“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
“ผู้นำชาติไม่จริงใจต่อส่วนรวม ไม่ทำเพื่อคนส่วนใหญ่ในชาติเป็นหลัก แถมยังใช้คนไม่เหมาะสม หลับหูหลับตาเล่นเกมเพื่ออำนาจ จึงไม่ทันความเปลี่ยนแปลง ทั้งของโลกและผู้คนในชาติ..ย่อมพ่ายแพ้”
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะ“หน.รปห.บิ๊กตู่” ไม่แก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ให้ชาติ หลังทำรัฐประหารและขึ้นเป็น“นายกฯ” ทั้งๆ ที่ประชาชนมีความหวังอย่างสูงว่า “บิ๊กตู่-ชายชาติทหาร”ร่างสูงใหญ่บึกบึนท่วงท่าจริงจัง ยิ่งทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่า “นายกฯ บิ๊กตู่”ต้อง“พูดจริง-ทำจริง”แน่นอน
แหม..ก็..“นายกฯ บิ๊กตู่”ประกาศชัดหนักแน่นว่า จะปราบการโกงชาติ! จะลดความเหลื่อมล้ำ! จะปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง! จะทำชาติให้เป็นนิติรัฐมีนิติธรรม ฯลฯ ซึ่งตรงใจผู้คนส่วนใหญ่ในชาติ อีกทั้งสอดคล้องตรงกับ“โรคร้าย”ที่ทำร้ายทำลายชาติ จนไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร คุณภาพชีวิตชาวไทยไม่ดีขึ้นจนทุกวันนี้
เมื่อ “รัฐบาลเลือกตั้งโกงชาติ” อย่างต่อเนื่อง มีผู้รักชาติชุมนุมขับไล่อยู่แรมปี จน “บิ๊กตู่” นำกองทัพออกมาทำรัฐประหาร เพื่อยุติความขัดแย้งที่บานปลาย ทำให้ “บิ๊กตู่” ชนะใจคนส่วนใหญ่ในชาติโดยปริยาย “คณะรัฐประหาร” จึงได้ “ดอกไม้” จากประชาชน
อืม..ถ้า “ใคร ”จิตใจไม่มั่นคงต่อชาติกับประชาชน แล้วเกิด“ส้มโอหล่นใส่”ได้เป็น “ผู้มีอำนาจเผด็จการ”ล้นแผ่นดิน ต้องถือเป็นหนึ่งใน 60 กว่าล้านคนของชาติไทย ที่ “โชคดี” ได้ “โอกาสทอง” ในการแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ อันเสมือนเป็น “โรคร้ายเรื้อรัง” ที่ทำร้ายทำลายชาติกับประชาชนไทยมาตลอด
ถ้า “จริงใจ” ทำเพื่อชาติและประชาชน-ก็เป็นวีรบุรุษ! ถ้า “จริงโจ้” ทำเพื่อตนเองกับพวกพ้อง-ก็เป็นโมฆะบุรุษ!
ทว่า..ยุค“รัฐบาลเผด็จการบิ๊กตู่”กับเพื่อนพ้องน้องพี่ กลับหลงระเริงอำนาจจนโงหัวไม่ขึ้น จึงมิได้จัดลำดับความสำคัญในการใช้อำนาจ แก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ที่ก่อผลร้ายและเป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคง ของชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ตลอดมา
ด้วย “นายกฯ บิ๊กตู่”ใช้อำนาจเผด็จการ แก้แต่ปัญหาทั่วไป ปล่อยให้ “โอกาสทอง” ในการแก้ไขต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ของชาติกับประชาชน หมดไปอย่างไม่น่าให้อภัย
นโยบายเศรษฐกิจของ “นายกฯ บิ๊กตู่” ก็ “หลงทางเข้าป่าเข้าดง” เอื้อประโยชน์สารพัดให้กับทุนใหญ่ทั้งในและต่างชาติเป็นหลัก เกิดความไม่เป็นธรรมในการกระจายรายได้แก่ผู้คนส่วนใหญ่ในชาติ
โดย “รัฐบาลบิ๊กตู่” ผิดพลาดเข้าจังเบอร์ในการใช้เงินรัฐ กับนโยบาย “รดน้ำ(เงินรัฐ)” ให้ “คนรวย” ก่อน ด้วยหวังว่า “คนรวย” จะปล่อยให้ “น้ำไหลผ่าน” ลงไปช่วย “ผู้มีรายได้น้อย” ซึ่ง “นายกฯ บิ๊กตู่”มั่นใจแบบเกินร้อย กับสูตร“รดน้ำจากข้างบน..น้ำต้องไหลลงข้างล่าง” ตามหลักแรงดึงดูดโลกแน่นอน
ทว่า..เรื่องมิได้เป็นไปตามที่ “บิ๊กตู่ ”คิด เพราะ“คนรวยเก็บกักน้ำไว้เองทั้งหมด” ให้ “น้ำเพียงน้อยนิด” เท่านั้น “รั่ว”ลงมาถึง “ผู้มีรายได้น้อย” จึงทวีปัญหา “รวยกระจุกจนกระจาย”ในชาติไทย เพราะคนรวย-รวยยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ส่วนคนจน-จนลงแล้วจนลงอีก..
แม้รัฐจะจัดเงินกู้ให้กับธุรกิจ “เอสเอ็มอี.” แต่รัฐบาลให้ธนาคารเป็นผู้อนุมัติ ปล่อยเงินกู้ด้วยมาตรการที่เข้มงวดและล่าช้า จึงช่วยธุรกิจ “เอสเอ็มอี.”ได้เพียงส่วนน้อย เงินกู้ช่วย “เอสเอ็มอี.” ของรัฐจึงไม่อาจแก้สภาพเดือดร้อนของ“วงการธุรกิจเอสเอ็มอี.”ได้
ส่วนการ “แจกเงิน” ของรัฐบาล“บิ๊กตู่” ก็ไม่อาจทำให้ “คนส่วนใหญ่ในชาติ” ยืนได้ด้วยตนเอง เพราะ “เงินแจก” เพียงน้อยนิดจากรัฐนั้น เพียงประทังชีวิตผู้คนให้อยู่รอดแค่ชั่วคราว เพื่อผ่านห้วงระบาดของ “โควิด-19” และวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในขณะนี้เท่านั้น
เมื่อเกิดเคราะห์ซ้ำกรรมซัด “โควิด-19” ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลกและในชาติไทย จึงซ้ำเติมเศรษฐกิจชาติไทยที่แย่อยู่แล้ว ให้ทรุดหนักทวีคูณ จน “ผู้มีรายได้น้อย” ต้องลำบากยากแค้นแสนสาหัสยิ่งขึ้น
เรียกว่า..ยุค “บิ๊กตู่” นี่แหละ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้ “ความเหลื่อมล้ำ” ในชาติไทยพุ่งติดอันดับต้นๆของโลก
ส่วนสภาพการเมืองในชาติไทยนั้น รัฐบาล “นายกฯ บิ๊กตู่” แก้เพียงปัญหาทั่วไป และทำทุกวิถีทางเพื่อจะสืบทอดอำนาจเท่านั้น โดยละทิ้งการแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ที่เป็นภารกิจหลักเฉยเลย
แม้ “บิ๊กตู่” จะมีอำนาจเผด็จการนานเกือบ 7 ปี ได้เป็นทั้ง “นายกฯ รัฐประหาร”กับ “นายกฯ เลือกตั้ง” โดยพูดโอ้อวดว่าเป็นรัฐบาลที่มีผลงานมากมาย ในการพัฒนาชาติจากการทุ่มเงินมหาศาล กับโครงการบิ๊กเบิ้มนานาประเภท ทั้งบนดินและใต้ดิน ทั้งๆที่บางโครงการไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนแม้แต่น้อย
โดย “บิ๊กตู่” ยืนยันว่า ทุกโครงการล้วนโปร่งใสไร้การคอร์รัปชั่นแม้แต่น้อย ทั้งๆที่บางโครงการรู้กันไปทั่วว่า มีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลให้เห็น จนสื่อมวลชนทั้งของรัฐและเอกชน ได้แฉพฤติกรรมที่ส่อว่า “มีการโกงเงินชาติมโหฬาร” เช่น มีทั้งโกงเงินอาหารเด็กนักเรียน โกงเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ โกงเงินช่วยเหลือผู้พิการ โกงเงินช่วยเหลือพระและวัด ฯลฯ
อีกทั้ง “คนโกงที่ดินรัฐ”ซึ่งใกล้ชิดกับรัฐบาล-ยังลอยนวล! “ลูกมหาเศรษฐี”ขับรถชนตำรวจตาย-ยังลอยนวล! “กลุ่มผู้มีอำนาจ” ที่พยายามช่วย “ลูกมหาเศรษฐี”ให้พ้นผิด-ยังลอยนวล! อดีต “นายกฯ ปูจ๋า” ที่ถูกศาลฯตัดสินให้ติดคุก 2 ปี ยังหนีหลุดมือ “รัฐบาลบิ๊กตู่”ไปได้อย่างเหลือเชื่อ-ก็ยังลอยนวล ฯลฯ
เฮ้อ..นั่นเป็นเพียงตัวอย่างแค่น้อยนิด แต่ก็ทำลายความหวังของประชาชน ในเรื่องที่ “บิ๊กตู่” จะปราบปรามลงโทษ“ขบวนการคนโกงชาติ”อย่างเด็ดขาดด้วยกฎหมาย ประชาชนเห็นกันชัดเจนแล้วว่า “บิ๊กตู่”ล้มเหลว มิได้ลงมือจัดการอย่างจริงจังเท่าที่ควร
