ปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องว่ากันเรื่อง “เลือกตั้งอเมริกา” นั่นแหละ น่าจะเหมาะกว่า เพราะไหนๆ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ลากยาวเรื่องม็อบโน้น ม็อบนี้ เรื่องศัตรูภายนอก ศัตรูภายใน ที่ผู้นำอเมริกาอย่าง “ทรัมป์บ้า” ท่านขยันสร้าง ขยันครีเอท ขึ้นมาซะเหลือเกิน จนไม่เพียงแต่ “America” อาจ “Dead Again” โดยลำพังล้วนๆ เท่านั้น แต่เผลอๆ...โลกทั้งโลก อาจต้องพลอย “ซวย” ไปด้วย อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ...
แต่ในช่วงที่เหลืออีกแค่ประมาณ 60 วัน...ก็จะถึงคิวฆ่า หรือถึงคิวหย่อนบัตรเลือกตั้งกันแล้ว สิ่งที่น่าสนใจมิใช่น้อย และอาจถือเป็นประเด็นที่ออกจะแปลก ออกจะใหม่ ตามสมควร สำหรับการเมืองในระบอบ “ลิเบอร่าน” หรือ “ระบอบประชาธิปไตยตามแบบฉบับอเมริกา” นั่นก็คือ...ความหวาดหวั่นขวัญสยอง ว่าอาจมีรายการ “โกงเลือกตั้ง” กันซะก่อนล่วงหน้า ซึ่งอาจถือเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจ ต่อระบบและระบอบ ที่มักเชื่อๆ กันว่า เป็นอะไรที่สูงส่งวิเศษวิเสโส เสียเหลือเกิน โดยไม่ว่าจะเป็นตัว “ทรัมป์บ้า” หรือผู้ให้การสนับสนุนประธานาธิบดีรายนี้ ไปจนถึงคู่แข่ง คู่ชิง ฝ่ายตรงข้าม อย่าง “โจ วิตถาร” หรือ “โจ ซึมเซา” รวมทั้งผู้ให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครตทั้งหลาย ต่างก็ออกอาการขนหัวลุก ขนหัวตั้ง ต่อความไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม หรือการ “โกงเลือกตั้ง” คราวนี้ไปด้วยกันทั้งสิ้น...
อย่างที่โพลของ “Opinium Research” เขาเพิ่งไปสำรวจ ตรวจสอบ ความคิด-ความเห็นของบรรดาอเมริกันชน เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนเผยแพร่เอาไว้ในเว็บไซต์ “The Guardian” ของอังกฤษเมื่อช่วงวันพฤหัสฯ (3 ก.ย.) ที่ผ่านมานั่นแหละ บรรดาชาวเดโมแครต หรือบรรดาผู้ให้การสนับสนุน “โจ ซึมเซา” จำนวนถึง 75 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบเต็มร้อยเอาเลยถึงขั้นนั้น ต่างเกิดความวิตก กังวล หรือเกิด “ความเชื่อ” ประมาณว่า ถ้าหากผู้นำอเมริกาอย่าง “ทรัมป์บ้า” เกิดแพ้เลือกตั้งขึ้นมาในคราวนี้ โอกาสที่จะเกิดการ “ปฏิเสธความพ่ายแพ้” ไม่ยอมรับผลการลงคะแนน ออกอาการดื้อแพ่ง ดื้อตาใส ไม่ยอมลุกออกจากทำเนียบขาว อาจมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ!!!
และบรรดา “ความเชื่อ” เหล่านี้...ดูจะไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆ หรือเรื่องล้อเล่น อีกต่อไป เพราะนับจากครั้งที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี อย่าง “โจ ไบเดน” หรือ “โจ ซึมเซา” กำลังทำคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งแบบชนิดแทบไม่เห็นฝุ่น เห็นหาง ก็เคยถูกถาม ถูกสัมภาษณ์ ในรายการ “The Daily Show” ของ “นายTrevor Noah” เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถึงฉากเหตุการณ์ทำนองนี้ ว่าจะหาทางรับมือ หรือคิดจะหาทางจัดการเช่นไร? และโดย “คำตอบ” ก็พอจะเป็นที่รับรู้ รับทราบกันไปเรียบร้อยแล้ว ว่าคงต้องหันไป “สิริยากร พุกกะเวส” หรือคงต้องวานบรรดาทหารหาญทั้งหลาย ให้ช่วย “อุ้ม” ประธานาธิบดีผู้ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ออกจากทำเนียบขาวลูกเดียวเท่านั้นเอง...
แต่โดยคำตอบที่ว่า...กลับเป็นอะไรที่ออกจะเป็นจริง เป็นจัง เอามากๆ อย่างน้อย...ก็สำหรับสมาชิกสภาผู้แทนฯ พรรคเดโมแครตอย่าง “นางElissa Slotkin” แห่งรัฐมิชิแกน และ “นายMikie Sherrill” แห่งรัฐนิวเจอร์ซี ที่ถึงขั้นต้องลงทุนเขียนจดหมายไปถึงประธานเสนาธิการทหารร่วมแห่งกองทัพสหรัฐฯ “พลเอกMark Milly” ให้เข้ามาร่วมมีส่วนคลี่คลาย ถ้าดันเกิดฉากเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นมาจริงๆ แต่ก็ยังโชคดี...ที่ “บิ๊กมาร์ค” ท่านไม่ได้ออกมาในแนวแบบบรรดา “บิ๊ก” ต่างๆ ในกองทัพไทย จึงได้ตอบจดหมายดังกล่าวเอาไว้ในทำนองว่า ท่านไม่คิดจะยุ่ง ไม่คิดจะเกี่ยว หรือเพราะ... “ในเหตุการณ์การกระทบกระทั่งทางการเมืองโดยเฉพาะการเลือกตั้ง ตามตัวบทกฎหมายของอเมริกา ได้มอบหมายให้ศาลและรัฐสภาเป็นทางออกของความขัดแย้งในเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องของทหาร เพราะเราจะไม่ปรับเปลี่ยนตัวเองไปจากการยึดมั่นในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ” นี่...ต้องเรียกว่า พร้อมที่จะตัดตัวเองออกจาก “วงจรอุบาทว์” อย่างชนิดน่าทึ่ง น่าประทับใจ เอามากๆ...
