ผู้จัดการรายวัน 360 - “สุริยะ”ยันจุดยืน ก.อุตสาหกรรม แบนพาราควอต เหตุเพิ่งบังคับใช้แค่ 2 เดือน ยังไม่มีข้อมูลมากพอให้ทบทวนมติ โฆษก ปชป. ทนกระแสไม่ไหว ออกโรง จี้ ฝ่ายการเมืองหยุดสร้างข่าวเท็จป้ายสีรมว.เกษตรฯ ปม ยกเลิกแบนพาราควอต อัด อย่าเล่นการเมืองสกปรก อ้างชาวบ้านยื่นหนังสือผ่านเพื่อให้ส่งต่อ กก.วัตถุอันตรายเท่านั้น
นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการวัตถุอันตราย กล่าวถึงกรณีผู้แทนเกษตรกร และนักวิชาการเสนอให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายทบทวนการยกเลิกใช้พาราควอต ว่า จากการหารือกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อง 30 ส.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นกระทรวงอุตสาหกรรมจะคงแบนสารดังกล่าวต่อไป ในนามของประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เลขานุการคณะกรรมการฯ เนื่องจากมองว่าประเด็นนี้เพิ่งมีการยกเลิกใช้เพียง 2 เดือนเท่านั้น จึงยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจนจนนำไปสู่การตัดสินใจให้เปลี่ยนมติได้ อย่างไรก็ตามการจะทบทวนได้ต้องใช้เวลานานกว่านี้ และผลที่เกิดขึ้นต้องส่งผลกระทบรุนแรง และมีข้อมูลเพียงพอในการหักล้างข้อมูลที่นำไปสู่การแบนสารดังกล่าว
สำหรับการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้ แต่จะรอนายสุริยะกำหนดวันประชุมอีกครั้ง หากกระทรวงเกษตรฯส่งเรื่องมาก็พร้อมพิจารณาร่วมกันในคณะกรรมการฯ ซึ่งมติต้องขึ้นกับที่ประชุมเป็นสำคัญว่าทบทวนหรือคงการแบนต่อไป
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องการคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนเป็นที่ตั้ง สำหรับการพิจารณาเรื่องการแบนสารพาราควอตหรือไม่ เป็นเรื่องที่กฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ได้ระบุอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาไว้ชัดคือ คณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน ร่วมด้วยปลัดกระทรวงอีก 4 กระทรวง และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายคน คณะกรรมการเหล่านี้เป็นคณะกรรมการที่มีหน้าที่โดยตรงในการพิจารณาว่าจะแบนสารพาราควอตหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ได้มีอำนาจ ไม่สามารถเข้าร่วมพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการชุดนี้
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือมีพี่น้องเกษตรกรทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้ร้องเรียนมายังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสะท้อนมุมมองเหตุและผลว่ากลุ่มเกษตรกรดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนมีมุมมองความคิดที่แตกต่างประการใดหรือไม่ เมื่อในหนังสือที่ยื่นให้กับนายเฉลิมชัยระบุให้ส่งความเห็นของผู้ร้องไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตราย ก็ได้ส่งต่อไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งมีหน้าที่โดยตรง นายเฉลิมชัยไม่มีอำนาจพิจารณาและไม่สามารถสั่งการคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้
“ผมขอให้ฝ่ายการเมืองหยุดนำประเด็นที่บิดเบือนเป็นเท็จมาโจมตีนายเฉลิมชัย การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด ถือว่าเป็นการเล่นการเมืองที่สกปรกที่สุด นักการเมืองที่ดีควรให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาและรอบด้านแม่นยำให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความเสียหายตามมา” นายราเมศ กล่าว
นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการวัตถุอันตราย กล่าวถึงกรณีผู้แทนเกษตรกร และนักวิชาการเสนอให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายทบทวนการยกเลิกใช้พาราควอต ว่า จากการหารือกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อง 30 ส.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นกระทรวงอุตสาหกรรมจะคงแบนสารดังกล่าวต่อไป ในนามของประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เลขานุการคณะกรรมการฯ เนื่องจากมองว่าประเด็นนี้เพิ่งมีการยกเลิกใช้เพียง 2 เดือนเท่านั้น จึงยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจนจนนำไปสู่การตัดสินใจให้เปลี่ยนมติได้ อย่างไรก็ตามการจะทบทวนได้ต้องใช้เวลานานกว่านี้ และผลที่เกิดขึ้นต้องส่งผลกระทบรุนแรง และมีข้อมูลเพียงพอในการหักล้างข้อมูลที่นำไปสู่การแบนสารดังกล่าว
สำหรับการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้ แต่จะรอนายสุริยะกำหนดวันประชุมอีกครั้ง หากกระทรวงเกษตรฯส่งเรื่องมาก็พร้อมพิจารณาร่วมกันในคณะกรรมการฯ ซึ่งมติต้องขึ้นกับที่ประชุมเป็นสำคัญว่าทบทวนหรือคงการแบนต่อไป
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องการคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนเป็นที่ตั้ง สำหรับการพิจารณาเรื่องการแบนสารพาราควอตหรือไม่ เป็นเรื่องที่กฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ได้ระบุอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาไว้ชัดคือ คณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน ร่วมด้วยปลัดกระทรวงอีก 4 กระทรวง และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายคน คณะกรรมการเหล่านี้เป็นคณะกรรมการที่มีหน้าที่โดยตรงในการพิจารณาว่าจะแบนสารพาราควอตหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ได้มีอำนาจ ไม่สามารถเข้าร่วมพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการชุดนี้
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือมีพี่น้องเกษตรกรทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้ร้องเรียนมายังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสะท้อนมุมมองเหตุและผลว่ากลุ่มเกษตรกรดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนมีมุมมองความคิดที่แตกต่างประการใดหรือไม่ เมื่อในหนังสือที่ยื่นให้กับนายเฉลิมชัยระบุให้ส่งความเห็นของผู้ร้องไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตราย ก็ได้ส่งต่อไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งมีหน้าที่โดยตรง นายเฉลิมชัยไม่มีอำนาจพิจารณาและไม่สามารถสั่งการคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้
“ผมขอให้ฝ่ายการเมืองหยุดนำประเด็นที่บิดเบือนเป็นเท็จมาโจมตีนายเฉลิมชัย การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด ถือว่าเป็นการเล่นการเมืองที่สกปรกที่สุด นักการเมืองที่ดีควรให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาและรอบด้านแม่นยำให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความเสียหายตามมา” นายราเมศ กล่าว
