ปรับแบบ มอเตอร์เวย์ "บางปะอิน-โคราช" 17 ตอน ทำงบบานงานล่าช้า กระทบส่งมอบพื้นที่ ระบบ O&M ดีเลย์ “ศักดิ์สยาม”สั่ง ทล.ตั้ง กก.สอบเหตุออกแบบผิดพลาด ไม่ครบถ้วน ขีดเส้นต้องจบใน 2 เดือน "สราวุธ" คาดค่าก่อสร้างเพิ่มไม่เกิน 6 พันล้าน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้การก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา มีปัญหาในบางจุดทำให้ต้องปรับแก้รูปแบบก่อสร้างใหม่ ประมาณ17 ตอน โดยมีสาเหตุจากสภาพพื้นที่เปลี่ยนไป ,พื้นที่บางแปลงมีการสำรวจผิด ซึ่งหากรูปแบบใหม่ทำให้มีการเพิ่มงาน จากที่ออกแบบไม่ครบ เป็นการขยายงานจากที่ประมูลไปอาจจะต้องประกวดราคาใหม่ ซึ่งหากได้ข้อสรุปตอนไหนก่อน จะเร่งเสนอครม.พิจารณา
ทั้งนี้ กรมทางหลวงจะต้องหาสาเหตุว่า ทำไมการออกแบบครั้งแรกจึงไม่ครบถ้วน ไม่เรียบร้อย โดยได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเชิญอาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเข้ามาเป็นคนกลางในการตรวจสอบ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ไม่ใช่กรมทางหลวงตั้งตรวจสอบกันเอง
อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สามารถสรุปปัญหาเรื่องแบบการก่อสร้างงานโยธาได้ กรมทางหลวงก็จะยังไม่สามารถลงนามสัญญาร่วมลงทุน โครงการร่วมลงทุนการดำเนินงาน และบำรุงรักษา (O&M)โครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M 6) และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M 81) กับกลุ่ม BGSR(บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS/บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF/บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCHได้ เพราะกรมทางหลวงจะต้องมั่นใจว่า สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ได้ เพราะไม่ต้องการให้มีการฟ้องร้องกันในภายหลัง
"ตอนนี้การปรับแบบก่อสร้างยังไม่นิ่ง ยังไม่สรุปว่าค่าก่อสร้างจะเพิ่มอีกเท่าไร ขณะที่กรอบวงเงินงานโยธา สายบางปะอิน หลังประมูลจบแล้วยังเหลืออีกประมาณ 10,000 ล้านบาท ยังมั่นใจว่าการปรับแบบ แม้ค่าก่อสร้างเพิ่มแต่จะไม่เกินกรอบวงเงินที่เหลือ ส่วนมอเตอร์เวย์สาย บางใหญ่-กาญจนบุรี ตอนนี้เรื่องเวนคืนที่ดิน เรื่องงานโยธา เคลียร์จบแล้ว อาจจะลงนามสัญญางานระบบ O&Mได้ก่อน ซึ่งได้ให้อธิบดีกรมทางหลวง เร่งแก้ปัญหาให้จบเร็วที่สุด เพื่อไม่กระทบกำหนดเปิดใช้ในปี 2566" **ทล.เร่งปรับแบบ งบฯเพิ่มไม่เกิน6พันล.
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่างานโยธามอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา มีทั้งหมด40 ตอน ขณะนี้ก่อสร้างเสร็จแล้ว 17 ตอน กำลังก่อสร้าง 23 ตอน ซึ่งมี 17 ตอนที่จะต้องปรับแก้แบบใหม่ เกิดจาก 1. ออกแบบไม่สอดคล้องกับกายภาพจริง เดิมแบบเป็นระดับดินแต่พื้นที่จริงเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ต้องปรับแบบเป็นสะพาน 2. พบชั้นดินอ่อน ต้องปรับแบบส่วนโครงสร้างฐานราก 3 . มีข้อห่วงใยจากประชาชน หลังทำการมีส่วนร่วมทำให้ต้องปรับแก้แบบเพื่อลดผลกระทบเช่น ทำทางคู่ขนาน , Service Road และ 4. ปรับแบบเป็นทางยกระดับบางช่วงที่ผ่านพื้นที่กรมชลประทาน
"รมว.คมนาคมให้เวลา 2 เดือน เรื่องปรับแบบต้องจบ ผมจะเร่งตรวจสอบรายละเอียด ช่วงไหนเคลียร์แล้วตามขั้นตอน ต้องเสนอ ครม.ขออนุมัติ เดิมคาดว่าการปรับแบบจะมีค่างานเพิ่มประมาณ 6,000 ล้านบาท ล่าสุดอาจไม่ถึง เพราะจะตัดงานที่ไม่จำเป็นออกได้"
ส่วนการลงนามสัญญางาน ระบบ 0&M นั้น รออัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาแนบท้าย รวมถึงต้องหารือกับกลุ่ม กลุ่มBGSRในการส่งมอบพื้นที่ ซึ่งคาดว่าในเดือนธ.ค. จะสามารถลงนามสัญญาได้ โดยขณะนี้งานโยธา สายบางปะอิน-นครราชสีมา คืบหน้า 85-90% กำหนดเปิดทดลองวิ่งปลายปี 65 ส่วนสายบางใหญ่-กาญจนบุรี งานโยธาคืบหน้ากว่า 35% แล้ว หลังจากครม.ได้มีมติเรื่องค่าเวนคืน ปลายปี62 และผู้รับเหมาเข้าพื้นที่เดือนก.พ.63 เร่งก่อสร้างได้เต็มที่ ช่วงเวลา 7 เดือน มีผลงาน 25% เทียบจากก่อนหน้านั้นเวลา 2 ปี มีผลงาน คืบหน้าเพียง10% โดยกำหนดเปิดทดลองวิ่งได้ช่วงปี 66