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม...คำตอบดังกล่าว ก็คงไม่ได้ช่วยลดความวิตกกังวลของบรรดาผู้ลงคะแนนเลือกตั้งทั้งหลายมากมายสักเท่าไหร่ เพราะอย่างที่ว่าไปแล้วว่า โดยผลโพลล่าสุด ของ “Opinium Research” ก็ยังสะท้อนให้ถึงความวิตกกังวล ดังกล่าวว่ามีมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน และก็คงไม่ใช่แต่เฉพาะบรรดาชาวเดโมแครตเท่านั้น ที่เกิดความห่วงใยในเรื่องทำนองนี้ เพราะในผลโพลเดียวกัน บรรดาผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน หรือผู้ที่ยังคงนิยมยกย่อง “ทรัมป์บ้า” อย่างไม่รู้สึก รู้สา ว่ากันว่า...มีจำนวนถึง 60 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน ที่เกิดความวิตกกังวล ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวนี้ อาจเกิดรายการ “โกง” กันอย่างชนิดมโหฬารพันลึก หรือเกิด “ความเชื่อ” ไปในแนวเดียวกับ “ทรัมป์บ้า” ที่ได้ออกมาป่าวประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ ประมาณว่า “ทางเดียวที่เราจะแพ้เลือกตั้งครั้งนี้...ก็คือการโกงเลือกตั้งครั้งใหญ่เท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์” โดยจะถือเป็นการตีปลาหน้าไซ หรือโยนก้อนหินถามทาง ก็แล้วแต่จะคิด...
แต่จากการหยิบเอาประเด็นเรื่อง “การลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์” มาใช้เป็นตัวโหมกระแส ปูกระแส ไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าอาจก่อให้เกิดการ “โกง” แบบชนิดไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ จนถึงขั้นคิดจะตัดงบ ยกเลิกงบการจัดลงคะแนนทางไปรษณีย์ เอาเลยถึงขั้นนั้น ย่อมน่าจะส่งผลให้ไม่ว่า “คะแนนเสียง” จะออกมาในรูปไหนก็ตาม โอกาสที่จะถูกหยิบยกไปใช้เป็น “ข้ออ้าง” ประมาณว่า “บอลแพ้...แต่คนไม่แพ้” ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ยิ่งถ้าหากเป็นการแพ้ให้ผู้ที่ตัวเองเรียกขานเอาไว้ว่าพวก “ไอคิวต่ำ” อันเป็นสิ่งที่มิอาจพ่ายแพ้ หรือไม่ต้องการพ่ายแพ้โดยเด็ดขาด รวมทั้งด้วยคำพูด คำยืนยัน ว่าตัวเองย่อมไม่ใช่ “ผู้พ่ายแพ้ที่ดี” อีกต่างหาก โอกาสที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯคราวนี้ จะออกมาในแบบผู้แพ้ออกมาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ภายในไม่กี่วัน-กี่ชั่วโมง หลังปิดหีบ เหมือนอย่างเท่าที่เคยเป็นมา อาจไม่มีโอกาสได้พบ ได้เจอ เอาเลยก็ไม่แน่!!!
เผลอๆ...อาจเกิดการ “ลากยาวว์ว์ว์” กว่าจะรู้ผลแพ้ ผลชนะ ปาเข้าไปเป็นเดือนๆ เอาเลยก็เป็นได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องหันไปถามศาลสถิตยุติธรรม หรือหันไปถามรัฐสภาก็แล้วแต่ โดยถ้าหากมันดันเป็นไปในแนวนั้นขึ้นมาจริงๆ การเผชิญหน้ากันและกันระหว่างบรรดา “ม็อบทรัมป์ภักดี” กับ “ม็อบปลดแอกสีผิว” มันจะระเบิดเถิดเทิงไปถึงขั้นไหนต่อขั้นไหน ก็ยังมิอาจคาดคะเน มิอาจจินตนาการออกมาได้ง่ายๆ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...การปกครองภายใต้ “ระบอบประชาธิปไตย” ตามแบบฉบับอเมริกา อันเคยเป็นอะไรที่สูงส่ง วิเศษวิเสโสเสียเหลือเกิน เป็นอะไรที่ “ลิเบอร่าน” เอามากๆ อาจมีอันต้องหมองคล้ำ หมองมัวลงไปไม่มาก-ก็น้อย หรืออาจไม่ใช่ระบอบที่เชื่อๆ กันว่า “เลวน้อยที่สุด” อีกต่อไป โดยเฉพาะถ้าหากสังคมในแต่ละสังคม สามารถสรรหา “กรรมวิธี” ในการคัดเลือก “คนดี” ให้เข้ามาสู่ระบบ และป้องกัน ขจัดขัดขวาง “คนไม่ดี” ไม่ให้มีโอกาส บทบาทและอำนาจ ตามลักษณะพิเศษหรือลักษณะเฉพาะของสังคมนั้นๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ผิดแผก แตกต่างกันออกไป อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย...