นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยวันนี้ (12 ส.ค.) ว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอเรียกร้องให้ตำรวจเร่งจับกุมและดำเนินคดีแกนนำกลุ่มผู้โจมตีและหมิ่นสถาบันที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โดยเร็ว
ตามที่มีกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดกิจกรรม "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" ขึ้นภายในบริเวณลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยเฉพาะการปราศรัยและการฉายภาพโปรเจ็กเตอร์ขนาดยักษ์บนเวที ซึ่งเป็นรูปนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ 2 ผู้ต้องหาหนีคดี มาตรา 112 ซึ่งลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ ที่มีข้อความและตราสัญลักษณ์เชิงล้อเลียนและหมิ่นสถาบันฯ รวมทั้งการอ่านแถลงการณ์และแจกจ่ายประกาศกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ฉบับที่ 1 ที่มุ่งให้ร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอย่างเปิดเผยนั้น
พฤติการณ์และการกระทำของกลุ่มดังกล่าว เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ ม.116 โดยชัดแจ้ง ซึ่งถือว่าเป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของสังคม เพราะเป็นการก้าวล่วงศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 6 บัญญัติไว้ว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ดังนั้น ประชาชนไทยทุกคนที่เคารพเทิดทูลสถาบันกษัตริย์ย่อมถือเป็นผู้เสียหาย สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุกแห่งทั่วประเทศ ที่สำคัญ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะเจ้าของสถานที่ ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้กลุ่มนักศึกษาบุคคลดังกล่าวเข้ามาใช้มหาวิทยาลัยมุ่งให้ร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ย่อมมีความผิดตามไปด้วย ในฐานะผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.86 และ ม.87 แม้มีการออกแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยและคำกล่าวขอโทษของรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ไม่เพียงพอสำหรับความผิดที่ได้กระทำการสำเร็จไปแล้วนี้ หากยังมีจิตสำนึกเหลืออยู่บ้าง ควรรีบแสดงสปริริตประกาศลาออกจากตำแหน่ง และเดินทางไปมอบตัวที่สถานีตำรวจย่อย มธ.ศูนย์รังสิต โดยทันที
นอกจากนั้น ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมแกนนำ หรือบุคคลที่ปรากฏรายชื่อรวม 31 คน ให้ครบโดยเร็ว ที่ได้กระทำการยุยงปุกปั่นเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน รวมทั้งให้ตั้งข้อหากบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.113 ด้วย เพราะปรากฏหลักฐานข้อความบนเวทีอย่างชัดเจนที่ว่า เราไม่ต้องการปฎิรูป แต่เราต้องการปฏิวัติ จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องเร่งรีบรวบรวมพยานหลักฐาน และจับกุม เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาแผ่นดินเสีย เพราะเราเชื่อว่าคนไทยไม่อาจทนต่อการกระทำของพวกกบฏเหล่านี้ได้
ตามที่มีกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดกิจกรรม "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" ขึ้นภายในบริเวณลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยเฉพาะการปราศรัยและการฉายภาพโปรเจ็กเตอร์ขนาดยักษ์บนเวที ซึ่งเป็นรูปนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ 2 ผู้ต้องหาหนีคดี มาตรา 112 ซึ่งลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ ที่มีข้อความและตราสัญลักษณ์เชิงล้อเลียนและหมิ่นสถาบันฯ รวมทั้งการอ่านแถลงการณ์และแจกจ่ายประกาศกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ฉบับที่ 1 ที่มุ่งให้ร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอย่างเปิดเผยนั้น
พฤติการณ์และการกระทำของกลุ่มดังกล่าว เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ ม.116 โดยชัดแจ้ง ซึ่งถือว่าเป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของสังคม เพราะเป็นการก้าวล่วงศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 6 บัญญัติไว้ว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ดังนั้น ประชาชนไทยทุกคนที่เคารพเทิดทูลสถาบันกษัตริย์ย่อมถือเป็นผู้เสียหาย สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุกแห่งทั่วประเทศ ที่สำคัญ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะเจ้าของสถานที่ ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้กลุ่มนักศึกษาบุคคลดังกล่าวเข้ามาใช้มหาวิทยาลัยมุ่งให้ร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ย่อมมีความผิดตามไปด้วย ในฐานะผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.86 และ ม.87 แม้มีการออกแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยและคำกล่าวขอโทษของรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ไม่เพียงพอสำหรับความผิดที่ได้กระทำการสำเร็จไปแล้วนี้ หากยังมีจิตสำนึกเหลืออยู่บ้าง ควรรีบแสดงสปริริตประกาศลาออกจากตำแหน่ง และเดินทางไปมอบตัวที่สถานีตำรวจย่อย มธ.ศูนย์รังสิต โดยทันที
นอกจากนั้น ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมแกนนำ หรือบุคคลที่ปรากฏรายชื่อรวม 31 คน ให้ครบโดยเร็ว ที่ได้กระทำการยุยงปุกปั่นเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน รวมทั้งให้ตั้งข้อหากบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.113 ด้วย เพราะปรากฏหลักฐานข้อความบนเวทีอย่างชัดเจนที่ว่า เราไม่ต้องการปฎิรูป แต่เราต้องการปฏิวัติ จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องเร่งรีบรวบรวมพยานหลักฐาน และจับกุม เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาแผ่นดินเสีย เพราะเราเชื่อว่าคนไทยไม่อาจทนต่อการกระทำของพวกกบฏเหล่านี้ได้