นั่นทำให้รัฐบาล “บิ๊กตู่” ถูกครหาว่า เป็นรัฐบาลที่เล่นพรรคเล่นพวก มีการกระทำไม่ตรงไปตรงมาเท่าที่ควร! เป็นรัฐบาลที่ใช้กฎหมาย “สองมาตรฐาน” ทำให้ชาติไม่เป็นนิติรัฐไม่มีนิติธรรมเท่าที่ควร! เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้ลดความเหลื่อมล้ำมิติสำคัญๆ โดยเฉพาะไม่ได้กระจายรายได้ให้กับ “ผู้มีรายได้น้อย”อย่างเป็นธรรม ฯลฯ
ที่สำคัญ..ยังเป็นรัฐบาลที่ไม่ปฏิรูปชาติในมิติสำคัญๆ ที่ชี้เป็นชี้ตายต่อชาติ โดยเฉพาะไม่ได้ปฏิรูปการเมืองก่อนเลือกตั้ง แถมการสืบทอดอำนาจของ “บิ๊กตู่” ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้การเมืองไทย “ถอยหลังลงคลอง” อีกด้วย
จุดอ่อนมากมายดังกล่าวของ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ทำให้ “มหาอำนาจบางชาติ” ที่ไม่พอใจรัฐบาลไทย ได้สมคบกับ “กลุ่มนักการเมืองไทย” ที่หวังในอำนาจรัฐ กับ “นักวิชาการบางคน” ใช้ข้อมูลในหลายเรื่องที่ไม่ครบถ้วนและไม่ตรงกับความจริง หลายเรื่องถูกบิดเบือนด้วยความเท็จ ปั่นหัวกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง
จนเกิดการชุมนุมเดินขบวนครั้งแล้วครั้ง แม้ผู้ชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนคนหนุ่มสาว จะโดนรัฐบาลฉีดน้ำความดันแรงสูงผสมสารเคมี บริเวณสี่แยกปทุมวัน แต่ผู้ชุมนุมก็มิได้หวาดเกรงแม้แต่น้อย แถมยังแปรรูปแบบการชุมนุมเป็น“แฟลชม็อบ” ก่อตัวทันควันพร้อมกันหลายจุดต่อวัน ทั้งยังได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ถึง 3 ข้อ ดังนี้
หนึ่ง-ให้ “นายกฯ บิ๊กตู่”กับ “ครม.”ลาออก ! สอง-ให้มีการ “แก้รัฐธรรมนูญ”! สาม-ให้มีการ“ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” ฯลฯ
วันพุธที่ 21 ตุลาคม 2563 “ม็อบคนหนุ่มสาว”เดินหน้าตะลุยฝ่าด่านตำรวจ มาจนถึงหน้าทำเนียบฯ เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง ให้“นายกฯ บิ๊กตู่”ต้องลาออกภายใน 3 วัน และยกเลิก พรก.ฉุกเฉินฯ กับปล่อย “ผู้ชุมนุมที่ถูกจับ” ทุกคนด้วย
“ม็อบเยาวชน”ต่อกรกับ “นายกฯ ลุงตู่” สภาพเสมือน “แมว”ไล่จับ “หนู” ในการ์ตูน“ทอมแอนด์เจอรี่” ที่แมวไล่จับหนูจนข้าวของในบ้านเสียหายวินาศสันตะโร แต่ “แมว” ก็ยังจับ “หนู”ไม่ได้จนทุกวันนี้
เฮ้อ..ชาติและประชาชนไทยเดือดร้อน เพราะการแย่งชิงอำนาจกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ระหว่าง“นายกฯลุงตู่ ชาติมหาอำนาจ สามเกลอนักการเมือง ม็อบเยาวชน” “อ้อ-กราบ” แต่ “บิ๊กเหลี่ยม” ไม่ได้กราบด้วยนะเว้ยเฮ้ย..!
“นายกฯ ลุงตู่” ทำผิดคำพูด-ก็ผิด! แก้ต้นเหตุปัญหาชาติ-ก็สอบตก! ฝีมือแก้ปัญหาให้ชาติ-ก็สอบไม่ผ่านอีก! การเมืองจึงไม่สงบจนต้องถามตรงๆว่า..“ลุงตู่อยู่ต่อไหวไหม”(วะเนี่ย)?
