ผู้จัดการรายวัน 360 - ผอ.โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ ส่งตัวแทนเข้าพบพนักงานสอบสวนขอเลื่อนนัดรับทราบข้อหาผิดพ.ร.บ.ครู อ้างเวลากระชั้น เตรียมตัวไม่ทัน ตร.ออกหมายเรียกใหม่ 14 ต.ค. ขณะที่ครู-พี่เลี้ยงเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเป็น 16 ราย พบเพียงรายเดียวที่มีใบอนุญาต ผู้การนนท์ เผย ‘ครูจุ๋ม’ ถอนแจ้งความไม่ได้ ขณะที่ "ครูจุ๋ม" โผล่รายการทีวี ยอมรับผิด ไม่ตั้งใจแจ้งความผู้ปกครอง ด้าน ทนายเดชา จวกเลิกโกหกได้แล้ว ส่วนพ่อแม่-ผู้ปกครอง พาเด็กอนุบาล ลาออกจากโรงเรียนแล้ว 16 ราย
วานนี้ (7 ต.ค.) ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ตัวแทนจากผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ นำหนังสือมอบอำนาจจาก ผอ.โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของ ผอ.โรงเรียน ในความผิด พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน โดยทางตัวแทน ระบุว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้ ผอ.โรงเรียน มาพบในวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเวลากระชั้นชิดมากเกินไปทางโรงเรียนยังจัดเตรียมเอกสารไม่แล้วเสร็จ และทางผอ. ยังติดภารกิจสำคัญ จึงมีความจำเป็นต้องขอเลื่อนนัดในการเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อน
พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี กล่าวถึง ความคืบหน้าคดีครูพี่เลี้ยงทำร้ายเด็กนักเรียนอนุบาล ว่า ขณะนี้มีครูและพี่เลี้ยงจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 3 ราย ประกอบด้วย ครูนิ , ครูแวว และครูหวาน รวมกับที่เข้ามาพบพนักงานสอบสวนรับทราบข้อกล่าวหา และส่งฟ้องผลัดขังก่อนหน้านี้แล้ว จำนวน 13 ราย รวมทั้งหมด 16 ราย จากผู้ปกครองที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษรวม 36 ราย ซึ่งครูและพี่เลี้ยงที่มารับข้อกล่าวหานั้น ตรวจสอบแล้วพบว่ามีใบอนุญาตถูกต้องเพียง 1 รายเท่านั้น
ส่วนกรณีทางผู้บริหารโรงเรียนส่งตัวแทนมาขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหานั้น ทางพนักงานสอบสวนจะทำการออกหมายเรียก เพื่อให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 เบื้องต้นการดำเนินคดีกับผอ.โรงเรียนนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหารับครูที่ไม่มีใบอนุญาตเข้ามาทำงาน ส่วนบุคลากรคนอื่นๆของโรงเรียนจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ถ้าพบว่ามีความผิดเราก็จะแจ้งให้มารับข้อกล่าวหาต่อไป
สำหรับการดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงจุ๋มนั้น หลังจากมีผู้ปกครองจำนวน 36 ราย มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ พบว่า เฉพาะพี่เลี้ยงจุ๋มคนเดียวทั้งหมด 12 คดี ส่วนคนอื่นๆก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งตรงนี้จะไม่เป็นตัวเลขที่หยุดแค่นี้ ถ้าผู้ปกครองพบหลักฐานแล้วเข้ามาแจ้งความเราก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพี่เลี้ยงจุ๋มจะมาถอนแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองรายหนึ่งนั้น ขณะนี้ยังไม่พบว่าได้เดินทางเข้ามาถอนแจ้งความ สำหรับประเด็นนี้ถึงแม้พี่เลี้ยงจุ๋มจะเข้ามาถอนแจ้งความ แต่ทางพนักงานสอบสวนยังต้องดำเนินคดีต่อไป แต่ถ้าพี่เลี้ยงจุ๋มยอมให้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับผู้ปกครองที่แจ้งความดำเนินคดีไว้ ขั้นตอนของคดีก็จะจบที่โรงพักเลย แต่ถ้าพี่เลี้ยงจุ๋มไม่ยินยอม ทางพนักงานสอบสวนก็จะต้องส่งเรื่องให้อัยการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทนายรณรงค์ เก้อเตรียมถุงดำครอบหัวครูจุ๋ม
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถือถุงดำเข้าพบ พ.ต.ต.ประสิทธิ์ คงนายศ สว.(สอบสวน) เพื่อสอบถามติดตามคดี ครูจุ๋ม แจ้งความดำเนินคดีที่ถูกผู้ปกครองเด็กนักเรียนทำร้ายร่างการ เพระาระงับอารมณ์ไม่อยู่ ต่อมาทนายเดชาได้พาครูจุ๋มมาแจ้งความกับพ่อของน้องเสือในข้อหาทำร้ายร่างกาย
โดยนายรณณรงค์ ได้ขอดูเอกสารประจำวันที่แจ้งความไว้ พร้อมทั้งสอบถามพนักงานสอบสวนว่าครูจุ๋มมาถอนแจ้งความแล้วหรือยัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่าครูจุ๋มยังไม่ได้มาถอนแจ้งความ นายรณณรงค์ กล่าวว่า ตนทราบมาว่าทางครูจุ๋มได้ติดต่อกับทนายปิยะณัฐและได้พูดคุยกันหลายครั้งว่าตั้งใจที่จะมาถอนแจ้งความจริงๆ ซึ่งทางตนได้บอกกับครูจุ๋มว่าถ้าคุณถูกใครบังคับให้มาลงบันทึกประจำวันไว้เนื่องจากทุกวันนี้ครูจุ๋มบอกว่ารู้สึกหวาดระแวงมาก เนื่องจากมีคนขู่ว่าจะอุ้มครูจุ๋ม ตนจึงแนะนำให้มาแจ้งความไว้ เนื่องจากทางตำรวจจะได้ช่วยดูแลความปลอดภัย
"วันนี้นำถุงดำมาด้วยคิดว่าครูจุ๋มจะมา ตนจึงอยากจะเล่นสนุกกับครูจุ๋ม โดยการเอาถุงดำครอบหัว เนื่องจากการใช้ถุงดำหรือถุงขยะครอบศีรษะ เราใช้กับสัตว์เราไม่ได้ใช้กับมนุษย์เป็นการกระทำที่ละเมิดศักดิ์ศรีของเด็กมากๆ ตนถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องร้ายแรงมาก แล้วจะมาอ้างว่า เอามาใช้หยอกเล่น ตั้งแต่เล็กจนโตมาตนยังไม่เคยมีใครนำถุงดำมาหยอกล้อเล่นกับตนแบบนี้ ลองให้แม่คุณคลุมหัวคุณดูไหมจะรู้สึกยังไง" นายรณณรงค์ กล่าว
เด็กอนุบาลลาออก "สารสาสน์" 16 ราย
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) กล่าวภายหลังการเดินทางลงพื้นที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการปรับปรุง แก้ไขในประเด็นตามที่โรงเรียนได้บันทึกข้อตกลงกับกระทรวงศึกษาธิการ และการลาออกของนักเรียน ว่า ขณะนี้มีนักเรียนระดับอนุบาล ได้ลาออกไปแล้ว 16 คน ส่วนการปรับปรุงเรื่องอื่นๆ ตามบันทึกข้อตกลง เช่น การติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม การปรับปรุงห้องน้ำ เมนูอาหาร โดยจะต้องมีการแจ้งให้แก่ผู้ปกครองรับทราบในทุกวัน มีการปรับปรุงพื้นทางเดิน และอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งเท่าที่ทราบผู้ปกครองส่วนใหญ่พึ่งพอใจ ที่โรงเรียนเปลี่ยนมาตรการในหลานเรื่อง และดูแลเด็กดีขึ้น
สำหรับเรื่องใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ที่คุรุสภาได้มีการตรวจสอบจำนวนครูผู้สอน ทุกคนที่เห็นว่ามีใบอนุญาตแล้ว ส่วนเรื่องการคัดเลือก พี่เลี้ยง หรือตำแหน่งใดๆ ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพนั้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดอบรมพัฒนาองค์ความรู้ โดยคาดว่าจะทำเป็นมาตรฐานในการรับพี่เลี้ยงเด็ก กลุ่มโรงเรียน สช.ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม การที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกผู้บริหารโรงเรียนในวันนี้นั้น เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งสช.ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง
'ครูจุ๋ม' ยอมรับผิด-ไม่ตั้งใจแจ้งความผู้ปกครอง
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกันนี้ น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือครูจุ๋ม ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการโหนกระแส ถึงประเด็นถูกกล่าวหาทำายร่างกายเด็ก จนถูกผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดี พร้อมเปิดเผยถึงเบื้องหลังการดำเนินการแจ้งความกลับ เนื่องจากถูกผู้ปกครองเด็กทำร้ายร่างกาย โดยครูจุ๋มยืนยันว่าไม่ได้มีการบังคับให้ไปแจ้งความ แต่มีผู้ใหญ่แนะนำมา
“มีผู้ใหญ่ติดต่อมา ให้หนูเข้าไปที่โรงเรียน และพูดคุยกับทนาย เขาก็แนะนำว่าเป็นสิทธิ์ของเรา ที่เขาทำร้ายร่างกายเรา เราเป็นผู้หญิ’ เขาเป็นผู้ชาย เขาทำขนาดนี้เราน่าจะแจ้งความ เป็นการแนะนำค่ะ” ครูจุ๋ม ระบุ โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้ที่ระบุกับผู้ปกครองว่าถูกทางโรงเรียนบังคับนั้นเป็นการสื่อสารผิด
ทนายเดชา จวก "ครูจุ๋ม" ให้เลิกโกหกได้แล้ว
ด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่โทรศัพท์เข้ามาในรายการ โดยระบุว่า อยากให้พี่เลี้ยงจุ๋มหยุดโกหกสังคม และระบุว่าให้หยุดทำร้ายนักเรียน หยุดทำร้ายนักเรียนและผู้ปกครอง
“ก่อนอื่นอยากให้จุ๋มหยุดโกหกสังคมได้แล้วนะ เมื่อวานประมาณห้าหกโมง ผมเดินทางกลับจากศาลจังหวัดมหาชัย ลูกน้องก็อยู่ ผมเห็นข่าวว่าเขาจะถอนคำร้องทุกข์ก็ถามว่าเรื่องจริงเปล่า คุยไปคุยมาก็นัดกันประมาณสองทุ่ม ก็ถามเขาสิว่าจริงมั้ย” ทนายเดชาระบุ และว่า “คุณจุ๋มหยุดทำร้ายโรงเรียนสารสาสน์ หยุดทำร้ายเด็กนักเรียน หยุดทำร้ายผู้ปกครองนะครับ” พร้อมยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงที่โรงเรียนแนะนำให้ครูจุ๋มแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองเด็ก
วานนี้ (7 ต.ค.) ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ตัวแทนจากผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ นำหนังสือมอบอำนาจจาก ผอ.โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของ ผอ.โรงเรียน ในความผิด พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน โดยทางตัวแทน ระบุว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้ ผอ.โรงเรียน มาพบในวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเวลากระชั้นชิดมากเกินไปทางโรงเรียนยังจัดเตรียมเอกสารไม่แล้วเสร็จ และทางผอ. ยังติดภารกิจสำคัญ จึงมีความจำเป็นต้องขอเลื่อนนัดในการเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อน
พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี กล่าวถึง ความคืบหน้าคดีครูพี่เลี้ยงทำร้ายเด็กนักเรียนอนุบาล ว่า ขณะนี้มีครูและพี่เลี้ยงจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 3 ราย ประกอบด้วย ครูนิ , ครูแวว และครูหวาน รวมกับที่เข้ามาพบพนักงานสอบสวนรับทราบข้อกล่าวหา และส่งฟ้องผลัดขังก่อนหน้านี้แล้ว จำนวน 13 ราย รวมทั้งหมด 16 ราย จากผู้ปกครองที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษรวม 36 ราย ซึ่งครูและพี่เลี้ยงที่มารับข้อกล่าวหานั้น ตรวจสอบแล้วพบว่ามีใบอนุญาตถูกต้องเพียง 1 รายเท่านั้น
