ส.เพื่อไทยกรีดแขนกลางสภา
การอภิปรายในช่วงเย็น หลังจากรัฐมนตรีลุกขึ้นชี้แจง เป็นคิวของ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้อภิปรายประเด็นการชุมนุมของนักเรียน นิสิต และนักศึกษา ซึ่งไม่ต้องการให้รัฐบาลใช้ความรุนแรง ตนขออนุญาต กรีดเลือดให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เห็นว่า ตนตั้งใจจริงๆและขออนุญาตประธานสภาฯ ให้เป็นตัวอย่างสุดท้าย
หลังจาก นายวิสาร พุดจบได้ถอดสูทออกแล้วถกแขนเสื้อ ใช้มีดปอกผลไม้ที่เตรียมมา กรีดไปที่ท้องแขนข้างซ้ายของตัวเอง 3 ครั้ง ท่ามกลางความตกใจของสมาชิก ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้กล่าวว่าไม่อนุญาตให้กรีดเลือด จากนั้นนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม ขึ้นอภิปรายต่อได้ไม่นาน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ได้ใช้สิทธิ์ลุกขึ้นหารือทันทีว่า ขอให้ประธานใช้ข้อบังคับข้อ 5 เพราะมีหลายเรื่องไม่สบายใจ เพราะมีการถ่ายทอดสดการประชุม ซึ่งเรามาหาทางออกร่วมกัน แต่มีสมาชิกเอาอาวุธเข้ามาในห้องประชุม เพื่อเฉือนตัว อาจมีตัวอย่างนำไปเลียนแบบในการชุมนุมได้ จึงอยากให้ประธานพิจารณาว่า จะประชุมต่อ หรือจะยุติการประชุม
ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ชี้แจงว่า การประชุมจะดำเนินต่อ ไม่มีเหตุให้ต้องยุติ ก็พยายามห้ามแล้ว แต่เป็นเรื่องความผู้ที่ประสงค์จะทำ ทุกคนไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอุปสรรคของส่วนร่วม จึงขอดำเนินการประชุมต่อ จากนั้น นายชวน ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล และส่งตัวนายวิสาร ไปที่ รพ.วชิรพยาบาล
"สิระ-ปารีณา"กรีดซ้ำ
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รู้สึกเสียใจที่ ส.ส.ได้กระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ในที่ประชุมอันทรงเกียรติ และพูดจาให้ร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตลอด เป็นถึงอดีตรมช.พาณิชย์ กลับพกมีดเข้ามาในที่ประชุมซึ่งผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายกับสภาอย่างมาก
ขณะที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอให้นายวิสาร ลาออกจากส.ส.เพราะเป็นการกระทำที่ขาดวุฒิภาวะ มีการเตรียมการ มีเจตนาที่จะกรีดแขนตัวเอง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน
"ดิฉันขอประณามการกระทำครั้งนี้ เป็นการกระทำที่รุนแรง และรังเกียจมากๆ กับพฤติกรรมวันนี้ ต้องลาออกเท่านั้น อย่าได้กลับเข้ามาในสภาอีก แล้วเป็นการกระทำที่ทำให้ประเทศไทยอับอายขายขี้หน้าไปทั่วโลก ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว เว้นแต่ถ้าเขาไม่ใช่ลูกผู้ชาย ก็ไม่ต้องลาออก ดังนั้น ถ้าเป็นลูกผู้ชายควรลาออก ดูอย่างคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ แค่แสดงความคิดเห็นไม่เหมาะสม ยังลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญูเลย แต่ของคุณวิสาร การกระทำเกิดขึ้นแล้วจึงต้องลาออกเท่านั้น" น.ส.ปารีณากล่าว
"วิสาร"ลั่นขอเป็นเลือดสุดท้ายของคนไทย!
