นายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล สร้างความฮือฮาวันก่อนเมื่อออกมาปูดว่ามีผู้ทรงเกี๊ยะในดงเสือหิวจ้องตะปบทรัพย์แลกกับการผ่านงบประมาณ แค่ 1.2 พันล้าน โดยนักตบทรัพย์คนที่ว่านั้นโทร.ไปรีด 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบง่ายๆ
เมื่อไม่ยอม ก็โดนลีลาซักไซ้หนัก กดดัน เล่นแง่ กะจะเอาให้ได้!
คงมีหลายคนสงสัย คุณศักดาโวยวายทำไม กะอีแค่เงิน 5 ล้านบาท ไม่ใช่ของตัวเองด้วย ไม่ต้องเหนื่อยกับการชี้แจง อธิบายให้พวกเสือหิวฟังถึงความจำเป็นต้องได้งบเพื่อให้โครงการที่วางไว้ประสบความสำเร็จ คนอื่นๆ ก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น
ยิ่งถ้าพูดกันรู้เรื่อง ไม่โวยวาย จ่ายง่ายๆ จะมีพวก และ “เงินทอน” ย้อนกลับด้วย แต่ว่าคุณศักดาอาจมองว่า ถ้าให้ไป ตัวเองจะลำบาก เป็นเหยื่อของการแบล็กเมล์ไม่จบสิ้น เพราะเสือหิวย่อมไม่รู้จักคำว่าอิ่ม ยิ่งกินง่ายก็ยิ่งย่ามใจในอำนาจ
ถ้าเป็นเรื่องจริง นายศักดา สมควรได้รับการยกย่องว่าเป็นนักสู้ยิบตา ไม่ยอมให้เงินงบประมาณถูกกัดแทะไปโดยเสือหิว ซึ่งโหยหนักมานานกว่า 5 ปี หลังจากคณะ 3 ลุงได้ฉีกรัฐธรรมนูญ ยึดประเทศ บริหารจัดการโดยไม่มีผู้แทนเลือกตั้ง
อย่างนี้ประชาชนต้องออกมาโวย เรียกร้องให้เปิดตัวเสือหิว ซึ่งว่ากันว่ามีอย่างน้อย 5 ตัว ตั้งเป็นก๊วนรีดไถงบจากหน่วยงานต่างๆ ถ้าอิดออด หรือขัดขืน ก็จะโดนไล่บี้ทำเอาข้าราชการสิ้นสภาพของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ผลสุดท้ายต้องยอม
บ้านนี้เมืองนี้เฟื่องฟูเรื่องการทุจริต คอร์รัปชันติดอันดับโลก แกนอักษะแห่งความชั่วร้ายประกอบด้วยนักการเมือง พ่อค้า และข้าราชการ ซึ่งเป็นเหตุของการทุจริต แต่แกนสำคัญคือ “ข้าราชการ” ถ้าไม่ยอม รวมกลุ่มกันต่อต้าน ต่อสู้ ก็หยุดเสือหิวได้
สำคัญตรงที่ว่า “ข้าราชการ” ต้องไม่ยอม ที่เป็นปัญหาเพราะข้าราชการยังถูกแต่งตั้งโดยนักการเมือง ซึ่งเป็นรัฐมนตรี โดยทางตรงและทางอ้อม ทั้งมีข้าราชการชั่วร้ายยอมวิ่งเต้นจะจ่ายค่าซื้อตำแหน่งเป็นเงินหลายสิบล้าน หรือร้อยๆ ล้านบาท
ตำแหน่งอธิบดีกรมใหญ่ มีงบประมาณมาก ตัวเลขซื้อขายเก้าอี้สูงถึง 200 ล้านบาท ถ้าเป็นตำแหน่งใหญ่ มีเก้าอี้ตัวเอง คุมทั่วประเทศ มีช่องทางสร้างความมั่งคั่งได้เร็ว ก็จะเริ่มที่ 600 ล้านบาท โดยพ่อค้า หรือเสี่ยลงขันจ่ายให้ก่อน
นักการเมืองเอง ถ้าอยากเป็นรัฐมนตรี ต้องสมทบเงินให้พรรค ขึ้นอยู่กับกระทรวง อย่างน้อยก็ต้อง 300 ล้านบาท เพราะการเมืองคือการลงทุน ดังนั้นต้องมีการถอนทุนจากเงินงบประมาณหรือจากพ่อค้า ประชาชนซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง
งบประมาณจากภาษีประชาชน และเงินกู้ซึ่งประชาชนต้องใช้คืน ไม่ถึงมือประชาชนปลายน้ำอย่างเต็มที่ ยิ่งยุคเสือหิวจัดก่อนการรัฐประหารปี 2557 อัตราหัวคิวสูง 40 เปอร์เซ็นต์ คนกุมอำนาจรัฐมาจากรัฐประหารหรือเลือกตั้งก็รวยเหมือนกัน
