ผู้จัดการรายวัน360-“อนุทิน” ประกาศผลักดัน “สารสกัดกัญชา” เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ เปิดทางผู้ป่วยใช้สิทธิบัตรทองรักษาฟรี เผยยังจะเกิดประโยชน์แตกตัวเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งยา สมุนไพร เสริมอาหาร เครื่องสำอาจ เผยหากพ.ร.บ.ยาเสพติดบังคับใช้ “กัญชา”จะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ช่วยเพิ่มรายได้เกษตรกร ย้ำมีระบบควบคุม ติดตาม ป้องกันหลุดไปเป็นยาเสพติด ระบุยังเดินหน้าดัน “กัญชง” ด้วย
วานนี้ (31 ส.ค.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถปลูก แปรรูปกัญชง เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ” ที่อิมแพคฟอรัม เมืองทองธานี โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “กัญชงพืชเศรษฐกิจใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยื่น”
นายอนุทินกล่าวว่า กำลังหารือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และคณะกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติ ในการกำหนดให้สารสกัดจากกัญชาเข้าอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อให้ครอบคลุมผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ที่จะได้รับการรักษาด้วยสารสกัดกัญชา หากมีความจำเป็น และเป็นทางเลือกในการรักษามากขึ้น เพราะปัจจุบัน โรงพยาบาลในสังกัด สธ. มีคลินิกกัญชาทางการแพทย์ และมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย แต่การรักษาคนไข้ ต้องใช้การสั่งจ่ายของแพทย์ที่ผ่านการอบรม หากผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้ ก็ต้องใช้งบประมาณของ สธ. มาช่วย เนื่องจากสารสกัดกัญชา ไม่อยู่ในบัญชียาหลัก จึงไม่สามารถเบิกจากสิทธิบัตรทองได้
“ทางออกที่ดีที่สุด คือ การบรรจุสารสกัดกัญชาให้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งจะทำให้เกิดการให้บริการวงกว้าง และแตกตัวเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ยา ยาสมุนไพร เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง"นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่....) พ.ศ. ... ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และหากมีผลบังคับใช้ กัญชาจะสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นมากมาย และเพิ่มรายได้ในฐานะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ โดยจะเกิดรายได้ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ แต่จะต้องมีการควบคุมอย่างเคร่งครัด เช่น มีระบบติดตาม เพื่อให้กัญชาทุกต้นในประเทศไทยอยู่ในระบบการควบคุม ห้ามหลุดจากวงจรธุรกิจออกไปเป็นสิ่งเสพติด เพราะจะทำให้การเปลี่ยนมุมมองจากกัญชาเป็นสารเสพติดมาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่เกิดไม่ได้
นอกจากนี้ รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ซึ่ง สธ. ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ยกเว้นสารสกัดจากกัญชงและบางส่วนของพืชกัญชง โดยไม่ต้องถูกควบคุมเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เพื่อให้นำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ ยา สมุนไพร อาหาร และเครื่องสำอาง และมีการจัดทำกฎกระทรวง เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) เพื่อใช้ประโยชน์ ในระดับครัวเรือนและอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกนำรายได้เข้าสู่ประเทศ
นายอนุทินกล่าวว่า ได้มีนโยบายให้ส่งเสริมและสนับสนุนการนำกัญชาและกัญชงไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และได้เปิดโอกาสให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการแพทย์ เนื่องจากมีสาร THC เด่น ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และทำให้เสพติด จึงต้องมีการกำกับดูแลอย่างเข้มข้น มีระบบติดตามและตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านยาเสพติด ส่วนกัญชง สนับสนุนให้ใช้ในทางอุตสาหกรรม เนื่องจากมีสาร THC ในปริมาณน้อย แทบไม่มีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มีสาร CBD เด่น มีประโยชน์ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมสุขภาพ และเกือบทุกส่วนของกัญชงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งไทยมีภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการปลูกกัญชง ถือเป็นโอกาสดีที่ประชาชนจะเพาะปลูก เพื่อสร้างรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
วานนี้ (31 ส.ค.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถปลูก แปรรูปกัญชง เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ” ที่อิมแพคฟอรัม เมืองทองธานี โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “กัญชงพืชเศรษฐกิจใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยื่น”
นายอนุทินกล่าวว่า กำลังหารือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และคณะกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติ ในการกำหนดให้สารสกัดจากกัญชาเข้าอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อให้ครอบคลุมผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ที่จะได้รับการรักษาด้วยสารสกัดกัญชา หากมีความจำเป็น และเป็นทางเลือกในการรักษามากขึ้น เพราะปัจจุบัน โรงพยาบาลในสังกัด สธ. มีคลินิกกัญชาทางการแพทย์ และมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย แต่การรักษาคนไข้ ต้องใช้การสั่งจ่ายของแพทย์ที่ผ่านการอบรม หากผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้ ก็ต้องใช้งบประมาณของ สธ. มาช่วย เนื่องจากสารสกัดกัญชา ไม่อยู่ในบัญชียาหลัก จึงไม่สามารถเบิกจากสิทธิบัตรทองได้
“ทางออกที่ดีที่สุด คือ การบรรจุสารสกัดกัญชาให้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งจะทำให้เกิดการให้บริการวงกว้าง และแตกตัวเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ยา ยาสมุนไพร เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง"นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่....) พ.ศ. ... ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และหากมีผลบังคับใช้ กัญชาจะสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นมากมาย และเพิ่มรายได้ในฐานะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ โดยจะเกิดรายได้ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ แต่จะต้องมีการควบคุมอย่างเคร่งครัด เช่น มีระบบติดตาม เพื่อให้กัญชาทุกต้นในประเทศไทยอยู่ในระบบการควบคุม ห้ามหลุดจากวงจรธุรกิจออกไปเป็นสิ่งเสพติด เพราะจะทำให้การเปลี่ยนมุมมองจากกัญชาเป็นสารเสพติดมาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่เกิดไม่ได้
นอกจากนี้ รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ซึ่ง สธ. ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ยกเว้นสารสกัดจากกัญชงและบางส่วนของพืชกัญชง โดยไม่ต้องถูกควบคุมเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เพื่อให้นำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ ยา สมุนไพร อาหาร และเครื่องสำอาง และมีการจัดทำกฎกระทรวง เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) เพื่อใช้ประโยชน์ ในระดับครัวเรือนและอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกนำรายได้เข้าสู่ประเทศ
นายอนุทินกล่าวว่า ได้มีนโยบายให้ส่งเสริมและสนับสนุนการนำกัญชาและกัญชงไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และได้เปิดโอกาสให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการแพทย์ เนื่องจากมีสาร THC เด่น ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และทำให้เสพติด จึงต้องมีการกำกับดูแลอย่างเข้มข้น มีระบบติดตามและตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านยาเสพติด ส่วนกัญชง สนับสนุนให้ใช้ในทางอุตสาหกรรม เนื่องจากมีสาร THC ในปริมาณน้อย แทบไม่มีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มีสาร CBD เด่น มีประโยชน์ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมสุขภาพ และเกือบทุกส่วนของกัญชงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งไทยมีภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการปลูกกัญชง ถือเป็นโอกาสดีที่ประชาชนจะเพาะปลูก เพื่อสร้างรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