ด้านนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ กล่าวหลังกลับมาจาก รพ.วชิรพยาบาล ว่าขออภัยทำให้ตกอกตกใจ เย็บไป 9 เข็ม ตลอดระยะเวลาเล่นการเมืองมา 34-35 ปี ไม่มีครั้งไหนกดดันเท่าครั้งนี้ ตนเห็นเด็กชุมนุม ในวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ดูแล้วไม่เป็นที่สนใจของนายกฯ อยากให้อันนี้เป็นเลือดสุดท้ายของคนไทย ไม่อยากให้คนไทยเสียเลือดเนื้ออีก
"นายกรัฐมนตรี ต้องลงมาแก้ปัญหาและใช้โอกาสตรงนี้ ย้ำว่าท่านจะเป็นวีรบุรุษ หรือทรราช ก็อยู่ตรงนี้ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงใย และขออภัยให้วุ่นวาย ไม่มีความเป็นอย่างอื่น ยืมมีดปลอกผลไม้ของแม่บ้าน ไม่ได้พกมาเอง และไม่ได้บอกคนในครอบครัว เป็นการประท้วงและยอมเจ็บตัวคนเดียว" นายวิสาร กล่าว และว่าไม่ได้เอาอาวุธเข้ามาในสภา เพราะมีดปลอกผลไม้อยู่ในสภาอยู่แล้ว
"ประยุทธ์" ลั่นอยู่-ไม่หนียามปท.มีปัญหา
ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า หลายอย่างที่พูดในสภา ผู้ที่ไม่ค่อยเห็นชอบและโจมตีตนมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทั้งเศรษฐกิจ และชี้แจงตัวเลขต่างๆ ก็บิดเบือนหลายประการ ถ้าฟังด้านเดียวก็จะหาว่ารัฐบาลใช้ไม่ได้ แต่ถ้าบอกว่าให้ตนลาออก เพราะบริหารประเทศล้มเหลว ย้อนไปปี 2549 มีการชุมนุม แล้วตอนนั้นลาออกหรือไม่ และตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน การชุมนุมตนรักทุกคนเหมือนลูกหลาน เป็นเสียงหนึ่งของคนไทย
ส่วนการชุมนุมในประเทศ ผมไม่โทษเขา เราต้องหาวิธีแก้ไขกันให้ได้ มีมาตรการผ่อนคลายหลายอย่าง แต่ถ้าไม่ฟังก็ไม่เข้าใจ ก็โทษรัฐบาลอยู่ร่ำไป ผมรับได้ ความแยกแตกในครอบครัว และความเห็นต่างระหว่างวัย ประเทศไทยเคยรัก เคารพ เอื้อเฟื้อกัน ตนไม่อย่างให้ความดีงามนี้หายไปเพราะความไม่เข้าใจระหว่างรุ่น โลกโซเชียลมีเดีย มีการใช้ข้อมูลของคนกลุ่มเปราะบางไปใช้ประโยชน์เสมอ ไม่คุ้มกัน เพราะเราจะเสียใจ
การแก้รธน. เป็นขั้นตอนของรัฐสภาอยู่แล้ว ส่วนการลาออก ตนไม่เคยยึดติดกับตำแหน่ง บางคนบอกว่าตนอยากอยู่ยาว ไปถามคนร่างรธน.โน่น ให้ความเป็นธรรมกับตนบ้าง ตนจะไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหา ในยามที่บ้านมีมีปัญหา หรือต้องช่วยกันประคับประคองไปข้างหน้า ทั้งการว่างงาน การจัดการน้ำ SME หลายคนบอกว่ารัฐบาลนี้ไม่ทำงาน ใช้เงินอย่างเดียว แต่ถ้าว่าถนนหนทางเกิดขึ้นสมัยไหน เราก็ทำ ก่อนหน้านั้นงบประมาณก็ไม่ต่างกันมาก แต่ที่กู้มากเพราะโควิด เพื่อช่วยเหลือประชาชน อย่าเอาตัวเลขมั่วๆ มาพูด ตนไม่ได้บริหารงานอยู่บนหอคอยอย่างที่ท่านคิด การได้ชัยชนะท่ามกลางซากของบ้านเมืองคุ้มค่าหรือไม่ มันจะไม่เหลืออะไรอีกเลย สงสารลูกหลาน เยาวชนที่บอกว่าห่วง ท่านคิดถึงเขาหรือไม่ ถ้าจะเอามาขับเคลื่อนทางการเมืองไปด้วย
"ผมจะอยู่ต่อจนกว่าจะไม่มีโอกาสจะได้ทำ ตอบชัดไหมครับ อย่าเอาต่างประเทศเข้ามาในแผ่นดิน เพราะแผ่นดินมีอำนาจอธิปไตย มันอันตรายที่สุด มีนักข่าวข้างล่างแจ้งมาว่าเตรียมไว้แล้วช็อตเด็ด เตรียมเผยแพร่ไปทั่วโลก" นายกรัฐมนตรี กล่าว
เสนอตั้งกก.หาทางออก
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า ตลอดระยะเวลาสองวันที่สมาชิกเสนอแนวทาง โดยสรุปคือ อยากให้นายกฯลาออก อยากเห็นการแก้รธน. อยากปฏิรูปสถาบันฯ ซึ่งวันนี้เรายังไม่เห็นโจทย์ที่ชัดเจนในสิ่งที่ท่านเสนอ ทราบแต่ว่าคนที่ไปเดินขบวน ก็ดูแต่มือถือ ฟังคำสั่งจากมือถือ ก้มหน้าดูแต่มือถือ เราจึงเห็นการชุมนุมที่เป็นรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศ ถ้าพูดถึงการสลายการชุมนุม ตนก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะม็อบทุกคนถือเป็นลูกหลานทั้งสิ้น ไม่กล้าทำอะไร ซึ่งการสลายการชุมนุมครั้งนี้ใช้การฉีดน้ำแรงดันต่ำในการสลาย
นายวิรัช กล่าวว่านายกฯ ไม่ต้องลาออก เพราะถ้าลาออกแล้วสภา เลือกนายกฯกลับมาอีกท่านจะว่าอย่างไร ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถ้าเราดูด้วยเหตุผลจะเห็นว่าท่านทุ่มเทมาตลอด นายกฯ บอกว่าท่านออกมาแล้วก้าวหนึ่ง วันนี้สภาจะหาทางออกอย่างไร นายกฯบอกกับตนว่า ลองไปช่วยกันคิดดูทั้งส.ส.ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และส.ว. จะทำอย่างไรที่จะหาทางออกประเทศ โดยความร่วมมือกัน ครม.- ส.ว.- ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และส.ส.ฝ่ายค้าน นอกจากนี้ วันนี้อาจจะมีช่าวดีคือ หลายท่านที่เป็นส.ว.เริ่มเข้าใจส.ส. ต้องการที่จะแก้ไขรธน. โดยใช้มาตรา 256 ให้มีส.ส.ร. ซึ่งในส่วนของฝ่ายค้าน เราก็จะไปด้วยกัน จึงขอเสนอตั้งคณะกรรมการเพื่อหาทางออกให้ประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.)
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่รับให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญรัฐสภา มาตรา 165 เป็นการฟังความคิดเห็น แม้ว่าความเห็นจะมีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง แต่ก็ไม่เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตามคนที่เป็นห่วงอนาคตของประเทศคือประชาชน สภาของเราต้องหาทางออกที่บรรเทา เพื่อลดปัญหาลงระดับหนึ่ง ส่วนที่นายวิรัช เสนอเป็นเรื่องที่นอกเหนือจากมาตรา 165 แต่จะรับไปหารือกับทุกพรรคการเมือง ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือให้มีการเปิดประชุมครั้งนี้
จากนั้นเลขาธิการสภาฯได้อ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุมวิสามัญรัฐสภา โดยนายชวน ได้สั่งปิดการประชุมเมื่อเวลา 22.10 น.
เช้าวานนี้ (27ต.ค.) ก่อนการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเป็นวันที่สอง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การนำร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับไอลอว์ เข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภา ว่า ต้องรอให้การประชุมสมัยวิสามัญผ่านไปก่อน แล้วจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองมาหารือ ว่าการพิจารณาร่างแก้ไขรธน. วาระรับหลักการ สมควรรอ ร่างไอลอว์ หรือไม่ ถ้าไม่รอก็จะให้นำทั้ง 6 ร่าง ที่กมธ.พิจารณาเสร็จแล้วมาพิจารณาก่อน ถ้ารอก็ต้องรอหลังวันที่ 12 พ.ย.
