“ก.อุตสาหกรรม” เตรียมหารือ “ก.คลัง” ดันนโยบาย “รถเก่าแลกคันใหม่” กระตุ้นตลาดรถยนต์ หลังโดนพิษโควิด-19 เล็งให้หักลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท ตั้งเป้าดึงรถเก่า 3 ล้านคันกำจัดซากอย่างถูกวิธี ตามแนว ศก.หมุนเวียน
วานนี้ (27 ส.ค.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยในงานสัมมนา New Generation of Automotive” ว่า ภายใน 2 สัปดาห์ กระทรวงอุตสาหกรรม จะหารือกับ กระทรวงการคลัง ถึงนโยบายการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วยการส่งเสริมนำรถยนต์เก่าอายุ 15-20 ปี มาแลกรถยนต์ใหม่ โดยผู้ร่วมโครงการจะสามารถหักลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งแนวทางนี้ นอกจากเป็นการแก้ปัญหาซากรถยนต์เก่า ที่สร้างมลพิษนำไปสู่การกำจัดอย่างถูกวิธีที่มีอยู่ถึง 3 ล้านคันแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวด้วย
"หากกระทรวงการคลังเห็นชอบในแนวทางเดียวกัน จะหารือกับเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการดำเนินงาน ซึ่งเบื้องต้นจะเร่งสรุปแนวทางทั้งหมดใน 2-3 เดือน และวางกรอบไว้ว่า โครงการนี้จะมีระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี" นายสุริยะ ระบุ
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับการกำจัดซากรถนั้น เป็นไปตามนโยบายที่มุ่งเน้นสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มีเป้าหมายลด PM2.5 และเศษซากมาสร้างประโยชน์ใหม่ หลักการเบื้องต้นจะมีการตั้งกองทุนเพื่อระดมเงินในการบริหารจัดการซากรถเก่า จะมีการตั้งศูนย์รวบรวมกำจัดซาก และการส่งเสริมให้เกิดโรงงานกำจัดซากเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ 1 ราย ซึ่งไม่เพียงพอ โดยผู้ที่นำรถยนต์เก่ามาแลกรถยนต์ใหม่ จะมี 2 ส่วน คือ สำหรับผู้ที่เสียภาษีอยู่แล้ว ก็สามารถนำเงินจากการซื้อรถใหม่ไปหักลดหย่อนภาษีปลายปีไม่เกิน 1 แสนบาท และส่วนผู้ที่ไม่ได้เสียภาษีก็จะได้รับคูปองส่วนลดราคา เพื่อซื้อรถใหม่ อย่างไรก็ตามรายละเอียดที่ชัดเจน จะต้องรอการหารือภาพรวมอีกครั้ง
"อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลก โดยในปี 2562 มีการผลิตอยู่ในอันดับที่ 11 ของโลก กระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐบาล จึงมุ่งตอบสนองการปรับตัวและต่อยอดเทคโนโลยีเพื่อก้าวทัน ที่รถยนต์อนาคตจะไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อคงฐานการผลิตเอาไว้โดยมีคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนซึ่งได้วางโรดแมป ของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยกำหนดให้ปี 2030 ไทยจะมีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมด" นายสุริยะ กล่าว
วานนี้ (27 ส.ค.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยในงานสัมมนา New Generation of Automotive” ว่า ภายใน 2 สัปดาห์ กระทรวงอุตสาหกรรม จะหารือกับ กระทรวงการคลัง ถึงนโยบายการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วยการส่งเสริมนำรถยนต์เก่าอายุ 15-20 ปี มาแลกรถยนต์ใหม่ โดยผู้ร่วมโครงการจะสามารถหักลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งแนวทางนี้ นอกจากเป็นการแก้ปัญหาซากรถยนต์เก่า ที่สร้างมลพิษนำไปสู่การกำจัดอย่างถูกวิธีที่มีอยู่ถึง 3 ล้านคันแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวด้วย
"หากกระทรวงการคลังเห็นชอบในแนวทางเดียวกัน จะหารือกับเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการดำเนินงาน ซึ่งเบื้องต้นจะเร่งสรุปแนวทางทั้งหมดใน 2-3 เดือน และวางกรอบไว้ว่า โครงการนี้จะมีระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี" นายสุริยะ ระบุ
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับการกำจัดซากรถนั้น เป็นไปตามนโยบายที่มุ่งเน้นสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มีเป้าหมายลด PM2.5 และเศษซากมาสร้างประโยชน์ใหม่ หลักการเบื้องต้นจะมีการตั้งกองทุนเพื่อระดมเงินในการบริหารจัดการซากรถเก่า จะมีการตั้งศูนย์รวบรวมกำจัดซาก และการส่งเสริมให้เกิดโรงงานกำจัดซากเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ 1 ราย ซึ่งไม่เพียงพอ โดยผู้ที่นำรถยนต์เก่ามาแลกรถยนต์ใหม่ จะมี 2 ส่วน คือ สำหรับผู้ที่เสียภาษีอยู่แล้ว ก็สามารถนำเงินจากการซื้อรถใหม่ไปหักลดหย่อนภาษีปลายปีไม่เกิน 1 แสนบาท และส่วนผู้ที่ไม่ได้เสียภาษีก็จะได้รับคูปองส่วนลดราคา เพื่อซื้อรถใหม่ อย่างไรก็ตามรายละเอียดที่ชัดเจน จะต้องรอการหารือภาพรวมอีกครั้ง
"อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลก โดยในปี 2562 มีการผลิตอยู่ในอันดับที่ 11 ของโลก กระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐบาล จึงมุ่งตอบสนองการปรับตัวและต่อยอดเทคโนโลยีเพื่อก้าวทัน ที่รถยนต์อนาคตจะไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อคงฐานการผลิตเอาไว้โดยมีคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนซึ่งได้วางโรดแมป ของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยกำหนดให้ปี 2030 ไทยจะมีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมด" นายสุริยะ กล่าว