กรรมเก่า หรือพฤติกรรมฉาวซ่อนเร้นไว้ กำลังไล่ล่าผู้นำทำเนียบขาว โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายในการสู้ศึกเลือกตั้งเพื่อรักษาเก้าอี้ประธานาธิบดีไว้ให้ได้
ทรัมป์จะพลิกแพลงเล่นลิ้น ลีลาด้วยคำอ้างว่าเป็น “ข่าวปลอม” เอาตัวรอดได้หรือไม่ กับข่าวฉาวเรื่องตัวเลขการเสียภาษีเงินได้ เป็นเรื่องหนักหนาสาหัส
การเปิดโปงโดยหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทมส์ ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นความเป็นตัวตนที่แท้จริงของมหาเศรษฐีทรัมป์นั้นเป็นบุคคล “กำมะลอ” สร้างภาพด้วยสื่อต่างๆ และการเขียนหนังสือ The Art of the Deal แต่เป็นเรื่องโกหกพกลมทั้งเพ
ความจริงคือ ทรัมป์เป็นนักบริหารธุรกิจที่ล้มเหลว มีผลประโยชน์ทับซ้อน พฤติกรรมไม่ซื่อ ฉ้อฉล อาศัยช่องโหว่ต่างๆ เพื่อเลี่ยงการเสียภาษีเงินได้
คนอเมริกันมักพูดเชิงเปรียบเปรยเสมอว่า มี 2 อย่างซึ่งคนอเมริกันไม่มีทางหลีกหนีพ้น จะอยู่ไหนก็ตาม นั่นคือ “ความตายและหน่วยงานสรรพากร”
ประเด็นแรก ความตายคือความจริงของวงจรชีวิต ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลี่ยงได้ แต่การเอ่ยถึงหน่วยสรรพากร หรือ Internal Revenue Service (IRS) นั้น สะท้อนให้เห็นความเอาจริงเอาจัง ความเขี้ยว ในการไล่เก็บภาษีเงินได้ของ IRS นั่นเอง
คนดัง มีชื่อเสียง อิทธิพลยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็เลี่ยงไม่ได้ ถ้าไม่ตายเสียก่อน เจ้าพ่อมาเฟีย อาชญากรเสื้อนอก อาจวิ่งเต้นหลุดพ้นคดีอาชญากรรม ทั้งการฆ่าคนได้ แต่อะไรที่เกี่ยวกับเรื่องเงินทอง รายได้ เป็นตัวเลขหลักฐานพิสูจน์ ตามรอยได้แน่
บางรายอาจตามได้ยาก ถ้าใช้เวลา เอาจริงเอาจังก็หลบไม่พ้น หนีคดีอาญาไปหลบต่างประเทศ อาจรอดได้ แต่คดีเรื่องหนีภาษีใช้อายุความช่วยได้ยาก
อดีตเศรษฐีนักค้าเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ นายมาร์ค ริช หลบหนีคดีไปอยู่เมืองซุก ในสวิตเซอร์แลนด์หลายปี มือกฎหมายสหรัฐฯ เอื้อมไม่ถึง ตัดสินใจยอมกลับมารอมชอมคดี ได้รับการผ่อนปรน สุดท้ายหนีไม่พ้นความตาย
จำได้มั้ย ยุคเจ้าพ่อมาเฟีย อัล คาโปน แห่งชิคาโก ในยุคหลังเศรษฐกิจตกต่ำ ได้ก่ออาชญากรรมไว้มากมาย ทั้งฆ่าคู่แข่ง เจ้าหน้าที่รัฐ หลักฐานมีเพียบ แต่ไม่เพียงพอที่จะมัดตัว เอาเรื่องให้ติดคุกได้ เพราะพยานต่างๆ ได้ถูกปิดปากเกือบหมด
สุดท้าย เจ้าหน้าที่ทีมไล่ล่าได้ข้อมูลเรื่องรายได้จากคนทำบัญชีของ อัล คาโปน มีหลักฐานมัดตัว IRS รวบรวมหลักฐานต่างๆ จนมัดตัวจอมมาเฟียดิ้นไม่หลุด ต้องติดคุก หลักฐานมีทั้งการจ่ายเงินก้อนใหญ่และรายเดือนให้เจ้าหน้าที่รัฐ ตุลาการด้วย
ผลสุดท้าย จอมมาเฟีย ต้องจบเห่ สิ้นชีวิตในคุกด้วยคำพิพากษา ด้วยโรคซิฟิลิสขึ้นสมองหลังจากที่ถูกสับเปลี่ยนคณะลูกขุนจากกลุ่มที่เคยติดสินบนไว้
ที่พูดถึงเรื่องการไล่จิกเก็บภาษีของหน่วยงานสรรพากรของสหรัฐฯ ก็เพราะมีข่าวใหญ่ล่าสุด ที่ฮือฮาที่สุด และนักวิเคราะห์มองว่าเป็นข่าวใหญ่ในรอบ 5 ปี