ส่วนข้อเสนอของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอตั้งคณะกรรมกรรมสมานฉันท์ หาทางออกให้กับประเทศ ก็ได้ให้คณะทำงานศึกษาอยู่ว่าเป็นไปได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้เข้าหารือ เรื่องการทำประชามติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง การจัดตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อความปรองดองเพื่อแก้ปัญหาประเทศ
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการหารือกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับปัญหาของประเทศทุกเรื่อง ส่วนเรื่องการแก้รธน.นั้น ยืนยันว่ารัฐบาลไฟเขียวให้แก้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึง ข้อเสนอตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ซึ่งประกอบด้วย 7 ฝ่าย ว่า มีทั้งรัฐบาล ตัวแทนส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ส.ว. ผู้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของผู้ชุมนุม และผู้ทรงคุณวุฒิฝ่ายต่างๆ
เย้ยประชามติ"ลาออก"ไม่มีในโลก
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการดังกล่าวต้องสื่อให้เห็นถึงความจริงใจในการตั้ง ว่าเป็นการตั้งกันชนให้รัฐบาลหรือไม่ ถ้าเข้าใจแบบนั้น ก็ไม่เกิดประโยชน์กลไกประชาธิปไตยมีอยู่แล้ว ใครจะลาออก หรือไม่ลาออก ก็ไม่เห็นประเทศใดในโลกที่ต้องมาทำประชามติ
" หากทำประชามติเรื่องอื่นก็พอฟังได้ แต่ทำประชามติว่า ลาออกหรือไม่ลาออก รธน.ยังต้องตีความว่า การทำประชามติเกี่ยวกับบุคคล รธน.ไม่ให้ทำ ก็เหมือนแบบที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เสนอให้ทำประชามติ ควรให้มีม็อบ หรือไม่มีม็อบ ก็ยิ่งไปกันใหญ่ การชุมนุมเป็นเรื่องที่รธน.ยอมรับ สิทธิขั้นพื้นฐานจะไปทำประชามติไม่ได้ ก็เหมือนการทำประชามติ ลาออกหรือไม่ลาออกเขาไม่ทำกันหรอก" นายสุทิน กล่าว
รัฐบาลอย่าผูกขาดรักสถาบันฯ
สำหรับการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ในช่วงเช้า น.ส.มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ควรเลิกอ้างได้แล้วว่า การปกป้องสถาบันฯ จะต้องมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯเท่านั้น คนไทยส่วนใหญ่เคารพ เทิดทูนสถาบันฯ อย่าผูกขาดสถาบันฯไว้ฝ่ายเดียว ตนนึกถึงประวัติศาสตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ ที่ได้ปกป้องขบวนเรือเสด็จของพระราชา นำเรือผ่านคูคลองคดเคี้ยวแต่ไม่อาจหลบเลี่ยงได้ พันท้ายนรสิงห์ คิดว่านั่นคือการไม่สามารถอารักขาได้ จึงเสนอให้ประหารชีวิตตนเอง
นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า เพื่อคลี่คลายสถานการณ์เช่นนี้ นายกฯ มี 4 ทางเลือก คือ 1. ซื้อเวลา ไม่ออก ไม่สนใจ ปล่อยให้มีการชุมนุมทำร้ายประเทศชาติไปเรื่อยๆ 2. ลาออก และยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเองเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด 3. ยุบสภา เชื่อว่าถ้าไม่มีทางออกคงเลือกข้อนี้มากที่สุด แต่การยุบสภาจะสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ การชุมนุมจะบานปลายทำให้รัฐล้มเหลว อีกทั้งกว่าผลการเลือกตั้งกว่าจะออกมาได้ ต้องใช้เวลานาน ดังนั้นการยุบสภา จึงไม่ใช่ทางออก และ 4. ยึดอำนาจ ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเกิดขึ้นจริงหายนะจะเกิดขึ้น แผ่นดินจะนองเลือด
