ผู้จัดการรายวัน360-“หมุดคณะราษฎร” ถูกรื้อทิ้ง หลังปักไว้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตำรวจเผย “กรมศิลป์-กทม.” ถอนออกก่อนส่งเก็บเป็นหลักฐาน “บิ๊กตู่”ขอบคุณดูแลม็อบเรียบร้อย ลุ้นต่อ 24 ก.ย.นี้ “วิษณุ”ยันใช้กฎหมาย ไม่ใช่การคุกคาม กรมศิลป์แจ้งความเอาผิดแกนนำม็อบบุกรุกโบราณสถาน ตำรวจลั่นเอาผิดม็อบ พบละเมิดสถาบันฯ 3-4 ราย “เพนกวิน” เตรียมเเจกไฟล์แบบหมุดคณะราษฎรให้มวลชนปักทั่วประเทศ “สิระ” แจ้งความเอาผิด ส.ส.ร่วมชุมนุม จ่อยื่นยุบพรรค-จริยธรรม เหตุหนุนล้มล้างการปกครอง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า ต้องขอแสดงความยินดีที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บ้านเมืองกลับเข้าสู่ความสงบสุข และสันติอีกครั้งหนึ่ง ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนทีทำงานอย่างเสียสละ อดทน และอดกลั้น
“บ้านเมืองสงบสุขอย่างนี้ ก็สามารถจะแก้ไขปัญหาได้หลายๆ อย่างไปด้วยกัน ขอฝากไปถึงประชาชนโดยรวมด้วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหลักสำคัญยิ่งของคนไทยทั้งประเทศ”
ส่วนผู้ชุมนุมประกาศเคลื่อนไหวอีกครั้งวันที่ 24 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ติดตามตอนต่อไป
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมว่า ตนไม่ได้ตามเรื่อง จึงไม่ทราบว่า มีเรื่องอะไรบ้าง แต่ได้ยินข้อเรียกร้องมาบ้าง เขาเรียกร้องไปยังสำนักงานองค์มนตรี ผ่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ส่วนจะมาถึงรัฐบาลหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ข้อเรียกร้อง 2-3 เรื่องถือว่า เป็นไปได้ เช่น การห้ามคุกคาม ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยคุกคาม การที่รัฐบาลปฏิบัติตามกฎหมายถือว่า คุกคามไม่ได้ หากคุกคามคงไม่สามารถชุมนุมกันได้ ส่วนเนื้อหาจะหมิ่นแหม่หรือไม่ เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่จะดำเนินการ
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ให้ดำเนินคดีต่อน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นายอานนท์ นำภา และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ในความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีการปราศรัยบนเวทีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร โดยนำหลักฐานเอกสารข่าว ไฟล์ภาพ และเสียงการปราศรัยบนเวทีของบุคคลทั้ง 3 มาประกอบการแจ้งความ
พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวว่า ตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมและผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังทุกข้อหาโดยไม่ละเว้นทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ การชุมนุมโดยไม่ขออนุญาต เบื้องต้นกลุ่มนี้มีอย่างน้อย 10 ราย ส่วนความผิดอื่นๆ โดยเฉพาะการปราศรัยที่หมิ่นเหม่ละเมิดสถาบันฯ ทางตำรวจนครบาลมีหลักฐานทั้งภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหว ตลอดจนเทปคำปราศรัย ซึ่งพบว่าเข้าข่ายความผิดนี้แล้ว 3-4 ราย และมีข้อมูลว่ามีผู้สนับสนุนด้วย ซึ่งปรากฏข้อมูลชัดเจนในโซเชียลมีเดียก็ต้องดำเนินคดีในความผิดเดียวกันด้วย
วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมุดคณะราษฎร หมุดที่ 2 ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ถูกรื้อออกจากกลางสนามหลวงแล้ว หลังจากปักไว้ได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง เหลือเพียงร่องรอยการโบกปูนซีเมนต์ทับไว้
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้เป็นผู้รื้อถอนหมุดดังกล่าว คาดว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการ หลังจากการเข้าไปตรวจสถานที่ร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตำรวจ สน.ชนะสงคราม และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จากนั้นได้มีการส่งมอบหมุดให้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม รับไปเก็บรักษาเพื่อประกอบการดำเนินคดี ตามที่มีการแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ข้อหาบุกรุกโบราณสถาน หรือทำให้เสียหาย
ทั้งนี้ พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้รายงานว่ามีตัวแทนกรมศิลปากร และ กทม. ประสานมาที่ สน. เพื่อเข้าตรวจสอบดำเนินการรื้อถอน และตามกระบวนการได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