ส่วนกรณีทางผู้บริหารโรงเรียนส่งตัวแทนมาขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหานั้น ทางพนักงานสอบสวนจะทำการออกหมายเรียก เพื่อให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 เบื้องต้นการดำเนินคดีกับผอ.โรงเรียนนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหารับครูที่ไม่มีใบอนุญาตเข้ามาทำงาน ส่วนบุคลากรคนอื่นๆของโรงเรียนจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ถ้าพบว่ามีความผิดเราก็จะแจ้งให้มารับข้อกล่าวหาต่อไป
สำหรับการดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงจุ๋มนั้น หลังจากมีผู้ปกครองจำนวน 36 ราย มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ พบว่า เฉพาะพี่เลี้ยงจุ๋มคนเดียวทั้งหมด 12 คดี ส่วนคนอื่นๆก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งตรงนี้จะไม่เป็นตัวเลขที่หยุดแค่นี้ ถ้าผู้ปกครองพบหลักฐานแล้วเข้ามาแจ้งความเราก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพี่เลี้ยงจุ๋มจะมาถอนแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองรายหนึ่งนั้น ขณะนี้ยังไม่พบว่าได้เดินทางเข้ามาถอนแจ้งความ สำหรับประเด็นนี้ถึงแม้พี่เลี้ยงจุ๋มจะเข้ามาถอนแจ้งความ แต่ทางพนักงานสอบสวนยังต้องดำเนินคดีต่อไป แต่ถ้าพี่เลี้ยงจุ๋มยอมให้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับผู้ปกครองที่แจ้งความดำเนินคดีไว้ ขั้นตอนของคดีก็จะจบที่โรงพักเลย แต่ถ้าพี่เลี้ยงจุ๋มไม่ยินยอม ทางพนักงานสอบสวนก็จะต้องส่งเรื่องให้อัยการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทนายรณรงค์ เก้อเตรียมถุงดำครอบหัวครูจุ๋ม
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถือถุงดำเข้าพบ พ.ต.ต.ประสิทธิ์ คงนายศ สว.(สอบสวน) เพื่อสอบถามติดตามคดี ครูจุ๋ม แจ้งความดำเนินคดีที่ถูกผู้ปกครองเด็กนักเรียนทำร้ายร่างการ เพระาระงับอารมณ์ไม่อยู่ ต่อมาทนายเดชาได้พาครูจุ๋มมาแจ้งความกับพ่อของน้องเสือในข้อหาทำร้ายร่างกาย
โดยนายรณณรงค์ ได้ขอดูเอกสารประจำวันที่แจ้งความไว้ พร้อมทั้งสอบถามพนักงานสอบสวนว่าครูจุ๋มมาถอนแจ้งความแล้วหรือยัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่าครูจุ๋มยังไม่ได้มาถอนแจ้งความ นายรณณรงค์ กล่าวว่า ตนทราบมาว่าทางครูจุ๋มได้ติดต่อกับทนายปิยะณัฐและได้พูดคุยกันหลายครั้งว่าตั้งใจที่จะมาถอนแจ้งความจริงๆ ซึ่งทางตนได้บอกกับครูจุ๋มว่าถ้าคุณถูกใครบังคับให้มาลงบันทึกประจำวันไว้เนื่องจากทุกวันนี้ครูจุ๋มบอกว่ารู้สึกหวาดระแวงมาก เนื่องจากมีคนขู่ว่าจะอุ้มครูจุ๋ม ตนจึงแนะนำให้มาแจ้งความไว้ เนื่องจากทางตำรวจจะได้ช่วยดูแลความปลอดภัย
"วันนี้นำถุงดำมาด้วยคิดว่าครูจุ๋มจะมา ตนจึงอยากจะเล่นสนุกกับครูจุ๋ม โดยการเอาถุงดำครอบหัว เนื่องจากการใช้ถุงดำหรือถุงขยะครอบศีรษะ เราใช้กับสัตว์เราไม่ได้ใช้กับมนุษย์เป็นการกระทำที่ละเมิดศักดิ์ศรีของเด็กมากๆ ตนถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องร้ายแรงมาก แล้วจะมาอ้างว่า เอามาใช้หยอกเล่น ตั้งแต่เล็กจนโตมาตนยังไม่เคยมีใครนำถุงดำมาหยอกล้อเล่นกับตนแบบนี้ ลองให้แม่คุณคลุมหัวคุณดูไหมจะรู้สึกยังไง" นายรณณรงค์ กล่าว
เด็กอนุบาลลาออก "สารสาสน์" 16 ราย