นายกฯย้อนเตือนอย่าลืมเหตุการณ์ปี 57
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ที่มีการกล่าวหาตนว่าแบ่งชนชั้นนั้น ตนไม่เคยทำ มีแต่บอกว่า คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ต้องทำงานร่วมกัน การทำลายสถาบันครอบครัว วันนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย ลูกไม่เคารพพ่อแม่ ลูกศิษย์ไม่เคารพครูอาจารย์ เคยบอกแล้วว่าที่เข้ามาเป็นรัฐบาลเพื่ออะไร
"ท่านไม่เคยพูดเรื่องยึดอำนาจรัฐประหาร แต่ไม่เคยพูดถึงเผด็จการรัฐสภาที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้น แล้วรธน. ฉบับปี 60 ผมคิดว่าผมไม่ได้ไปก้าวล่วงเกี่ยวกับการร่างรธน. อย่าลืมว่าประวัติศาสตร์ หลายอย่างที่เกิดขึ้นก่อนที่ผมจะเข้ามา ถามว่าลืมแล้วหรือยัง สมัยนั้นท่านทำอะไรกัน สิ่งที่เกิดขึ้นวุ่นวาย การทุจริตที่มีหลักฐานชัดเจนเชิงประจักษ์ ท่านลืมหมดแล้วหรือ ถ้าลืมก็กรุณาไปทบทวนใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในปี 2557 วันนี้ที่บ้านเมืองวุ่นวายอยู่ทุกวันเพราะอะไร" นายกรัฐมนตรี กล่าว
"ถวิล"เตือนม็อบสถาบันฯไม่ใช่ศัตรู
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่าปัญหาเกิดจากการที่รัฐบาลไม่รับฟังเสียงของประชาชน ใช้กฎหมายเลือกปฏิบัติ ขู่ประชาชนที่ใช้โซเชียลฯ ถึงสามแสนราย ปิดกั้นสื่อ และคุกคามเสรีภาพสื่อ และมีการสันนิษฐานว่า จะสร้างเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ที่นำมาสู่การสังหารหมู่ ที่เคยเกิดขึ้นเช่นทุ่งสังหารราชประสงค์ ปี 53 และยังหาคนกระทำผิดมารับผิดชอบไม่ได้
นายถวิล เปลี่ยนศรี ส.ว. ลุกขึ้นประท้วง ว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ และข้อเท็จจริงไม่ตรงกับที่มีการอภิปราย พร้อมชี้แจงว่า เหตุการณ์ ปี 53 รัฐบาลไม่ได้ใช้กำลังสลายการชุมนุม และศาลวินิจฉัยแล้วว่า เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุการณ์วันที่ 18-20พ.ค.53 เป็นการกระชับวงล้อม เพื่อไม่ให้มีผู้ก่อเหตุร้ายใช้อาวุธ
“ อยากเตือนเด็กๆ ให้ทบทวนการเคลื่อนไหวให้เป็นไปตามกาลเทศะ สถาบันกษัตริย์เป็นเสาหลักประเทศไทย จะรื้อหรือทำลายลงไม่ได้ แต่ศัตรูที่แท้จริงคือ นักการเมืองไม่ดี ข้าราชการทุจริต นายทุนที่เห็นแก่ตัว คนไม่ดีเหล่านี้ปลุกปั่นเยาวชน ขอประณามไอ้โม่ง อีแอบ ที่เอาความคิด ความเกลียดชังสถาบันฯ ใส่ไปในความคิดเด็กๆ เพื่อสนองความมักใหญ่ใฝ่สูง คนที่กระทำการเยี่ยงนี้ ต้องพบกับอนาคตเลวร้าย “
พท.ชี้ 3 ความผิดที่บิ๊กตู่ต้องลาออก
น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกนั้น ไม่ใช่ทางออกของประเทศ ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเลิกหลบอยู่หลังคนอื่น ต้องยืดอกออกมารับผิดชอบด้วยตัวเอง
พล.อ.ประยุทธ์ ถ้ายังสงสัยว่าทำผิดอะไรถึงต้องลาออกนั้น ขอบอกว่า เพราะ1. พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่นักบริหาร แต่คือนักรัฐประหาร 2. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่นักปรองดอง แต่เป็นนักไล่ล่า และ 3. พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่นักปฏิรูป แต่เป็นนักปฏิเสธการปฏิรูป
