ผู้จัดการรายวัน360- "ศรีสุวรรณ" จี้ตำรวจเร่งจับ 31 แกนนำจัดชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ข้อหา "กบฏ" พร้อมเอาผิดผู้บริหารมหาวิทยาลัยด้วย ขณะที่องค์การนักศึกษามธ. ออกแถลงการณ์ อ้าง105 คณาจารย์ หนุนการชุมนุม เสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ด้านโฆษกกลาโหม วอนสังคมหนักแน่น ร่วมเตือนสติการชุมนุมที่ล่อแหลม หวั่นข้อเรียกร้องม็อบนศ. นำไปสู่การเผชิญหน้า นายกสภา มธ. เรียกสภามหาวิทยาลัยถกด่วน ปมม็อบ "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" วันนี้
วานนี้ (12ธ.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ตำรวจเร่งจับกุมและดำเนินคดีแกนนำกลุ่มผู้โจมตีและหมิ่นสถาบันที่ ม.ธรรมศาสตร์โดยเร็ว โดยระบุว่า กรณี นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ได้จัดกิจกรรม“ธรรมศาสตร์จะไม่ทน”ขึ้นที่ลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีการปราศรัย และการฉายภาพโปรเจ็กเตอร์บนเวที เป็นรูปนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ 2 ผู้ต้องหาหนีคดี ม.112 ซึ่งลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ มีข้อความ และตราสัญลักษณ์เชิงล้อเลียนและหมิ่นสถาบันฯ รวมทั้งการอ่านแถลงการณ์ แจกจ่ายประกาศกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่มุ่งให้ร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย อย่างเปิดเผยนั้น เป็นการกระทำ เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ ม.116 โดยชัดแจ้ง ซึ่งถือว่าเป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ขัดต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของสังคม เพราะเป็นการก้าวล่วงศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ
ที่สำคัญ ผู้บริหาร ม.ธรรมศาสตร์ ในฐานะเจ้าของสถานที่ ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้กลุ่มนักศึกษา/บุคคลดังกล่าวเข้ามาใช้มหาวิทยาลัย มุ่งให้ร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ย่อมมีความผิดตามไปด้วย ในฐานะ“ผู้สนับสนุน”ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.86 และ ม.87 แม้มีการออกแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัย และคำกล่าวขอโทษของรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ไม่เพียงพอสำหรับความผิดที่ได้กระทำการสำเร็จไปแล้ว หากยังมีจิตสำนึกเหลืออยู่บ้างควรรีบแสดงสปริตประกาศลาออกจากตำแหน่ง และเดินไปมอบตัวที่สถานีตำรวจย่อย มธ.ศูนย์รังสิต
นอกจากนั้น ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งจับกุมแกนนำ หรือบุคคลที่ปรากฏรายชื่อ รวม 31 คน ให้ครบโดยเร็ว ที่ได้กระทำการยุยงปลุกปั่น เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน รวมทั้งให้ตั้งข้อหากบฏ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา ม.113 ด้วย เพราะปรากฏหลักฐานข้อความบนเวทีอย่างชัดเจน ที่ว่า “เราไม่ต้องการปฎิรูป แต่เราต้องการปฏิวัติ”จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องเร่งรีบรวบรวมพยานหลักฐาน และจับกุม เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาแผ่นดินโดยเร็ว
นศ.อ้าง105 คณาจารย์หนุนม็อบ
ขณะที่เพจ "องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" เผยแพร่แถลงการณ์ พร้อมรายชื่อคณาจารย์105 คน จากหลายมหาวิทยาลัย กรณีข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ของผู้ชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน ระบุว่า การจัดเวทีชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน และการปราศรัยในวันที่ 10 ส.ค.63 ณ ลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่มีการพูดถึงบทบาท และปัญหาของสถาบันกษัตริย์ และสังคมไทยอย่างเปิดเผย โดยเสนอให้แก้ไขกฎหมาย และรธน.เพื่อให้เกิดความเป็นประชาธิปไตย และให้รักษาสถานภาพของพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การปราศรัยดังกล่าวเป็นการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นอย่างสุจริต และเป็นไปตามขอบเขตของกฎหมาย ตามรธน.60 มาตรา 34 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจํากัดเสรีภาพดังกล่าว จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะ เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน"
คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ (105 รายชื่อ) มีความเห็นว่า การแสดงออกครั้งนี้เป็นการแสดงออกตามครรลองของกฎหมาย บนหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย และข้อเสนอทั้งสิบประการของผู้ชุมนุม มิได้เป็นการละเมิดกฎหมายอาญาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ไม่ปรากฏข้อความใด ที่ถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์ แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามข้อเสนอเหล่านี้คือ ข้อเสนออย่างตรงไปตรงมาในการธำรงไว้ซึ่งสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ( 105 รายชื่อท้ายแถลงการณ์) เชื่อว่า ข้อเสนอของผู้ชุมนุมเป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกตามรธน. และตามกม.สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ข้อเสนอเหล่านี้ เรียกร้องความกล้าหาญในการพูดถึงประเด็นที่มีความอ่อนไหวในสังคมไทย แทนที่จะเบียดขับข้อเสนอเหล่านี้ออกไป สังคมไทยควรเรียนรู้ที่จะยกระดับเพดานความอดทนอดกลั้นและพูดคุยกันด้วยเหตุผล เพื่อความยั่งยืนของประชาธิปไตยต่อไปในสังคม
หวั่นข้อเรียกร้องนศ.นำไปสู่การเผชิญหน้า
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ฝ่ายความมั่นคง มีความกังวลกับสถานการณ์การการชุมนุมที่มีการปลุกชี้นำไปสู่การเรียกร้องในประเด็นที่ละเอียดอ่อน อันจะนำมาซึ่งความแตกแยกของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะข้อเรียกร้องที่เกินขอบเขตต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติ
ทั้งนี้ การทำงานของฝ่ายความมั่นคง ยังยึดมั่นและเคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ที่ถูกกำหนดควบคู่กับหน้าที่ของปวงชนชาวไทยในรัฐธรรมนูญ ซึ่งการชุมนุมและการแสดงออก ถือเป็นสิทธิและเสรีภาพของเราทุกคนที่สามารถกระทำได้ ภายใต้กรอบกฎหมายที่กำหนด ขณะเดียวกันเราทุกคนต้องมีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และไม่กระทำการใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกเกลียดชังกันในสังคม
การชุมนุมที่แฝงไปด้วยข้อเรียกร้องที่ล่อแหลม และละเอียดอ่อนดังกล่าว จึงอาจนำมาซึ่งการเผชิญหน้า และเป็นอันตรายต่อความแตกแยกของผู้คนในสังคมวงกว้าง ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมกันเตือนสติ และช่วยควบคุมอารมณ์ทางสังคม
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคงยังเชื่อมั่นว่า การแสดงออกทางความคิดของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ถือเป็นพลังบริสุทธิ์ ของสังคมที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นพัฒนาการทางสังคมที่สานต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ยากจะแยกกันได้ และมั่นใจว่าเราคนไทยทุกคนต่างหนักแน่นและมีดุลยพินิจดีพอที่จะไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มใดๆ
สภามหาวิทยาลัยฯ เรียกถกด่วน
รายงานข่าวแจ้งว่านายนรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียกประชุมด่วน สภามหาวิทยาลัยฯ เพื่อปรึกษาหารือถึงเหตุการณ์การชุมนุม "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" ที่เกิดขึ้นบริเวณลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนัดหารือกันที่ห้องประชุมสัญญา ธรรมศักดิ์ ตึกโดม ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่13 ส.ค.เวลา 13.00 น.
วานนี้ (12ธ.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ตำรวจเร่งจับกุมและดำเนินคดีแกนนำกลุ่มผู้โจมตีและหมิ่นสถาบันที่ ม.ธรรมศาสตร์โดยเร็ว โดยระบุว่า กรณี นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ได้จัดกิจกรรม“ธรรมศาสตร์จะไม่ทน”ขึ้นที่ลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีการปราศรัย และการฉายภาพโปรเจ็กเตอร์บนเวที เป็นรูปนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ 2 ผู้ต้องหาหนีคดี ม.112 ซึ่งลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ มีข้อความ และตราสัญลักษณ์เชิงล้อเลียนและหมิ่นสถาบันฯ รวมทั้งการอ่านแถลงการณ์ แจกจ่ายประกาศกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่มุ่งให้ร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย อย่างเปิดเผยนั้น เป็นการกระทำ เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ ม.116 โดยชัดแจ้ง ซึ่งถือว่าเป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ขัดต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของสังคม เพราะเป็นการก้าวล่วงศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ
ที่สำคัญ ผู้บริหาร ม.ธรรมศาสตร์ ในฐานะเจ้าของสถานที่ ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้กลุ่มนักศึกษา/บุคคลดังกล่าวเข้ามาใช้มหาวิทยาลัย มุ่งให้ร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ย่อมมีความผิดตามไปด้วย ในฐานะ“ผู้สนับสนุน”ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.86 และ ม.87 แม้มีการออกแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัย และคำกล่าวขอโทษของรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ไม่เพียงพอสำหรับความผิดที่ได้กระทำการสำเร็จไปแล้ว หากยังมีจิตสำนึกเหลืออยู่บ้างควรรีบแสดงสปริตประกาศลาออกจากตำแหน่ง และเดินไปมอบตัวที่สถานีตำรวจย่อย มธ.ศูนย์รังสิต
