ทำไมทหารอเมริกันอยากมาเมืองไทยซะเหลือเกิน?

ช่วงหลังๆ นี้...คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้นั่นแหละว่า บรรดา “ทหารอเมริกัน” นั้น ท่านออกจะมุ่งมาดปรารถนา ชนิดแทบต้องเรียกว่า “กระเหี้ยนกระหือรือ” อยากจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาซะเหลือเกิน!!! ไม่ว่าจะโควิด-ไม่โควิด ไม่ว่าจะต้อง “สวมหน้ากาก” ปิดหน้า ปิดตา ต้อง “เว้นระยะห่าง” กันในแบบไหน อย่างไร ก็ตาม แต่ก็ยังพยายามดิ้นรน พยายามตะเกียกตะกาย โผล่หน้า โผล่ตา เข้ามาในประเทศไทยให้จงได้ จนทำให้ใครต่อใครอดไม่ได้ที่จะต้องเกิดความประหลาดใจ ความงุนงง สงสัย เอามากๆ...

อย่างเมื่อช่วงเดือนที่แล้ว ระดับประธานเสนาธิการทหารบก หรือผู้บัญชาการทหารบกอเมริกา “พลเอกเจมส์ ซี แมคคอนวิลล์” (James C. McConville) ที่ว่ากันว่า...มีภารกิจเพียงแค่การลงนามข้อตกลงความเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศ ในด้านวิสัยทัศน์ หรือที่เรียกๆ กันว่า “Join Vision Statement 2020” กับกองทัพบกไทย ซึ่งสามารถจะเซ็นหนังสือส่งผ่านทางอีมง อีเมล หรือผ่านทางวิดีโอคอนเฟอรงซ์ คอนเฟอเรนซ์ อะไรต่อมิอะไรก็ย่อมได้ ไม่จำเป็นถึงกับต้องถ่อร่ง ถ่อร่าง ต้องสวมหน้ากากปิดกั้นทางเดินหายใจ มาพบตัว โชว์ตัว แบบตัวเป็นๆ กับผู้บัญชาการทหารบกไทย อย่าง “บิ๊กแดง” เอาเลยก็ยังได้ แม้จะมีความพยายามอธิบาย ขยายความ ว่าต้องการ “ฝากอุปกรณ์บางอย่าง” ในช่วงที่ต้องฝึกร่วม หรือต้องร่วมสร้างวิสัยทัศน์ ในทางทหารระหว่างกันและกันก็ตาม...

แต่ก็อีกนั่นแหละ...ด้วยเหตุผล ข้ออ้าง ว่าด้วยการร่วมฝึก ร่วมสร้าง อะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ในปฏิบัติการที่เรียกว่า “หนุมานการ์เดียน” ระหว่างทหารไทย ทหารสหรัฐฯ รวมทั้งทหารญี่ปุ่น ยุ่นปี่ ควบคู่ไปด้วย “ศบค.” หรือ “ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” ที่เคยพยายามกระตุ้น เร่งเร้า แบบเร้าแล้ว เร้าอีก ไม่ให้คนไทย “การ์ดตก” เป็นอันขาด ท่านเลยจำต้องโอ้โลม ปฏิโลม และ “อนุโลม” ให้ทหารอเมริกันประมาณ 70 นาย และทหารญี่ปุ่น ยุ่นปี่อีก 30 กว่านาย เข้ามาปักหลักอยู่ในโรงแรมกลางกรุง กลางเมืองไทย เป็นเวลาประมาณร่วมเดือน โดยพร้อมที่จะให้คำมั่น สัญญากับบรรดาปวงชนชาวไทยทั้งหลาย ว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับกรณี “ทหารอียิปต์” หรือกรณี “สนามมวยลุมพินี” เป็นเด็ดขาด...