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) กล่าวภายหลังการเดินทางลงพื้นที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการปรับปรุง แก้ไขในประเด็นตามที่โรงเรียนได้บันทึกข้อตกลงกับกระทรวงศึกษาธิการ และการลาออกของนักเรียน ว่า ขณะนี้มีนักเรียนระดับอนุบาล ได้ลาออกไปแล้ว 16 คน ส่วนการปรับปรุงเรื่องอื่นๆ ตามบันทึกข้อตกลง เช่น การติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม การปรับปรุงห้องน้ำ เมนูอาหาร โดยจะต้องมีการแจ้งให้แก่ผู้ปกครองรับทราบในทุกวัน มีการปรับปรุงพื้นทางเดิน และอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งเท่าที่ทราบผู้ปกครองส่วนใหญ่พึ่งพอใจ ที่โรงเรียนเปลี่ยนมาตรการในหลานเรื่อง และดูแลเด็กดีขึ้น
สำหรับเรื่องใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ที่คุรุสภาได้มีการตรวจสอบจำนวนครูผู้สอน ทุกคนที่เห็นว่ามีใบอนุญาตแล้ว ส่วนเรื่องการคัดเลือก พี่เลี้ยง หรือตำแหน่งใดๆ ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพนั้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดอบรมพัฒนาองค์ความรู้ โดยคาดว่าจะทำเป็นมาตรฐานในการรับพี่เลี้ยงเด็ก กลุ่มโรงเรียน สช.ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม การที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกผู้บริหารโรงเรียนในวันนี้นั้น เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งสช.ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง
'ครูจุ๋ม' ยอมรับผิด-ไม่ตั้งใจแจ้งความผู้ปกครอง
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกันนี้ น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือครูจุ๋ม ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการโหนกระแส ถึงประเด็นถูกกล่าวหาทำายร่างกายเด็ก จนถูกผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดี พร้อมเปิดเผยถึงเบื้องหลังการดำเนินการแจ้งความกลับ เนื่องจากถูกผู้ปกครองเด็กทำร้ายร่างกาย โดยครูจุ๋มยืนยันว่าไม่ได้มีการบังคับให้ไปแจ้งความ แต่มีผู้ใหญ่แนะนำมา
“มีผู้ใหญ่ติดต่อมา ให้หนูเข้าไปที่โรงเรียน และพูดคุยกับทนาย เขาก็แนะนำว่าเป็นสิทธิ์ของเรา ที่เขาทำร้ายร่างกายเรา เราเป็นผู้หญิ’ เขาเป็นผู้ชาย เขาทำขนาดนี้เราน่าจะแจ้งความ เป็นการแนะนำค่ะ” ครูจุ๋ม ระบุ โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้ที่ระบุกับผู้ปกครองว่าถูกทางโรงเรียนบังคับนั้นเป็นการสื่อสารผิด
ทนายเดชา จวก "ครูจุ๋ม" ให้เลิกโกหกได้แล้ว
ด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่โทรศัพท์เข้ามาในรายการ โดยระบุว่า อยากให้พี่เลี้ยงจุ๋มหยุดโกหกสังคม และระบุว่าให้หยุดทำร้ายนักเรียน หยุดทำร้ายนักเรียนและผู้ปกครอง
“ก่อนอื่นอยากให้จุ๋มหยุดโกหกสังคมได้แล้วนะ เมื่อวานประมาณห้าหกโมง ผมเดินทางกลับจากศาลจังหวัดมหาชัย ลูกน้องก็อยู่ ผมเห็นข่าวว่าเขาจะถอนคำร้องทุกข์ก็ถามว่าเรื่องจริงเปล่า คุยไปคุยมาก็นัดกันประมาณสองทุ่ม ก็ถามเขาสิว่าจริงมั้ย” ทนายเดชาระบุ และว่า “คุณจุ๋มหยุดทำร้ายโรงเรียนสารสาสน์ หยุดทำร้ายเด็กนักเรียน หยุดทำร้ายผู้ปกครองนะครับ” พร้อมยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงที่โรงเรียนแนะนำให้ครูจุ๋มแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองเด็ก