xs
xsm
sm
md
lg

เรือดำน้ำ...จะซื้อหรือไม่ซื้อ?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"โสภณ องค์การณ์"

แผนการจัดซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีก 2 ลำ ของกองทัพเรือยังเป็นประเด็นถกเถียง กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ทั้งในสภาและนอกสภา มีผู้รู้และรู้บ้าง และไม่รู้ แสดงความเห็นมากหลาย สุดแล้วแต่จะหาเหตุผลมาหักล้างกัน ที่ไม่มีเหตุผลเลยก็มี

กลายเป็นประเด็นการเมือง ฝ่ายค้านหวังจะจิกเอาเรื่องนี้มาเล่นงานรัฐบาล อ้างปัญหาปากท้อง นั่นนี่โน่น แต่ละฝ่ายต่างยกเหตุผลมา มีทั้งประเด็นความเหมาะสมด้านยุทธศาสตร์ ความเหมาะสมด้านช่วงเวลา โยงถึงปัญหาเศรษฐกิจ

บ้างก็พูดกันถึงขั้นที่ว่าควรพิจารณาถ้าจะยกเลิกข้อตกลง บันทึกความเข้าใจที่ไปลงนามไว้นั้น จะเหมาะสมหรือไม่ โดยไม่มองว่าการทำ “บันทึกความเข้าใจ” นั้นมีความหมายอยู่ในตัวแล้วว่า “เข้าใจตรงกันแล้วนะ” ว่าจะทำอย่างนั้นนี้ ตามที่ตกลง

เมื่อพูดกันทั้งในสภา นอกสภา รวมทั้งเป็นประเด็นถกเถียงในวงสาธารณะ ทำให้บานปลาย สะท้อนให้เห็นหลายอย่าง เช่นความไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่ตระหนัก และความต้องการเอาชนะกันโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายด้านอื่นๆ ที่จะตามมาทันที

นั่นคือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือจีนกับไทยนั่นเอง ทั้งรัฐบาลและภาคเอกชน ส่งผลกระทบต่อด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ความมั่นคง และด้านอื่นๆ ในระยะยาว เมื่อเทียบกับเงินที่ต้องใช้สำหรับการซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีก 2 ลำ

อย่าลืมว่าเราได้ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากจีนมาหลายอย่าง ทั้งรถถัง รถรบ เรือฟรีเกต และอื่นๆ ต้องการอะไหล่ ส่วนประกอบต่อเนื่อง ซึ่งต้องอาศัยความสัมพันธ์ที่ราบรื่น และที่ผ่านมา ไทยกับจีนไม่เคยมีกรณีพิพาททางการเมืองรุนแรงต่อกัน

มีแต่คนปากเสียบางรายไปพูดในสิ่งที่ควรพูด ทำให้คนจีนเกลียดชังอยู่พักหนึ่ง ต้องส่งคนไปพูดจา กว่าจะเข้าใจกันได้ ต้องใช้เวลาเยียวยา เป็นบทเรียนสำคัญ ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องคำนึงอย่างมาก


ยิ่งในยุคนี้ ทุกอย่างมีผลกระทบจากโควิด-19 และสงครามการค้า การมีมิตรในทุกด้านย่อมต้องดีกว่า ยิ่งมีมิตรใกล้บ้าน ดีกว่ามีคนไม่ชอบหน้ากันใกล้ตัว

ประเด็นเรื่องเงินงบประมาณซึ่งต้องใช้ประมาณ 22,000 ล้านบาท มีทั้งฝ่ายค้านในสภาและนอกสภาอ้างว่าเงินก้อนนี้ควรนำไปใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนมากกว่า ในยามที่ประเทศยังขาดแคลนเงิน ต้องไปกู้มาแก้ปัญหา

เงินหลายแสนล้านบาทสำหรับช่วยเหลือบริษัทเอสเอ็มอี ยังเหลืออีก 4 แสนล้าน ถ้าจำเป็นก็เจียดมาได้ เพราะธนาคารพาณิชย์ไม่อยากร่วมเสี่ยงปล่อยกู้


ในความเป็นจริงเรือดำน้ำที่จะซื้อนี้เป็นการผ่อนชำระแต่ละปีประมาณ 3 พัน ล้านบาทยาวนาน ถึง 7 ปี ถ้ามีปัญหาก็เลื่อนการชำระ หรือลดการชำระเป็นงวดได้ไม่ได้จ่ายเป็นก้อนเดียว ฝ่ายจีนพร้อมจะผ่อนปรน เข้าใจปัญหาเพราะเป็นกันทั้งโลก


ถ้าจำเป็น ก็ขอจ่ายเป็นการเอาสินค้าเกษตรที่จีนต้องการไปเป็นส่วนหนึ่งก็ยังได้ ยิ่งจีนมีปัญหาน้ำท่วมหนัก ย่อมต้องการข้าวและพืชอย่างอื่นแน่นอน


ไม่มีใครบอกได้ว่าการควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสจะสิ้นสุดในกี่ปี อาจใน 2-3 ปี หรือนานตลอดไปเพราะกลายพันธุ์ได้ วัคซีนที่ผลิตในปีนี้ อาจใช้ไม่ได้กับสายพันธุ์ใหม่ เหมือนไข้หวัดใหญ่ที่ต้องปรับวัคซีนเพื่อรับกับการระบาดครั้งใหม่ได้