ดังนั้น ข้าราชการจึงเป็นแกนสำคัญ ถ้านักการเมืองมารีดไถ หรือให้จัดหาผลประโยชน์ หรือพ่อค้าเอาเงินมายัดให้เพื่อแลกกับงานอะไรก็ตาม ในระบบจัดซื้อจัดจ้าง ถ้าข้าราชการรวมตัวกันโวยเปิดโปงให้เห็นชัด มีประชาชนหนุนเต็มที่ จะได้ผล
ที่ผ่านมาไม่เป็นเช่นนั้น นักการเมือง คนกุมอำนาจรัฐที่ชั่วร้าย สามารถให้โทษหรือผลประโยชน์ด้านตำแหน่ง ความก้าวหน้าได้ถ้าร่วมมือ ในรูปแบบของน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ไม่หักกัน ข้าราชการเช่นนั้นต้องมีคุณธรรม มีศีลธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต
นายศักดา จะเป็นตัวอย่างรายใหม่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าคนมีตำแหน่งสูงขึ้นไปจะปกป้องหรือไม่ กรณีนี้ต้องดูว่าปลัดจะช่วยเหลือ หรือมองด้านหลังว่านักการเมืองทำตาเขียวใส่หรือไม่ ที่น่ากลัวคือนายศักดาอาจโดนย้าย ไม่ช้าก็เร็วเพราะขัดลาภ
ทำตัวเป็นก้างขวางคอเสือหิวอย่างนี้ ถ้าปล่อยไว้ อาจเกิดกระแสเรียกร้องให้หาตัวคนผิด เสือหิวตัวอื่นๆ จ้องจะตะปบ เขมือบเหยื่อรายอื่นๆ จะต้องระวังตัว ถ้าทำโฉ่งฉ่าง กร่างในการรีดหนักมือ จะโดนโวย เสียขบวนการเสือหิวทั้งขบวน
ขั้นนี้ต้องดูท่าทีของรัฐมนตรี “ลูกท็อป” ดูก่อนว่าจะหนักแน่น หนุนคุณศักดาเต็มที่หรือไม่ แต่ดูท่าแล้ว “ลูกท็อป” จัดในกลุ่มไม่ยอมหัก ไม่สร้างศัตรูกับใคร อาจมองว่ากระดูกยังไม่แข็งพอ ต้องไว้หน้านักเลือกตั้งด้วยกัน อย่างนี้คุณศักดาซวยแน่
ดังนั้น ท่าทีของ “ลูกท็อป” ต้องไม่สร้างความเคลือบแคลงใจในการตรวจสอบ ยิ่งถ้าเสือหิวที่ว่านั้นบังเอิญอย่างร้ายกาจว่าอยู่ในพรรคเดียวกับท่านด้วยแล้ว ก็ต้องยิ่งแสดงให้เห็นความเที่ยงตรง มือสะอาด จัดการนักรีดไถ ทำให้ประชาชนไว้วางใจ
ถ้ามีใครมาบอกว่า “เป็นความเข้าใจผิด สื่อสารไม่ชัดเจน ทำความเข้าใจกันแล้ว” อย่างนี้ถือว่ามีการโกงแน่ และยอมๆ กันไป แลกผลประโยชน์ และการซูเอี๋ยอย่างนี้ ถ้าคุณศักดาเป็นคนแน่จริง ต้องไม่ยอมรับสภาพเกี้ยเซียะ อย่างเด็ดขาด
เอาเถอะ ถ้าคุณศักดาต้องประสบชะตากรรม กลายเป็น “นักร้อง” เสียงโหยหวนเพราะทนต่อการรีดไถไม่ไหว และโดนเล่นงาน โยกย้ายไปตำแหน่งห่วยๆ ภายหลัง ก็ถือว่าระบบราชการยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะต้านอำนาจคอร์รัปชันได้
ยิ่งถ้าลุงตู่ผู้นำได้ประกาศซ้ำซากว่าจะปราบทุจริต คอร์รัปชัน แต่กลับเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ในเรื่องนี้ บ้านเมืองคงตกอยู่ในความวังเวงต่อเนื่อง เพราะเห็นชัดๆ แล้วว่าคุณศักดาโวยเพราะห่วงเงินงบประมาณจากภาษีของประชาชน ถือว่าใช้ได้
อันที่จริงการรีด เรียกเปอร์เซ็นต์อย่างนี้ชาวบ้านได้ยินกันมานานแล้ว พวกเสือหิวและเครือข่ายจึงอยากมาอยู่ในคณะกรรมาธิการ อนุกรรมการ หรืออะไรที่เกี่ยวโยงกับอำนาจซักไซ้ตรวจสอบงบประมาณ เพราะเป็นช่องทางได้ถอนทุนเร็ว
บางพรรคถือว่าเป็นเป้าหมายหลักที่ต้องได้เป็นประธานกรรมาธิการ หรืออนุกรรมการ มีที่ปรึกษารับงานติดต่อ ประสานงานการรีดไถเพื่อสมประโยชน์