นั่นคือข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสียภาษีเงินได้เพียง 750 ดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา และในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานั้น ผู้นำทำเนียบขาวเสียภาษีเงินได้เพียงแค่ 5 ปีเท่านั้น ที่เหลือไม่มีรายงานการเสียภาษีเงินได้
ถือว่าเป็นข่าวฉาวโฉ่อีกครั้งหนึ่งของท่านผู้นำจอมห้าว ครั้งนี้หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ อ้างว่ามีเอกสารจากเจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องภาษี คงเป็นที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ขอเปิดเผย เพราะจะทำให้คนรู้ทันทีว่าใครเป็นแหล่งข่าว
เมื่อข่าวแตกวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์อ้างว่าเป็นข่าวปลอมเหมือนเช่นเคย ส่วนคนใกล้ชิดทรัมป์ก็อ้างว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และยังมีรายละเอียดอีกเยอะ แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร ผิดพลาดมากหรือน้อยอย่างไร
รายงานในช่วงปีที่ไม่เสียภาษีเงินได้ ทรัมป์อ้างว่าธุรกิจขาดทุนมากมายหลายปีติดต่อกัน แต่ไม่มีรายละเอียดว่าขาดทุนอย่างไร ซ้ำร้ายในช่วงที่หาเสียงก่อนชนะเลือกตั้งสมัยแรกนั้น ทรัมป์คุยฟุ้งเรื่องความสำเร็จและความสามารถในการทำธุรกิจ
ทรัมป์ได้เขียนหนังสือ 2-3 เล่มเรื่องความสำเร็จในการทำธุรกิจจนเป็นหนังสือขายดีติดอันดับ 1 แต่ก็ไม่เคยยอมรับความล้มเหลว แม้ธุรกิจหลายอย่างอยู่ในขั้นถึงต้องปิดกิจการหรือเข้าสู่กระบวนการล้มละลายเพื่อขอโอกาสฟื้นฟู
ความล้มเหลวที่เป็นข่าวใหญ่คือสถานกาสิโน ทรัมป์ ทัชมาฮาล ในเมืองแอตแลนติกซิตี้ ซึ่งทรัมป์หวังจะให้เป็นคู่แข่งกับเมืองลาสเวกัส เป็นความเสียหายมาก
ตัวเลขการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้เป็นสิ่งที่ทรัมป์พยายามเลี่ยงมาโดยตลอดอ้างโน่นอ้างนี่สารพัด เป็นผู้นำประเทศที่งดเว้นธรรมเนียมปฏิบัติ ต่างจากอดีตผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีนี้ซึ่งเต็มใจเปิดเผยตัวเลขการเสียภาษี
ทรัมป์อ้างว่าจะเปิดเผยแน่นอนเมื่อถึงเวลา ครั้งล่าสุดก็อ้างอีกว่าตัวเลขภาษีอยู่ในขั้นตอนระหว่างการตรวจสอบด้วยหน่วยงานสรรพากรและหน่วยที่เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้พรรคเดโมแครต และอัยการศาลแขวงของเกาะแมนฮัตตันได้ยื่นฟ้องต่อศาล ขอตัวเลขการเสียภาษีของทรัมป์ แต่ทนายของทรัมป์ยืนหยัดสู้แบบหัวชนฝา อุทธรณ์คำสั่งต่างๆ อ้างว่าเป็นความลับทางธุรกิจ ไม่สามารถเปิดเผยได้
ล่าสุดศาลมีคำตัดสินว่าตัวเลขการเสียภาษีของทรัมป์เปิดเผยได้ แต่ทนายของทรัมป์ก็ยังยื่นอุทธรณ์ หาทางยื้อต่อไปอีก อย่างน้อยก็ให้ไปหลังวันเลือกตั้ง
นั่นเท่ากับเป็นหลักฐานตอกย้ำ ทำให้คนยิ่งสงสัยหรือเชื่อว่าทรัมป์ต้องมีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษี ตัวเลขพิสดารแน่นอน ยิ่งสู้ยิบตาแบบจงอางหวงไข่ด้วยแล้วก็ทำให้คนเชื่อว่าทรัมป์น่าจะมีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมายด้วย
จากนี้ไปจะมีเปิดโปงอีกหลายตอน ถ้าทรัมป์ไม่เละ ก็คงดูไม่ได้!