ผู้นำทำเนียบขาว โดนัลด์ ทรัมป์ เหลือเวลาอีกไม่ถึง 40 วันที่จะต้องเผชิญกับการตัดสินโดยคนอเมริกันว่าสมควรจะได้อยู่ต่ออีก 1 สมัยหรือไม่ เมื่อตัวเลขคนตายมากกว่า 2 แสนราย ประจานความล้มเหลวในการควบคุมการระบาด และการจัดการ
แต่ทรัมป์จะหาเหยื่อ และแพะรับบาปสำหรับความล้มเหลว นั่นคือจีน ไม่ว่าจะพูดในเวทีไหน ทรัมป์จะโทษจีนว่าเป็นตัวการปล่อยเชื้อโคโรนาไวรัสไปทำลายมนุษย์ ไม่ปิดกั้น ปล่อยให้เครื่องบินเอาคนไปสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลการระบาดไปทั่วโลก
จีนบอกว่าสหรัฐฯ นั่นแหละส่งเครื่องบินมาขนคนอเมริกันออกจากจีน ทั้งๆ ที่จีนสั่งปิดพรมแดนทุกด้าน แต่สหรัฐฯ ก็ใช้อำนาจ เอาคนสถานกงสุลออกจากอู่ฮั่น
เมื่อโดนผู้สื่อข่าวซักย้ำๆ ว่า คนอเมริกันตายไปกว่า 2 แสนคนแล้ว ทรัมป์ว่าไง แทนที่จะยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด ความล้มเหลว ไม่เอาไหนของตัวเอง ทรัมป์พูดหน้าตาเฉยว่า “มันเป็นเรื่องน่าอายมาก”
“นี่ยังดีนะ ถ้าไม่ใช่ฝีมือของข้าพเจ้า ตัวเลขคนตายจะต้องมากกว่า 2 ล้านกว่าแน่ๆ นี่เป็นความสามารถในการจัดการของข้าพเจ้าแท้ๆ” ทรัมป์เถียงอย่างไม่อาย
ความอายกับโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นความแปลกแยกมาโดยตลอด ไม่เคยมีผู้นำสหรัฐฯ อยู่ในสภาพที่ไร้ความน่าเชื่อถือ โกหกพกลม ได้ทุกวัน ไม่ใส่ใจว่าใครจะคิดอย่างไร ตัวเลขการโกหก ให้ข้อมูลเท็จ มีคนนับไว้กว่า 2 หมื่นกรณี
ยิ่งเรื่องวิกฤตโคโรนาไวรัส ทรัมป์ทะเลาะกับฝ่ายแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้นำองค์กรต่างๆ ภาครัฐ ไม่เชื่อหลักวิทยาศาสตร์ เป็นต้นแบบของคนไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย
เมื่อมีความผิดพลาด ก็ไม่ยอมรับ โทษคนอื่นๆ ว่าเป็นความล้มเหลว
ทรัมป์ย้ำอีกว่าการที่คนติดเชื้อเยอะ เป็นอันดับหนึ่งของโลก เป็นเพราะจีนมาควบคุมปกปิดข้อมูลการระบาด ในความเป็นจริง นอกจากทรัมป์และผู้นำออสเตรเลียแล้ว ไม่มีชาติอื่นกล่าวหาจีน แต่พยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมการระบาด
ก็เห็นได้ชัดว่าหลังจากใช้มาตรการคุมเข้ม ปิดประเทศ แล้วมาเปิดใหม่ การระบาดระลอก 2 ก็เกิดขึ้นในยุโรปตะวันตก เช่น สเปน เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ รวมทั้งยุโรปตะวันออก และทวีปอื่นๆ ความหวังจะได้วัคซีนในปีนี้ ยังรางเลือน
ทรัมป์ดิ้นรนหนัก ใช้ทั้งการกล่าวหาคนอื่นๆ ล่าสุดในการปราศรัยในการประชุมใหญ่ประจำปีของสหประชาชาติ ทรัมป์ก็เปิดฉากเล่นงานจีนเรื่องโคโรนาไวรัสอีก ขณะที่ผู้นำจีน สี จิ้นผิง ประกาศว่าจีนไม่ต้องการมีเรื่องกับใคร อยากให้ทั่วโลกร่วมมือกัน
ทรัมป์ยังเปิดศึกกับจีนในด้านการค้า และเล่นงานบริษัทติ๊กต็อก และวีแชต ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ โดยใช้มาตรการก่อนหน้านี้ แม้สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติคัดค้านก็ไม่ยอมฟัง ทรัมป์ทำตัวเป็นเจ้าโลก
บุคคลสำคัญภาคการเมืองและธุรกิจของเวเนซุเอลา อิหร่าน และจีนก็โดนมาตรการคว่ำบาตร ห้ามมีธุรกรรมทางการเงิน การเดินทางเข้าสหรัฐฯ