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้การก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา มีปัญหาในบางจุดทำให้ต้องปรับแก้รูปแบบก่อสร้างใหม่ ประมาณ17 ตอน โดยมีสาเหตุจากสภาพพื้นที่เปลี่ยนไป ,พื้นที่บางแปลงมีการสำรวจผิด ซึ่งหากรูปแบบใหม่ทำให้มีการเพิ่มงาน จากที่ออกแบบไม่ครบ เป็นการขยายงานจากที่ประมูลไปอาจจะต้องประกวดราคาใหม่ ซึ่งหากได้ข้อสรุปตอนไหนก่อน จะเร่งเสนอครม.พิจารณา
ทั้งนี้ กรมทางหลวงจะต้องหาสาเหตุว่า ทำไมการออกแบบครั้งแรกจึงไม่ครบถ้วน ไม่เรียบร้อย โดยได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเชิญอาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเข้ามาเป็นคนกลางในการตรวจสอบ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ไม่ใช่กรมทางหลวงตั้งตรวจสอบกันเอง
อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สามารถสรุปปัญหาเรื่องแบบการก่อสร้างงานโยธาได้ กรมทางหลวงก็จะยังไม่สามารถลงนามสัญญาร่วมลงทุน โครงการร่วมลงทุนการดำเนินงาน และบำรุงรักษา (O&M)โครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M 6) และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M 81) กับกลุ่ม BGSR(บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS/บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF/บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCHได้ เพราะกรมทางหลวงจะต้องมั่นใจว่า สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ได้ เพราะไม่ต้องการให้มีการฟ้องร้องกันในภายหลัง
"ตอนนี้การปรับแบบก่อสร้างยังไม่นิ่ง ยังไม่สรุปว่าค่าก่อสร้างจะเพิ่มอีกเท่าไร ขณะที่กรอบวงเงินงานโยธา สายบางปะอิน หลังประมูลจบแล้วยังเหลืออีกประมาณ 10,000 ล้านบาท ยังมั่นใจว่าการปรับแบบ แม้ค่าก่อสร้างเพิ่มแต่จะไม่เกินกรอบวงเงินที่เหลือ ส่วนมอเตอร์เวย์สาย บางใหญ่-กาญจนบุรี ตอนนี้เรื่องเวนคืนที่ดิน เรื่องงานโยธา เคลียร์จบแล้ว อาจจะลงนามสัญญางานระบบ O&Mได้ก่อน ซึ่งได้ให้อธิบดีกรมทางหลวง เร่งแก้ปัญหาให้จบเร็วที่สุด เพื่อไม่กระทบกำหนดเปิดใช้ในปี 2566" **ทล.เร่งปรับแบบ งบฯเพิ่มไม่เกิน6พันล.
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่างานโยธามอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา มีทั้งหมด40 ตอน ขณะนี้ก่อสร้างเสร็จแล้ว 17 ตอน กำลังก่อสร้าง 23 ตอน ซึ่งมี 17 ตอนที่จะต้องปรับแก้แบบใหม่ เกิดจาก 1. ออกแบบไม่สอดคล้องกับกายภาพจริง เดิมแบบเป็นระดับดินแต่พื้นที่จริงเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ต้องปรับแบบเป็นสะพาน 2. พบชั้นดินอ่อน ต้องปรับแบบส่วนโครงสร้างฐานราก 3 . มีข้อห่วงใยจากประชาชน หลังทำการมีส่วนร่วมทำให้ต้องปรับแก้แบบเพื่อลดผลกระทบเช่น ทำทางคู่ขนาน , Service Road และ 4. ปรับแบบเป็นทางยกระดับบางช่วงที่ผ่านพื้นที่กรมชลประทาน
"รมว.คมนาคมให้เวลา 2 เดือน เรื่องปรับแบบต้องจบ ผมจะเร่งตรวจสอบรายละเอียด ช่วงไหนเคลียร์แล้วตามขั้นตอน ต้องเสนอ ครม.ขออนุมัติ เดิมคาดว่าการปรับแบบจะมีค่างานเพิ่มประมาณ 6,000 ล้านบาท ล่าสุดอาจไม่ถึง เพราะจะตัดงานที่ไม่จำเป็นออกได้"
ส่วนการลงนามสัญญางาน ระบบ 0&M นั้น รออัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาแนบท้าย รวมถึงต้องหารือกับกลุ่ม กลุ่มBGSRในการส่งมอบพื้นที่ ซึ่งคาดว่าในเดือนธ.ค. จะสามารถลงนามสัญญาได้ โดยขณะนี้งานโยธา สายบางปะอิน-นครราชสีมา คืบหน้า 85-90% กำหนดเปิดทดลองวิ่งปลายปี 65 ส่วนสายบางใหญ่-กาญจนบุรี งานโยธาคืบหน้ากว่า 35% แล้ว หลังจากครม.ได้มีมติเรื่องค่าเวนคืน ปลายปี62 และผู้รับเหมาเข้าพื้นที่เดือนก.พ.63 เร่งก่อสร้างได้เต็มที่ ช่วงเวลา 7 เดือน มีผลงาน 25% เทียบจากก่อนหน้านั้นเวลา 2 ปี มีผลงาน คืบหน้าเพียง10% โดยกำหนดเปิดทดลองวิ่งได้ช่วงปี 66