ส.ส.เพื่อไทยกรีดแขนกลางสภา
การอภิปรายในช่วงเย็น หลังจากรัฐมนตรีลุกขึ้นชี้แจง เป็นคิวของ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้อภิปรายประเด็นการชุมนุมของนักเรียน นิสิต และนักศึกษา ซึ่งไม่ต้องการให้รัฐบาลใช้ความรุนแรง ตนขออนุญาต กรีดเลือดให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เห็นว่า ตนตั้งใจจริงๆและขออนุญาตประธานสภาฯ ให้เป็นตัวอย่างสุดท้าย
หลังจาก นายวิสาร พุดจบได้ถอดสูทออกแล้วถกแขนเสื้อ ใช้มีดปอกผลไม้ที่เตรียมมา กรีดไปที่ท้องแขนข้างซ้ายของตัวเอง 3 ครั้ง ท่ามกลางความตกใจของสมาชิก ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้กล่าวว่าไม่อนุญาตให้กรีดเลือด จากนั้นนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม ขึ้นอภิปรายต่อได้ไม่นาน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ได้ใช้สิทธิ์ลุกขึ้นหารือทันทีว่า ขอให้ประธานใช้ข้อบังคับข้อ 5 เพราะมีหลายเรื่องไม่สบายใจ เพราะมีการถ่ายทอดสดการประชุม ซึ่งเรามาหาทางออกร่วมกัน แต่มีสมาชิกเอาอาวุธเข้ามาในห้องประชุม เพื่อเฉือนตัว อาจมีตัวอย่างนำไปเลียนแบบในการชุมนุมได้ จึงอยากให้ประธานพิจารณาว่า จะประชุมต่อ หรือจะยุติการประชุม
ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ชี้แจงว่า การประชุมจะดำเนินต่อ ไม่มีเหตุให้ต้องยุติ ก็พยายามห้ามแล้ว แต่เป็นเรื่องความผู้ที่ประสงค์จะทำ ทุกคนไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอุปสรรคของส่วนร่วม จึงขอดำเนินการประชุมต่อ จากนั้น นายชวน ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล และส่งตัวนายวิสาร ไปที่ รพ.วชิรพยาบาล
"สิระ-ปารีณา"กรีดซ้ำ
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รู้สึกเสียใจที่ ส.ส.ได้กระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ในที่ประชุมอันทรงเกียรติ และพูดจาให้ร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตลอด เป็นถึงอดีตรมช.พาณิชย์ กลับพกมีดเข้ามาในที่ประชุมซึ่งผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายกับสภาอย่างมาก
ขณะที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอให้นายวิสาร ลาออกจากส.ส.เพราะเป็นการกระทำที่ขาดวุฒิภาวะ มีการเตรียมการ มีเจตนาที่จะกรีดแขนตัวเอง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน
"ดิฉันขอประณามการกระทำครั้งนี้ เป็นการกระทำที่รุนแรง และรังเกียจมากๆ กับพฤติกรรมวันนี้ ต้องลาออกเท่านั้น อย่าได้กลับเข้ามาในสภาอีก แล้วเป็นการกระทำที่ทำให้ประเทศไทยอับอายขายขี้หน้าไปทั่วโลก ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว เว้นแต่ถ้าเขาไม่ใช่ลูกผู้ชาย ก็ไม่ต้องลาออก ดังนั้น ถ้าเป็นลูกผู้ชายควรลาออก ดูอย่างคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ แค่แสดงความคิดเห็นไม่เหมาะสม ยังลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญูเลย แต่ของคุณวิสาร การกระทำเกิดขึ้นแล้วจึงต้องลาออกเท่านั้น" น.ส.ปารีณากล่าว
"วิสาร"ลั่นขอเป็นเลือดสุดท้ายของคนไทย!
