ผู้จัดการรายวัน360- กกพ.ศึกษาออกหลักเกณฑ์ควบคุมระบบท่อก๊าซฯ เพิ่มเติม เพิ่มความปลอดภัย แม้ระบบท่อก๊าซฯ ปตท. จะมีมาตรฐานระดับสากล แต่สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป ทั้งชุมชน และถนน รุกคืบเข้าใกล้ “อรรถพล” ซีอีโอ ปตท. ย้ำดูแลผู้ประสบภัยอย่างญาติพี่น้องและรวดเร็ว พร้อมทั้งอนุมัติวงเงินเพื่อใช้ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กกพ.ได้ติดตามเหตุท่อก๊าซธรรมชาติรั่ว และเกิดระเบิดที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ อย่างใกล้ชิดซึ่งในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการพลังงานกำลังพิจารณาว่าจะออกระเบียบกฎเกณฑ์เพิ่มเติมอย่างไรในการแก้ไขปัญหาในลักษณะดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยท่อก๊าซฯ ที่เกิดระเบิดเป็นท่อเส้นที่ 2 ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2539 และพบว่าสภาพแวดล้อมใกล้ท่อก๊าซฯ แต่ละเส้นเปลี่ยนไปมากจากอดีต มีชุมชน ถนน เกิดใกล้แนวท่อก๊าซฯ มากขึ้น จึงต้องวางเกณฑ์ในการกำหนดความปลอดภัยเพิ่มเติม
สำหรับท่อก๊าซฯ ปตท.นั้น มีมาตรฐานสูง เป็นมาตรฐานระดับโลก มีการเตือนเรื่องบุคคลภายนอกเข้าไปใช้พื้นที่ใกล้เคียง ต้องแจ้งขออนุญาต แต่ที่ผ่านมา ก็มีอุบัติเหตุจากการไม่ระมัดระวังของบุคคลภายนอก แต่สาเหตุของการรั่ว ต้องรอผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ซึ่ง บมจ.ปตท.ได้ส่งชิ้นส่วนท่อก๊าซที่ฉีกขาดไปตรวจสอบแล้ว
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารบริษัท เพื่อกำชับให้ดูแลผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว และดูแลเหมือนญาติพี่น้อง โดยขออนุมัติกรอบเงินเยียวยามาจ่ายแก่ผู้ประสบภัยตามที่ประกาศไว้ เช่น จ่ายครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 5 ล้านบาท และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรายละ 50,000-500,000 บาท เป็นต้น พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ในกลุ่มเร่งช่วยเหลือซ่อมแซมผู้ได้รับผลกระทบ หลังเกิดเหตุ
ทั้งนี้ จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ ปตท. แต่อย่างใด และมีผลกระทบต่อผู้ใช้ก๊าชธรรมชาติน้อยมาก ซึ่ง ปตท. สามารถบริหารการจัดหาและขนส่งก๊าชธรรมชาติทดแทนให้แก่ผู้ใช้ก๊าชธรรมชาติในบริเวณดังกล่าวได้ รวมทั้ง ปตท. ได้ทำประกันกันคุ้มครองความเสี่ยงของทรัพย์สินหลักที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานสากล มีความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน ธุรกิจหยุดชะงัก และความรับผิดตามกฎหมายของ ปตท.ต่อบุคคลภายนอก
“สิ่งที่ ปตท. ต้องทำในวันนี้คือ การแสดงความรับผิดชอบต่อผู้สูญเสียและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในทุกๆ ด้าน ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ เพื่อให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด”นายอรรถพลกล่าว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 66 ราย และสร้างความเสียหายให้กับที่พักอาศัยและยานพาหนะที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กกพ.ได้ติดตามเหตุท่อก๊าซธรรมชาติรั่ว และเกิดระเบิดที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ อย่างใกล้ชิดซึ่งในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการพลังงานกำลังพิจารณาว่าจะออกระเบียบกฎเกณฑ์เพิ่มเติมอย่างไรในการแก้ไขปัญหาในลักษณะดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยท่อก๊าซฯ ที่เกิดระเบิดเป็นท่อเส้นที่ 2 ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2539 และพบว่าสภาพแวดล้อมใกล้ท่อก๊าซฯ แต่ละเส้นเปลี่ยนไปมากจากอดีต มีชุมชน ถนน เกิดใกล้แนวท่อก๊าซฯ มากขึ้น จึงต้องวางเกณฑ์ในการกำหนดความปลอดภัยเพิ่มเติม
สำหรับท่อก๊าซฯ ปตท.นั้น มีมาตรฐานสูง เป็นมาตรฐานระดับโลก มีการเตือนเรื่องบุคคลภายนอกเข้าไปใช้พื้นที่ใกล้เคียง ต้องแจ้งขออนุญาต แต่ที่ผ่านมา ก็มีอุบัติเหตุจากการไม่ระมัดระวังของบุคคลภายนอก แต่สาเหตุของการรั่ว ต้องรอผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ซึ่ง บมจ.ปตท.ได้ส่งชิ้นส่วนท่อก๊าซที่ฉีกขาดไปตรวจสอบแล้ว
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารบริษัท เพื่อกำชับให้ดูแลผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว และดูแลเหมือนญาติพี่น้อง โดยขออนุมัติกรอบเงินเยียวยามาจ่ายแก่ผู้ประสบภัยตามที่ประกาศไว้ เช่น จ่ายครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 5 ล้านบาท และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรายละ 50,000-500,000 บาท เป็นต้น พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ในกลุ่มเร่งช่วยเหลือซ่อมแซมผู้ได้รับผลกระทบ หลังเกิดเหตุ
ทั้งนี้ จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ ปตท. แต่อย่างใด และมีผลกระทบต่อผู้ใช้ก๊าชธรรมชาติน้อยมาก ซึ่ง ปตท. สามารถบริหารการจัดหาและขนส่งก๊าชธรรมชาติทดแทนให้แก่ผู้ใช้ก๊าชธรรมชาติในบริเวณดังกล่าวได้ รวมทั้ง ปตท. ได้ทำประกันกันคุ้มครองความเสี่ยงของทรัพย์สินหลักที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานสากล มีความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน ธุรกิจหยุดชะงัก และความรับผิดตามกฎหมายของ ปตท.ต่อบุคคลภายนอก
“สิ่งที่ ปตท. ต้องทำในวันนี้คือ การแสดงความรับผิดชอบต่อผู้สูญเสียและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในทุกๆ ด้าน ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ เพื่อให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด”นายอรรถพลกล่าว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 66 ราย และสร้างความเสียหายให้กับที่พักอาศัยและยานพาหนะที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