เป็นการฟาดงวงฟาดงารอบใหม่ หลังจากถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก สนธิสัญญาหลายฝ่ายกับอิหร่าน จึงมีเสียงเตือนว่าแม้แต่องค์การนาโต ก็ยังสุ่มเสี่ยงที่จะแตกในปีหน้าถ้าทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นผู้นำสหรัฐฯ อีก 1 สมัย
นางฟิโอนา ฮิลล์ อดีตที่ปรึกษาของทรัมป์ ในกิจการเกี่ยวกับรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สื่อซีเอ็นเอ็นว่าทรัมป์ได้ทำให้สหรัฐฯ ได้กลายเป็น “ตัวน่าสมเพช” ในสายตาของชาวโลก
ไม่เพียงแต่ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น กลุ่มประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ก็มองว่าทรัมป์ได้ทำให้ชาติมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกเสียบารมี ความน่าเชื่อถือในการนำไปแล้ว มีปัญหาความแตกแยกในประเทศ ไร้ความสามารถในการจัดการปัญหาของตัวเอง
นางฮิลล์ได้เป็นพยานในการให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการของสภาคองเกรสในการถอดถอนทรัมป์ ถึงเรื่องพฤติกรรมต่างๆ ที่ทรัมป์ได้ทำให้สหรัฐฯ เสียหาย ชาติพันธมิตรต่างมองว่าสหรัฐฯ มีปัญหาภายในมากมายเกินกว่าจะรับภาระเป็นผู้นำได้อีก
การสำรวจความคิดเห็นในกลุ่มประเทศพันธมิตรและชาติอื่นๆ โดยสำนักวิจัยพิว มีข้อมูลว่าสหรัฐฯ ประสบภาวะความเสื่อมเสียชื่อเสียง ความน่านิยมอย่างมาก เพราะความล้มเหลวในการจัดการปัญหาการระบาดของโคโรนาไวรัส
นางฮิลล์ให้ความเห็นความเสื่อมโทรมด้านความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ เกิดขึ้นจากการที่ได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ด้านร้ายที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ทั้งปัญหาความแตกแยก วิกฤตเศรษฐกิจ เรื่องความรุนแรง ปัญหาความเกลียดชังสีผิว เป็นต้น
“ปัญหาวิกฤตจากความแตกแยกทำให้เราดูเหมือนว่าเรากำลังกัดกินตัวเอง แบบที่ตัวเรายังเป็นๆ อยู่” นั่นเหมือนกับสภาพงูกินหางตัวเอง ถ้าสหรัฐฯ จะฟื้นฟูสภาวะการนำอีก ก็ต้องพยายามจัดการปัญหาภายในประเทศให้สำเร็จ ก่อนจะไปนำชาติอื่นๆ
ทรัมป์ยังมีคะแนนตามหลังนายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิง แต่ยังมีคนเชื่อว่าทรัมป์ยังมีโอกาสชนะเพราะมีคนลุ่มหลงแบบไม่ต้องพะวงประเด็นอื่นๆ ขณะที่ไบเดนไม่มีความโดดเด่นอะไร นอกจากว่าทรัมป์ได้ทำตัวเอง จนเสียความน่าเชื่อถือ
ช่วงนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงในซีกโลกตะวันตก ผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์ได้เตือนแล้วว่าการระบาดอาจรุนแรงกว่าที่เป็นมา ยอดคนตายในสหรัฐฯ อาจมากกว่า 3 แสนคนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่ทรัมป์ยังอ้างโดยตลอดว่าที่ผ่านมาทำดีแล้ว ยังควบคุมไว้ได้
โลกต้องเฝ้ามองด้วยใจระทึกว่าถ้าทรัมป์ชนะ จะต้องมีวิกฤตอะไรอีก ทั้งความเสี่ยงจากสงคราม ถ้าแพ้เลือกตั้ง ทรัมป์อาจไม่ยอม ทำให้ปัญหาในประเทศเลวลงอีก
ทรัมป์จึงเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำคนอเมริกันโดยแท้ เพราะเลือกมาเอง