ซึ่งในเมื่อ “ทหารไทย-กองทัพไทย” ท่านออกมานั่งยัน นอนยัน เพื่อให้เกิดความมั่นอก-มั่นใจ เอาไว้ก่อนล่วงหน้าเช่นนี้...ก็คงต้อง “ทำใจ” หรือคงต้อง “ไว้วางใจ” กันไปตามสภาพนั่นแล จะไปคิดเล็ก-คิดน้อย หรือคิดมาก ก็คงไม่ถูกเรื่อง หรือไม่น่าจะเข้าท่ากันสักเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อย...ในฐานะปวงชนชาวไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน การช่วยกันคิดๆ ว่าด้วยเหตุผล กลใด ถึงทหารอเมริกัน หรือคุณพ่ออเมริกา ท่านออกจะกระเหี้ยนกระหือรือ อยากเข้ามาเหยียบดินแดนประเทศไทยเสียเหลือเกิน คงไม่น่าจะถึงกับ “ผิดกติกา” แต่อย่างใด และอันที่จริง...ข่าวคราวความเคลื่อนไหวในด้านต่างประเทศ โดยเฉพาะในด้าน “การทหาร” ที่เคยมีมาก่อนหน้านั้น หรือเมื่อไม่นานมานี้ ก็ดูจะพอเป็นตัวช่วยอธิบายขยายความถึงความปรารถนา ความต้องการ ของทหารอเมริกัน หรือของคุณพ่ออเมริกา ได้เป็นอย่างดี...

อย่างเช่น...ข่าวคราวที่ปรากฏอยู่ในรายงานสำนักข่าวต่างประเทศหลายต่อหลายสำนัก เมื่อช่วงวันอาทิตย์ 2 สิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง ว่าด้วยคำแถลงยืนยันของ “บิ๊กเพนตากอน” ที่ย่อมไม่ใช่ใครที่หนวย แต่เป็น “พลเอกเจมส์ ซี แมคคอนวิลล์” ประธานเสนาธิการทหารบก หรือผู้บัญชาการทหารบกอเมริกัน ที่เพิ่งสวมหน้ากากเดินทางมาจับมือ ถือแขน กับผู้บัญชาการทหารบกไทย อย่าง “บิ๊กแดง” และรัฐมนตรีกลาโหมไทย อย่าง “บิ๊กตู่” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั่นเอง ซึ่งได้ไปพูดจาปราศรัยกับบรรดาทหารและชาวอเมริกัน ที่ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์แห่งชาติ หรือ “Center for Strategic & International Studies” ถึง “ความจำเป็น” ที่ถือเป็น “วาระเร่งด่วน” เอามากๆ (Our number one priority that’s very, very important) นั่นก็คือการหาทางพัฒนา “ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค” ระดับพิสัยกลางที่มีความแม่นยำ เพื่อ “เผชิญหน้ากับสิ่งที่เราต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้” หรือ “เพื่อสร้างความได้เปรียบและความเหนือกว่า ต่อผู้ที่เป็นปรปักษ์ในทุกๆ ความขัดแย้งใดๆ ก็ตาม ที่มีโอกาสเป็นไปได้...”

คือสรุปง่ายๆ ว่า...หลังจากที่ได้ตัดสินใจ “ฉีกสนธิสัญญา” หรือข้อตกลงในเรื่องขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง “Intermediate- Range- Nuclear Force Treaty” หรือที่เรียกย่อๆ ว่า “INF” กับประเทศรัสเซียไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา การหันมาเร่งรัดพัฒนาจรวดพิสัยไกลที่มีความแม่นยำ (Long-Range precision) แบบที่มีความเร็วเกินกว่า 5 มัคขึ้นไป หรือที่เรียกๆ กันว่าขีปนาวุธ “Hypersonic” ทั้งหลาย ของกองทัพสหรัฐฯ ก็ยิ่งมีความเอาจริง เอาจังยิ่งขึ้นไปเท่านั้น จะด้วยเหตุเพราะความแตกตื่นตกใจ ที่เผอิญไปเห็น “บ้องข้าวหลามยักษ์” หรือจรวด “DF-17” ที่กองทัพจีนนำมาอวดโชว์ ในระหว่างการสวนสนามฉลองครบรอบ 70 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หรือเพราะได้ข่าวว่ากองทัพรัสเซีย ได้นำเอาจรวดความเร็วเหนือเสียงถึง 20 เท่า อย่างจรวด “อะวอนการ์ด” (Avangard) ที่ว่ากันว่าสามารถเจาะทะลวงระบบป้องกันขีปนาวุธทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน เข้าประจำการในกองทัพรัสเซีย เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หรือไม่ อย่างไร? ก็แล้วแต่ สิ่งที่กองทัพอเมริกันจำเป็นต้องเร่งรัด พัฒนา ก็จึงเป็นไปดังที่ “พลเอกเจมส์ ซี แมคคอนวิลล์” ท่านว่าเอาไว้นั่นแหละว่า... “เรารู้ว่าเราต้องการขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความแม่นยำ นี่คือความจำเป็นอันดับแรก ที่ทำให้เราต้องเร่งพัฒนาขีดความสามารถของขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคในทุกวันนี้ และเราประสบความสำเร็จเรียบร้อยแล้วในการทดสอบ โดยเรากำลังเสริมเพิ่มเติมด้วยขีปนาวุธพิสัยกลาง ที่สามารถจมเรือรบฝ่ายตรงกันข้าม นี่คือความสำคัญเอามากๆ ในการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรากำลังต้องเผชิญอยู่...”