ที่กรมศิลปากร วังหน้าพระลาน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่ออธิบดีกรมศิลปากรให้ดำเนินการเอาผิด 18 แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการเมือง ที่ได้บังอาจฝ่าฝืนกฎหมายโดยการบุกรุกเข้าใช้โบราณสถานสนามหลวงโดยไม่ได้ขออนุญาต และมีการตัดทำลายรั้วและพื้นสนามหลวงเพื่อปักหมุดคณะราษฎร หมุดที่ 2 ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการให้เกิดความเสียหาย
ที่ สน.ชนะสงคราม นายสถาพร เที่ยงธรรม ผอ.กองโบราณคดี กล่าวภายหลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนสน.ชนะสงคราม ว่า ได้รับมอบอำนาจจากกรมศิลปากร มาแจ้งความเอาผิดกลุ่มบุคคลที่บุกรุก และทำลายโบราณสถานในท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้นำเอกสารการขึ้นทะเบียนสนามหลวงเป็นโบราณสถาน และภาพการชุมนุมจากสื่อต่างๆ มาแจ้งความดำเนินคดี ผู้กระทำผิดตาม ม.10 ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงขุดค้นโบราณสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มีความผิดตาม ม.85 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งตำรวจรับเรื่องไว้เป็นคดีแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะดำเนินคดีกับผู้ใดบ้างต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ด้านนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) กล่าวถึงกรณีหมุดคณะราษฎร 2563 ที่ถูกเจ้าหน้าที่ถอนออกไปจากสนามหลวงว่า ไม่แปลกใจ แต่เชื่อว่าหมุดคณะราษฎร 2563 มันได้ถูกปักลงกลางใจกลุ่มผู้ชุมนุมทุกคน และต่อจากนี้ ตนจะทำการแจกไฟล์แบบหมุดคณะราษฎร เพื่อให้กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมนำไปหล่อ และไปปักตามที่ต่างๆ ที่อยากปัก ซึ่งส่วนตัวต่อจากนี้อาจจะนำหมุดไปปักตามจุดสำคัญต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ต่อไป
ขณะที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.พรรคไทยรักธรรม และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในข้อหาร่วมชุมนุมในสถานที่ห้ามชุมนุม เพราะมีพฤติกรรมสนับสนุน โดยกำลังให้ทีมกฎหมายตรวจสอบอยู่ว่าจะยื่นศาลเพื่อให้ยุบพรรคการเมืองของทั้ง 3 คน และในวันพุธนี้ จะยื่นประธานรัฐสภาเพื่อขอให้สอบจริยธรรมของ ส.ส.ทั้ง 3 คนด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า ต้องขอแสดงความยินดีที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บ้านเมืองกลับเข้าสู่ความสงบสุข และสันติอีกครั้งหนึ่ง ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนทีทำงานอย่างเสียสละ อดทน และอดกลั้น
“บ้านเมืองสงบสุขอย่างนี้ ก็สามารถจะแก้ไขปัญหาได้หลายๆ อย่างไปด้วยกัน ขอฝากไปถึงประชาชนโดยรวมด้วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหลักสำคัญยิ่งของคนไทยทั้งประเทศ”
ส่วนผู้ชุมนุมประกาศเคลื่อนไหวอีกครั้งวันที่ 24 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ติดตามตอนต่อไป
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมว่า ตนไม่ได้ตามเรื่อง จึงไม่ทราบว่า มีเรื่องอะไรบ้าง แต่ได้ยินข้อเรียกร้องมาบ้าง เขาเรียกร้องไปยังสำนักงานองค์มนตรี ผ่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ส่วนจะมาถึงรัฐบาลหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ข้อเรียกร้อง 2-3 เรื่องถือว่า เป็นไปได้ เช่น การห้ามคุกคาม ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยคุกคาม การที่รัฐบาลปฏิบัติตามกฎหมายถือว่า คุกคามไม่ได้ หากคุกคามคงไม่สามารถชุมนุมกันได้ ส่วนเนื้อหาจะหมิ่นแหม่หรือไม่ เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่จะดำเนินการ
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ให้ดำเนินคดีต่อน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นายอานนท์ นำภา และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ในความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีการปราศรัยบนเวทีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร โดยนำหลักฐานเอกสารข่าว ไฟล์ภาพ และเสียงการปราศรัยบนเวทีของบุคคลทั้ง 3 มาประกอบการแจ้งความ
พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวว่า ตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมและผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังทุกข้อหาโดยไม่ละเว้นทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ การชุมนุมโดยไม่ขออนุญาต เบื้องต้นกลุ่มนี้มีอย่างน้อย 10 ราย ส่วนความผิดอื่นๆ โดยเฉพาะการปราศรัยที่หมิ่นเหม่ละเมิดสถาบันฯ ทางตำรวจนครบาลมีหลักฐานทั้งภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหว ตลอดจนเทปคำปราศรัย ซึ่งพบว่าเข้าข่ายความผิดนี้แล้ว 3-4 ราย และมีข้อมูลว่ามีผู้สนับสนุนด้วย ซึ่งปรากฏข้อมูลชัดเจนในโซเชียลมีเดียก็ต้องดำเนินคดีในความผิดเดียวกันด้วย
วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมุดคณะราษฎร หมุดที่ 2 ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ถูกรื้อออกจากกลางสนามหลวงแล้ว หลังจากปักไว้ได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง เหลือเพียงร่องรอยการโบกปูนซีเมนต์ทับไว้
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้เป็นผู้รื้อถอนหมุดดังกล่าว คาดว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการ หลังจากการเข้าไปตรวจสถานที่ร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตำรวจ สน.ชนะสงคราม และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จากนั้นได้มีการส่งมอบหมุดให้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม รับไปเก็บรักษาเพื่อประกอบการดำเนินคดี ตามที่มีการแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ข้อหาบุกรุกโบราณสถาน หรือทำให้เสียหาย
ทั้งนี้ พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้รายงานว่ามีตัวแทนกรมศิลปากร และ กทม. ประสานมาที่ สน. เพื่อเข้าตรวจสอบดำเนินการรื้อถอน และตามกระบวนการได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
ที่กรมศิลปากร วังหน้าพระลาน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่ออธิบดีกรมศิลปากรให้ดำเนินการเอาผิด 18 แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการเมือง ที่ได้บังอาจฝ่าฝืนกฎหมายโดยการบุกรุกเข้าใช้โบราณสถานสนามหลวงโดยไม่ได้ขออนุญาต และมีการตัดทำลายรั้วและพื้นสนามหลวงเพื่อปักหมุดคณะราษฎร หมุดที่ 2 ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการให้เกิดความเสียหาย
ที่ สน.ชนะสงคราม นายสถาพร เที่ยงธรรม ผอ.กองโบราณคดี กล่าวภายหลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนสน.ชนะสงคราม ว่า ได้รับมอบอำนาจจากกรมศิลปากร มาแจ้งความเอาผิดกลุ่มบุคคลที่บุกรุก และทำลายโบราณสถานในท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้นำเอกสารการขึ้นทะเบียนสนามหลวงเป็นโบราณสถาน และภาพการชุมนุมจากสื่อต่างๆ มาแจ้งความดำเนินคดี ผู้กระทำผิดตาม ม.10 ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงขุดค้นโบราณสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มีความผิดตาม ม.85 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งตำรวจรับเรื่องไว้เป็นคดีแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะดำเนินคดีกับผู้ใดบ้างต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ด้านนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) กล่าวถึงกรณีหมุดคณะราษฎร 2563 ที่ถูกเจ้าหน้าที่ถอนออกไปจากสนามหลวงว่า ไม่แปลกใจ แต่เชื่อว่าหมุดคณะราษฎร 2563 มันได้ถูกปักลงกลางใจกลุ่มผู้ชุมนุมทุกคน และต่อจากนี้ ตนจะทำการแจกไฟล์แบบหมุดคณะราษฎร เพื่อให้กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมนำไปหล่อ และไปปักตามที่ต่างๆ ที่อยากปัก ซึ่งส่วนตัวต่อจากนี้อาจจะนำหมุดไปปักตามจุดสำคัญต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ต่อไป
ขณะที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.พรรคไทยรักธรรม และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในข้อหาร่วมชุมนุมในสถานที่ห้ามชุมนุม เพราะมีพฤติกรรมสนับสนุน โดยกำลังให้ทีมกฎหมายตรวจสอบอยู่ว่าจะยื่นศาลเพื่อให้ยุบพรรคการเมืองของทั้ง 3 คน และในวันพุธนี้ จะยื่นประธานรัฐสภาเพื่อขอให้สอบจริยธรรมของ ส.ส.ทั้ง 3 คนด้วย