“บิ๊กตู่” พูดเสมอว่า...เขาเดินตามรอยพระบาท “ในหลวงรัชกาลที่ ๙”?
โอกาสนี้...จึงขออัญเชิญพระบรมราโชวาท “ในหลวงรัชกาลที่ ๙” เรื่อง “พูดอย่างไร ทำอย่างนั้น” ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2540 มาให้ “บิ๊กตู่”...
“ผู้หนักแน่นในสัจจะ พูดอย่างไรทำอย่างนั้น จึงจะได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธา เชื่อถือ และความยกย่องสรรเสริญจากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริงทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญ ในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด”
ด้วยรัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” กับเครือข่าย บริหารชาติเต็มไปด้วยการคอร์รัปชันโกงชาติ รวมทั้งมีการสนับสนุน “ขบวนการล้มเจ้า” ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง จนถูกสื่อฯ แฉโพยเปิดโปงอย่างกว้างขวาง
นั่นเป็นต้นเหตุที่ทำให้ประชาชน ทั้ง “พันธมิตรฯ” และ “กปปส.” ทนไม่ไหว ต้องออกมาชุมนุมอย่างต่อเนื่องยืดเยื้อ เพื่อขับไล่รัฐบาลเครือข่าย “ทักษิณ” ...
ที่สำคัญ...การชุมนุมของประชาชนทั้งสองครั้ง ได้เกิดการเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจ แก้ต้นเหตุปัญหาชาติในหลายเรื่อง จนก่อเกิดเป็นกระแสปฏิรูปชาติไปทุกหนแห่ง เช่น ให้ปราบปรามการคอร์รัปชันโกงชาติ! ให้ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ให้เกิดความยุติธรรมระหว่าง “คนรวยกับคนจน”! อีกทั้งให้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนก่อนเลือกตั้ง ฯลฯ
เพราะเรื่องเหล่านั้นเป็นต้นเหตุปัญหาสำคัญของชาติ ทำให้การเมืองชั่วช้าสามานย์! ทำให้คนส่วนใหญ่มีรายได้ลดลง-ยากจนลงเรื่อยๆ จนคุณภาพชีวิตคนส่วนใหญ่ จมอยู่กับความยากลำบากแสนสาหัส ทำให้ชาติไม่เจริญรุ่งเรืองเท่าที่ควรมาจนทุกวันนี้...
แต่รัฐบาลเลือกตั้งโกงชาติ “ทักษิณ” กับเครือข่าย นอกจากจะไม่ฟังเสียงผู้ชุมนุมแล้ว ยังกลับใช้กลไกรัฐและอันธพาลการเมือง ปราบปรามประชาชนทั้งลับและเปิดเผย ด้วยการจับกุมคุมขัง และเข่นฆ่าประชาชนอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนตลอดเวลา...
ทำให้เกิดเรื่องราวไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่รัฐบาลเลือกตั้งของคนกลุ่มหนึ่งถูกรัฐประหารถึงสองครั้ง อย่าง “ทักษิณ” กับเครือข่าย
ครั้งที่หนึ่ง-การรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาล “นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร” นำโดย “บิ๊กบัง-พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน” ในวันที่ 19 กันยายน 2549 โดย “คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข-คปร.”
ครั้งที่สอง-การรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาล “นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาวของ “ทักษิณ” นำโดย “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดย “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ-คสช.”!
น่าเสียดายโอกาสทองของ “ทักษิณ” ที่... “พี่น้องชินวัตร” ได้เป็น “นายกฯ” ถึงสองคน น้องเขย “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ได้เป็น “นายกฯ” อีก 1 คน แถมเครือข่ายอย่าง “สมัคร สุนทรเวช” ก็ได้เป็น “นายกฯ” อีก 1 คน
แทนที่ “ทักษิณ” จะทำผลงานดีๆ ให้ประชาชนทั้งชาติชื่นชม แต่ “ทักษิณ” กับรัฐบาลในเครือข่ายเหล่านั้น กลับบริหารชาติไม่โปร่งใส แถมบั่นทอนความมั่นคงอย่างร้ายแรงต่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ประชาชนมาตลอด
และน่าเสียดายจริงๆ อีก! กับโอกาสทองถึงสองครั้ง! ของ “ผู้นำรัฐประหาร” ที่นำกองทัพออกมาโค่นล้มรัฐบาล “ทักษิณ” กับเครือข่าย ทว่าทำให้รัฐประหาร “เสียของ” เพราะ “เยี่ยวไม่สุด” โดยเฉพาะยุค “บิ๊กตู่” ผู้นำรัฐประหาร ควบตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ไม่ใช้อำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญ ที่ชี้เป็นชี้ตายให้ชาติกับประชาชน แถมหลายเรื่อง “บิ๊กตู่” ไม่ได้แก้ไขแม้แต่น้อย...
“บิ๊กตู่” อยู่ในอำนาจผู้นำ รปห.และนายกฯ นานกว่า 5 ปี ตามด้วยการสืบทอดอำนาจภายใต้กฎกติกา และรัฐธรรมนูญที่ “มีชัย ฤชุพันธุ์” เขียน ซึ่งเป็นประโยชน์กับ “บิ๊กตู่” และพวกพ้อง ให้ได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง จนทำให้ “บิ๊กตู่” ได้เป็น “นายกฯ เลือกตั้ง” กับ “รัฐบาล” อีกครา
แต่เป็นเวรเป็นกรรมของชาติไทยจริงๆ ที่ชาติไทยมักได้ “ผู้นำชาติ” ที่ด้อยคุณภาพด้อยคุณธรรม ที่สำคัญไม่รักชาติรักประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือรัฐประหาร “ผู้นำชาติ” ไม่ใช้อำนาจรัฐทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ไม่ทำให้ชาติเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน ดังที่ปากพร่ำพูดเลย...
เฮ้อ...เรื่องประชาชนจะได้ “ผู้นำชาติดี” ...คงจะยาก...หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ...!
เพราะ 88 ปีที่ผ่านมา ชาติไทยมีเลือกตั้งกับรัฐประหารนับครั้งไม่ถ้วน ทว่าส่วนใหญ่กลับได้แต่ “ผู้นำชาติ” ที่เห็นแก่ตัวกับพวกพ้องที่โกงชาติ ทั้งนี้เพราะการเลือกตั้งในชาติไทย ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม เต็มไปด้วยการซื้อเสียงและโกงสารพัด
ขณะที่รัฐประหารทุกครั้ง ก็ไม่ปราบคนโกงชาติ ไม่ลดความเหลื่อมล้ำในแทบทุกมิติ แถมไม่ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนเสียอีก ฯลฯ
มันน่าอนาถใจจริงๆ ที่ “ผู้นำรัฐประหาร” ไม่ทำตาม “คำพูด” เพราะคิดแต่จะสืบทอดอำนาจ ซ้ำร้ายทำให้เกิดการโกงชาติไปทุกหัวระแหงเสียอีก!
เศร้าใจยิ่งนัก...จนต้องขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของ “ในหลวงรัชกาลที่ ๙” ให้ “บิ๊กตู่” อ่านซ้ำอีกครั้ง
“ผู้หนักแน่นในสัจจะ พูดอย่างไรทำอย่างนั้น จึงจะได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธา เชื่อถือ และความยกย่องสรรเสริญจากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริงทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญ ในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด”
“บิ๊กตู่” ที่มักพูดว่าจงรักภักดี ได้ทำตามพระบรมราโชวาทข้างต้นแล้ว...จริงหรือ?