แต่เมื่อพยายามเร่งรัด พัฒนา จนพอที่จะเอาไปคุยโม้ คุยโต อย่างที่ผู้นำประเทศเช่น “ทรัมป์บ้า” ถึงกับออกมาตั้งชื่อ ฉายา ไว้ก่อนล่วงหน้าว่าเป็นจรวดระดับ “Super Duper” หรือจรวดที่มีความแม่นยำและความเร็วเหนือเสียงยิ่งกว่าจีนกว่ารัสเซีย อะไรประมาณนั้น โดยเตรียมเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐฯ ช่วงปี ค.ศ. 2022 แต่ “ปัญหา” ก็ยังมีอยู่ว่า...แล้วจะเอาไป “ติดตั้ง” เอาไว้ที่ไหน? หรือ ณ แห่งหนตำบลใด? เพราะแม้แต่ “พลเอกเจมส์ ซี แมคคอนวิลล์” ท่านยังต้องหันไปใช้คำว่า “อยู่ในระหว่างการตัดสินใจ” แม้ว่าโดยแนวคิด แนวทาง หรือโดย “ยุทธศาสตร์” ของกองทัพอเมริกัน ไม่ว่าโดยรัฐมนตรีกระทรวงกองทัพบกสหรัฐฯ อย่าง “นายไรอัน ดี. แมคคาร์ธี” (Ryan D. McCarthy) หรือตัว “พลเอกเจมส์ ซี แมคคอนวิลล์” เอง ต่างเปิดเผยออกมาในแนวเดียวกัน ว่าสำหรับขีปนาวุธพิสัยกลางความเร็วสูงนั้น หนีไม่พ้นต้องเอามาติดตั้ง จัดวาง ไว้ในภูมิภาคเอเชีย ตามแผน “ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก” อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ หรือถึงขั้นที่ “สหรัฐฯ กำลังสำรวจความเป็นไปได้ที่จะตั้งฐานทัพ หรือจัดวางขีปนาวุธชนิดนี้ไว้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ตามคำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงทัพบก เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว...

และจะด้วยเหตุเพราะบรรดาประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ในย่านนี้ ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ หรือแม้แต่คุณพี่ญี่ปุ่น ยุ่นปี่ ต่างรีบออกมาปฏิเสธไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าไม่คิดจะเปิดพื้นที่ เปิดดินแดน ให้เป็นที่ติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางความเร็วสูงของสหรัฐฯ อันอาจเป็นการ “ยั่วส้นตีน” อภิมหาอำนาจในย่านนี้ อย่างคุณพี่จีน โดยเด็ดขาด!!! การเทียวไป-เทียวมา เที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า ของทหารอเมริกันมายังประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา จะเพื่อ “ฝากอุปกรณ์บางอย่าง” หรือเพื่ออะไรก็แล้วแต่ มันถึงได้เป็นไปแบบกระเหี้ยนกระหือรือ หรือ “หื่นกระหาย” ซะเหลือเกิน...