นอกจากนั้น ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งจับกุมแกนนำ หรือบุคคลที่ปรากฏรายชื่อ รวม 31 คน ให้ครบโดยเร็ว ที่ได้กระทำการยุยงปลุกปั่น เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน รวมทั้งให้ตั้งข้อหากบฏ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา ม.113 ด้วย เพราะปรากฏหลักฐานข้อความบนเวทีอย่างชัดเจน ที่ว่า “เราไม่ต้องการปฎิรูป แต่เราต้องการปฏิวัติ”จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องเร่งรีบรวบรวมพยานหลักฐาน และจับกุม เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาแผ่นดินโดยเร็ว
นศ.อ้าง105 คณาจารย์หนุนม็อบ
ขณะที่เพจ "องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" เผยแพร่แถลงการณ์ พร้อมรายชื่อคณาจารย์105 คน จากหลายมหาวิทยาลัย กรณีข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ของผู้ชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน ระบุว่า การจัดเวทีชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน และการปราศรัยในวันที่ 10 ส.ค.63 ณ ลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่มีการพูดถึงบทบาท และปัญหาของสถาบันกษัตริย์ และสังคมไทยอย่างเปิดเผย โดยเสนอให้แก้ไขกฎหมาย และรธน.เพื่อให้เกิดความเป็นประชาธิปไตย และให้รักษาสถานภาพของพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การปราศรัยดังกล่าวเป็นการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นอย่างสุจริต และเป็นไปตามขอบเขตของกฎหมาย ตามรธน.60 มาตรา 34 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจํากัดเสรีภาพดังกล่าว จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะ เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน"
คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ (105 รายชื่อ) มีความเห็นว่า การแสดงออกครั้งนี้เป็นการแสดงออกตามครรลองของกฎหมาย บนหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย และข้อเสนอทั้งสิบประการของผู้ชุมนุม มิได้เป็นการละเมิดกฎหมายอาญาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ไม่ปรากฏข้อความใด ที่ถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์ แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามข้อเสนอเหล่านี้คือ ข้อเสนออย่างตรงไปตรงมาในการธำรงไว้ซึ่งสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ( 105 รายชื่อท้ายแถลงการณ์) เชื่อว่า ข้อเสนอของผู้ชุมนุมเป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกตามรธน. และตามกม.สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ข้อเสนอเหล่านี้ เรียกร้องความกล้าหาญในการพูดถึงประเด็นที่มีความอ่อนไหวในสังคมไทย แทนที่จะเบียดขับข้อเสนอเหล่านี้ออกไป สังคมไทยควรเรียนรู้ที่จะยกระดับเพดานความอดทนอดกลั้นและพูดคุยกันด้วยเหตุผล เพื่อความยั่งยืนของประชาธิปไตยต่อไปในสังคม
หวั่นข้อเรียกร้องนศ.นำไปสู่การเผชิญหน้า
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ฝ่ายความมั่นคง มีความกังวลกับสถานการณ์การการชุมนุมที่มีการปลุกชี้นำไปสู่การเรียกร้องในประเด็นที่ละเอียดอ่อน อันจะนำมาซึ่งความแตกแยกของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะข้อเรียกร้องที่เกินขอบเขตต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติ
ทั้งนี้ การทำงานของฝ่ายความมั่นคง ยังยึดมั่นและเคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ที่ถูกกำหนดควบคู่กับหน้าที่ของปวงชนชาวไทยในรัฐธรรมนูญ ซึ่งการชุมนุมและการแสดงออก ถือเป็นสิทธิและเสรีภาพของเราทุกคนที่สามารถกระทำได้ ภายใต้กรอบกฎหมายที่กำหนด ขณะเดียวกันเราทุกคนต้องมีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และไม่กระทำการใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกเกลียดชังกันในสังคม
การชุมนุมที่แฝงไปด้วยข้อเรียกร้องที่ล่อแหลม และละเอียดอ่อนดังกล่าว จึงอาจนำมาซึ่งการเผชิญหน้า และเป็นอันตรายต่อความแตกแยกของผู้คนในสังคมวงกว้าง ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมกันเตือนสติ และช่วยควบคุมอารมณ์ทางสังคม
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคงยังเชื่อมั่นว่า การแสดงออกทางความคิดของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ถือเป็นพลังบริสุทธิ์ ของสังคมที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นพัฒนาการทางสังคมที่สานต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ยากจะแยกกันได้ และมั่นใจว่าเราคนไทยทุกคนต่างหนักแน่นและมีดุลยพินิจดีพอที่จะไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มใดๆ
สภามหาวิทยาลัยฯ เรียกถกด่วน
รายงานข่าวแจ้งว่านายนรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียกประชุมด่วน สภามหาวิทยาลัยฯ เพื่อปรึกษาหารือถึงเหตุการณ์การชุมนุม "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" ที่เกิดขึ้นบริเวณลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนัดหารือกันที่ห้องประชุมสัญญา ธรรมศักดิ์ ตึกโดม ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่13 ส.ค.เวลา 13.00 น.