การที่อ้างว่าต้องใช้เงิน 2.2 หมื่นล้านบาททำให้ดูเหมือนเยอะ แต่ถ้ากระจายเป็นรายปีก็เท่ากับว่า 3 พันล้านบาทนั้น เป็นงบที่กองทัพเรือต้องเจียดมาจากงบที่จัดสรรให้แต่ละปี ซึ่งกองทัพเรือก็ได้งบไม่มากเมื่อเทียบกับกองทัพบกและอากาศ

เรื่องความเหมาะสมทางยุทธศาสตร์ก็เถียงกันไม่จบ จากนี้ไปอีก 7 ปีการใช้เทคโนโลยีด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ต้องพัฒนาไปมาก รวมถึงการใช้โดรน ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า ขนาดเล็กกว่า ซึ่งได้กลายมาเป็นอาวุธและอุปกรณ์สนับสนุนทุกด้าน

ยิ่งโดรนราคาถูกก็ยิ่งง่าย กองทัพไทยก็ตั้งงบซื้อมาเสริมสิ่งที่มีอยู่ก็ได้!

เมื่อคำนึงถึงประเด็นที่ว่าจะเลิกซื้อ หรือเลื่อนไปก่อนโดยไม่มีกำหนดก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับประเทศจีน เพราะเรือยังไม่ได้สร้าง แต่จะคำนึงถึงความสัมพันธ์ มิตรภาพยาวนาน ถือว่าไม่คุ้ม ถ้าจะต้องแลกกับการไม่จ่ายเงินเพียง 2.2 หมื่นล้าน

นั่นเป็นเพราะจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในด้านอื่นๆ รวมถึงการส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศจีนซึ่งจากนี้ไปซึ่งแต่ละปีจะเพิ่มมากขึ้น จีนเป็นตลาดสำหรับสินค้าไทยหลายอย่าง เรายังต้องการนักลงทุนและนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลัก

แม้ว่าใน 1 หรือ 2 ปีนี้การท่องเที่ยวจะยังเป็นไปไม่ได้ดีก็ตาม เราต้องมองระยะยาวถึงความสัมพันธ์ อย่างน้อยจีนก็สามารถเป็นพันธมิตรในภูมิภาคนี้ และไม่เคยมีการแสดงออกเชิงเป็นปฏิปักษ์หรือด้านลบกับประเทศไทย

จริงอยู่เพียงแค่เรือดำน้ำ 2 จีนเก็บไว้เองก็ได้ และก็ยังไม่ได้ต่อด้วยซ้ำ แต่ความเสียหายด้านความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมานาน ความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องยากที่จะฟื้นฟูได้ และมีความหมายต่ออนาคตของประเทศไทยและภูมิภาคนี้ด้วย

แม้จะมีเรื่องที่อาจจะยังไม่ลงตัวกัน เช่นกรณีของแม่น้ำโขง การรุกเข้ามาของสินค้าจีน แต่ก็เป็นภาวะปกติของการแข่งขันการซื้อขายสินค้า และเป็นเรื่องที่ทุกประเทศต้องทำ ดังนั้น ความสัมพันธ์ระยะยาวจึงมีคุณค่ามากกว่าเงินที่ประหยัดไว้

มิตรภาพแน่นแฟ้นยาวนาน ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน ต้องใช้ความไว้ใจ ความจริงใจ การจ่ายเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท ได้เรือดำน้ำ 2 ลำ ยังจะได้ใจจากความสัมพันธ์กับชาติมหาอำนาจซึ่งมีเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก ดูแล้วประเทศไทยไม่มีอะไรเสีย

ต้องไม่ลืมว่าช่วงที่ไทยมีวิกฤตลดค่าเงินบาท ต้องหาเงินมาพยุงประเทศนั้น จีนให้ไทยยืม 1 พันล้านดอลลาร์ทันที ขณะที่สหรัฐอเมริกาไม่ได้ช่วยเหลือแม้แต่ 1 ดอลลาร์ บริษัทอเมริกันซ้ำเติมประเทศไทย กดดันซื้อกิจการล่มต่างๆ ในราคาถูก

ย้อนกลับไปในช่วงวิกฤติน้ำมัน จีนเสนอขายน้ำมันให้กับไทยในราคามิตรภาพ รับซื้อสินค้าเกษตรต่างๆ เมื่อเรามีปัญหาสินค้าราคาเกษตรตกต่ำ

ยังมีเรื่องอื่นๆ เช่นการทำสงครามสั่งสอนเวียดนาม ป้องกันไม่ให้กองทัพเวียดนามรุกเข้าไทย แม้ทหารจีนจะเสียชีวิตหลายหมื่นคน นั่นเป็นการเสียเพื่อช่วยเหลือประเทศไทย เพราะในสภาวะเช่นนั้น จีนทำเฉยก็ย่อมทำได้

การเมืองที่มุ่งแต่จะหักล้างกัน ไม่คำนึงถึงผลระยะยาว ไม่ควรทำให้ข้อตกลงเรื่องเรือดำน้ำล่ม จนทำลายความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ และมิตรภาพที่มีต่อกัน และนักการเมืองไม่เคยรับผิดชอบความเสียหายในการกระทำของตัวเองทุกยุค


ตั้งสติ คิดใหม่ แล้วจะรู้ว่าการรักชาตินั้นศักดิ์สิทธิ์กว่าวาทกรรม “ชังชาติ” มาก


กำลังโหลดความคิดเห็น