ด้านนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ กล่าวหลังกลับมาจาก รพ.วชิรพยาบาล ว่าขออภัยทำให้ตกอกตกใจ เย็บไป 9 เข็ม ตลอดระยะเวลาเล่นการเมืองมา 34-35 ปี ไม่มีครั้งไหนกดดันเท่าครั้งนี้ ตนเห็นเด็กชุมนุม ในวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ดูแล้วไม่เป็นที่สนใจของนายกฯ อยากให้อันนี้เป็นเลือดสุดท้ายของคนไทย ไม่อยากให้คนไทยเสียเลือดเนื้ออีก
"นายกรัฐมนตรี ต้องลงมาแก้ปัญหาและใช้โอกาสตรงนี้ ย้ำว่าท่านจะเป็นวีรบุรุษ หรือทรราช ก็อยู่ตรงนี้ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงใย และขออภัยให้วุ่นวาย ไม่มีความเป็นอย่างอื่น ยืมมีดปลอกผลไม้ของแม่บ้าน ไม่ได้พกมาเอง และไม่ได้บอกคนในครอบครัว เป็นการประท้วงและยอมเจ็บตัวคนเดียว" นายวิสาร กล่าว และว่าไม่ได้เอาอาวุธเข้ามาในสภา เพราะมีดปลอกผลไม้อยู่ในสภาอยู่แล้ว
"ประยุทธ์" ลั่นอยู่-ไม่หนียามปท.มีปัญหา
ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า หลายอย่างที่พูดในสภา ผู้ที่ไม่ค่อยเห็นชอบและโจมตีตนมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทั้งเศรษฐกิจ และชี้แจงตัวเลขต่างๆ ก็บิดเบือนหลายประการ ถ้าฟังด้านเดียวก็จะหาว่ารัฐบาลใช้ไม่ได้ แต่ถ้าบอกว่าให้ตนลาออก เพราะบริหารประเทศล้มเหลว ย้อนไปปี 2549 มีการชุมนุม แล้วตอนนั้นลาออกหรือไม่ และตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน การชุมนุมตนรักทุกคนเหมือนลูกหลาน เป็นเสียงหนึ่งของคนไทย
ส่วนการชุมนุมในประเทศ ผมไม่โทษเขา เราต้องหาวิธีแก้ไขกันให้ได้ มีมาตรการผ่อนคลายหลายอย่าง แต่ถ้าไม่ฟังก็ไม่เข้าใจ ก็โทษรัฐบาลอยู่ร่ำไป ผมรับได้ ความแยกแตกในครอบครัว และความเห็นต่างระหว่างวัย ประเทศไทยเคยรัก เคารพ เอื้อเฟื้อกัน ตนไม่อย่างให้ความดีงามนี้หายไปเพราะความไม่เข้าใจระหว่างรุ่น โลกโซเชียลมีเดีย มีการใช้ข้อมูลของคนกลุ่มเปราะบางไปใช้ประโยชน์เสมอ ไม่คุ้มกัน เพราะเราจะเสียใจ
การแก้รธน. เป็นขั้นตอนของรัฐสภาอยู่แล้ว ส่วนการลาออก ตนไม่เคยยึดติดกับตำแหน่ง บางคนบอกว่าตนอยากอยู่ยาว ไปถามคนร่างรธน.โน่น ให้ความเป็นธรรมกับตนบ้าง ตนจะไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหา ในยามที่บ้านมีมีปัญหา หรือต้องช่วยกันประคับประคองไปข้างหน้า ทั้งการว่างงาน การจัดการน้ำ SME หลายคนบอกว่ารัฐบาลนี้ไม่ทำงาน ใช้เงินอย่างเดียว แต่ถ้าว่าถนนหนทางเกิดขึ้นสมัยไหน เราก็ทำ ก่อนหน้านั้นงบประมาณก็ไม่ต่างกันมาก แต่ที่กู้มากเพราะโควิด เพื่อช่วยเหลือประชาชน อย่าเอาตัวเลขมั่วๆ มาพูด ตนไม่ได้บริหารงานอยู่บนหอคอยอย่างที่ท่านคิด การได้ชัยชนะท่ามกลางซากของบ้านเมืองคุ้มค่าหรือไม่ มันจะไม่เหลืออะไรอีกเลย สงสารลูกหลาน เยาวชนที่บอกว่าห่วง ท่านคิดถึงเขาหรือไม่ ถ้าจะเอามาขับเคลื่อนทางการเมืองไปด้วย
"ผมจะอยู่ต่อจนกว่าจะไม่มีโอกาสจะได้ทำ ตอบชัดไหมครับ อย่าเอาต่างประเทศเข้ามาในแผ่นดิน เพราะแผ่นดินมีอำนาจอธิปไตย มันอันตรายที่สุด มีนักข่าวข้างล่างแจ้งมาว่าเตรียมไว้แล้วช็อตเด็ด เตรียมเผยแพร่ไปทั่วโลก" นายกรัฐมนตรี กล่าว
เสนอตั้งกก.หาทางออก
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า ตลอดระยะเวลาสองวันที่สมาชิกเสนอแนวทาง โดยสรุปคือ อยากให้นายกฯลาออก อยากเห็นการแก้รธน. อยากปฏิรูปสถาบันฯ ซึ่งวันนี้เรายังไม่เห็นโจทย์ที่ชัดเจนในสิ่งที่ท่านเสนอ ทราบแต่ว่าคนที่ไปเดินขบวน ก็ดูแต่มือถือ ฟังคำสั่งจากมือถือ ก้มหน้าดูแต่มือถือ เราจึงเห็นการชุมนุมที่เป็นรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศ ถ้าพูดถึงการสลายการชุมนุม ตนก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะม็อบทุกคนถือเป็นลูกหลานทั้งสิ้น ไม่กล้าทำอะไร ซึ่งการสลายการชุมนุมครั้งนี้ใช้การฉีดน้ำแรงดันต่ำในการสลาย
นายวิรัช กล่าวว่านายกฯ ไม่ต้องลาออก เพราะถ้าลาออกแล้วสภา เลือกนายกฯกลับมาอีกท่านจะว่าอย่างไร ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถ้าเราดูด้วยเหตุผลจะเห็นว่าท่านทุ่มเทมาตลอด นายกฯ บอกว่าท่านออกมาแล้วก้าวหนึ่ง วันนี้สภาจะหาทางออกอย่างไร นายกฯบอกกับตนว่า ลองไปช่วยกันคิดดูทั้งส.ส.ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และส.ว. จะทำอย่างไรที่จะหาทางออกประเทศ โดยความร่วมมือกัน ครม.- ส.ว.- ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และส.ส.ฝ่ายค้าน นอกจากนี้ วันนี้อาจจะมีช่าวดีคือ หลายท่านที่เป็นส.ว.เริ่มเข้าใจส.ส. ต้องการที่จะแก้ไขรธน. โดยใช้มาตรา 256 ให้มีส.ส.ร. ซึ่งในส่วนของฝ่ายค้าน เราก็จะไปด้วยกัน จึงขอเสนอตั้งคณะกรรมการเพื่อหาทางออกให้ประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.)
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่รับให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญรัฐสภา มาตรา 165 เป็นการฟังความคิดเห็น แม้ว่าความเห็นจะมีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง แต่ก็ไม่เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตามคนที่เป็นห่วงอนาคตของประเทศคือประชาชน สภาของเราต้องหาทางออกที่บรรเทา เพื่อลดปัญหาลงระดับหนึ่ง ส่วนที่นายวิรัช เสนอเป็นเรื่องที่นอกเหนือจากมาตรา 165 แต่จะรับไปหารือกับทุกพรรคการเมือง ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือให้มีการเปิดประชุมครั้งนี้
จากนั้นเลขาธิการสภาฯได้อ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุมวิสามัญรัฐสภา โดยนายชวน ได้สั่งปิดการประชุมเมื่อเวลา 22.10 น.