“บิ๊กตู่” เคารพศาล ไม่โทษใครคดีค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน ไม่รู้ใช้งบฯตรงไหนจ่าย โยน ก.คมนาคมแก้ปัญหา “วิษณุ” เชื่อยังเจรจาเอกชนได้ "ศักดิ์สยาม" มั่นใจมีช่องทางต่อสู้คดี หากมีข้อเท็จจริงอื่น ยื่นคำร้องได้ใน 90 วัน
จากกรณีที่ ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ไม่รับคำฟ้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ขอให้รื้อคดีที่อนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดไปว่า กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ต้องคืนค่าตอบแทนที่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (บจ.โฮปเวลล์ฯ) ชำระและใช้เงินในการก่อสร้างโครงการพร้อมดอกเบี้ยราว 2.4 หมื่นล้านบาท ให้กับ บจ.โฮปเวลล์ฯนั้น
วานนี้ (23 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพิ่งทราบมติคำตัดสินของศาลที่ออกมา ต้องหาทางต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว รัฐบาลนี้ก็พยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องเคารพกระบวนการตัดสินของศาล ซึ่งรัฐบาลนี้ก็มีทั้งแก้ ทั้งปรับ ตนก็ไม่อาจจะไปโทษใคร เพราะบางเรื่องก็รู้ดีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะมอบหมายให้ใครดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า กระทรวงคมนาคมมีหน้าที่ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว คราวที่แล้วก็เป็นผู้ขออุทธรณ์ขึ้นไป ส่วนจะใช้งบประมาณจากไหนนั้น ต้องไปหาทางต่อไป จะมาตอบตอนนี้ยังไม่ได้ ก็รู้ว่ารายได้ รายรับ รายจ่ายของเราเป็นอย่างไรอยู่ แต่มีอยู่หลายวิธีการ วันหน้าก็ติดตามกัน สั่งการให้กระทรวงคมนาคมไปแก้ปัญหาตรงนี้อยู่
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯกล่าวเสริมว่า ทั้งกระทรวงคมนาคม และ รฟท. มีคณะทำงานที่ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนตัวไม่ได้ตามเรื่องมาโดยตลอด คงต้องให้กระทรวงคมนาคมรายงานมาก่อน
เมื่อถามว่า เรื่องไปถึงศาลปกครองสูงสุดแล้ว พอจะมีแนวทางอื่นที่จะไม่ต้องชดใช้หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ยังนึกไม่ออก อาจจะมีก็ได้ แต่ส่วนตัวไม่ทราบ และเรื่องมีการพูดคุยหารือตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วที่มี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็น รมว.คมนาคม ตอนนี้ผ่านมาปีหนึ่งแล้ว ไม่ทราบว่ามีอะไรคืบหน้าบ้าง หากจำเป็นก็อาจจะต้องเชิญมาถามอีกครั้ง
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลต้องชำระเงินจะมีกรอบระยะเวลาว่าต้องดำเนินการภายในเมื่อใด นายวิษณุ เผยว่า ไม่ทราบ เพราะเมื่อเลยคำพิพากษาก็จะเป็นการบังคับคดี ซึ่งการบังคับคดีก็เป็นไปตามกำหนดระยะเวลา ไม่จำเป็นต้องปัจจุบันทันด่วน และก็ต้องขึ้นอยู่กับผลการเจรจาเหมือนกัน หลังจากนี้ เราก็ยังสามารถเจรจากับเอกชนได้อยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาก็เคยเจรจามาแล้ว แต่ในครั้งนั้นไปเกี่ยงอะไรก็ไม่ทราบ
ทางด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ รฟท.ยังไม่รายงานมาที่กระทรวงคมนาคมอย่างเป็นทางการ ซึ่งจากที่ได้หารือกับฝ่ายกฎหมาย เพื่อศึกษาเพื่อหาวิธีการที่จะสามารถดำเนินการได้อีกหรือไม่ โดยพบว่ายังมีกระบวนที่จะดำเนินการได้ภายในเวลาไม่เกิน 90 วัน ทั้งนี้ ประเด็นตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัย ถือว่าถึงที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีข้อเท็จจริงอื่นที่อาจร้องขอ พิจารณาคดีใหม่ได้ตาม มาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ฝ่ายรัฐอาจยื่นคำร้องต่อศาลปกครองชั้นต้นได้ โดยต้องกระทำภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุนั้นแต่ต้องไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ฝ่ายรัฐจะถือปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลโดยเคร่งครัด ในขณะเดียวกันก็จะแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งได้มีข้อมูลใหม่ ในเรื่องความไม่สมบูรณ์ของการจดทะเบียนบริษัทโฮปเวลล์ ซึ่ง รฟท.ได้ให้ทนายความยื่นดำเนินการทางแพ่ง ซึ่งหากการจดทะเบียนไม่สมบูรณ์ จะทำให้การทำนิติกรรมสัญญา อาจไม่ชอบ
"เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่า ก่อนที่ผมจะมารับตำแหน่ง เมื่อได้มีข้อมูลใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในสำนวนเดิม ก็ไปดำเนินการ จึงขอเวลาให้ฝ่ายกฎหมายได้ทำหน้าที่ก่อน ซึ่งมีการชะลอการบังคับคดีอยู่ ทำให้การจ่ายเงินยังชะลออยู่ ผมยืนยันว่าเราจะทำให้ครบทุกช่องทาง เพราะเรื่องนี้มีค่าชดเชยเป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท หากทำไปครบถ้วน หมดแล้ว คำวินิจฉัยออกมาเป็นอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้น" นายศักดิ์สยาม กล่าว
สำหรับคดีทางอาญาจะดำเนินการด้วย โดยส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามขั้นตอน ตอนนี้ถือว่าเรายังมีเวลา และผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน
จากกรณีที่ ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ไม่รับคำฟ้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ขอให้รื้อคดีที่อนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดไปว่า กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ต้องคืนค่าตอบแทนที่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (บจ.โฮปเวลล์ฯ) ชำระและใช้เงินในการก่อสร้างโครงการพร้อมดอกเบี้ยราว 2.4 หมื่นล้านบาท ให้กับ บจ.โฮปเวลล์ฯนั้น
วานนี้ (23 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพิ่งทราบมติคำตัดสินของศาลที่ออกมา ต้องหาทางต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว รัฐบาลนี้ก็พยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องเคารพกระบวนการตัดสินของศาล ซึ่งรัฐบาลนี้ก็มีทั้งแก้ ทั้งปรับ ตนก็ไม่อาจจะไปโทษใคร เพราะบางเรื่องก็รู้ดีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะมอบหมายให้ใครดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า กระทรวงคมนาคมมีหน้าที่ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว คราวที่แล้วก็เป็นผู้ขออุทธรณ์ขึ้นไป ส่วนจะใช้งบประมาณจากไหนนั้น ต้องไปหาทางต่อไป จะมาตอบตอนนี้ยังไม่ได้ ก็รู้ว่ารายได้ รายรับ รายจ่ายของเราเป็นอย่างไรอยู่ แต่มีอยู่หลายวิธีการ วันหน้าก็ติดตามกัน สั่งการให้กระทรวงคมนาคมไปแก้ปัญหาตรงนี้อยู่
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯกล่าวเสริมว่า ทั้งกระทรวงคมนาคม และ รฟท. มีคณะทำงานที่ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนตัวไม่ได้ตามเรื่องมาโดยตลอด คงต้องให้กระทรวงคมนาคมรายงานมาก่อน
เมื่อถามว่า เรื่องไปถึงศาลปกครองสูงสุดแล้ว พอจะมีแนวทางอื่นที่จะไม่ต้องชดใช้หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ยังนึกไม่ออก อาจจะมีก็ได้ แต่ส่วนตัวไม่ทราบ และเรื่องมีการพูดคุยหารือตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วที่มี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็น รมว.คมนาคม ตอนนี้ผ่านมาปีหนึ่งแล้ว ไม่ทราบว่ามีอะไรคืบหน้าบ้าง หากจำเป็นก็อาจจะต้องเชิญมาถามอีกครั้ง
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลต้องชำระเงินจะมีกรอบระยะเวลาว่าต้องดำเนินการภายในเมื่อใด นายวิษณุ เผยว่า ไม่ทราบ เพราะเมื่อเลยคำพิพากษาก็จะเป็นการบังคับคดี ซึ่งการบังคับคดีก็เป็นไปตามกำหนดระยะเวลา ไม่จำเป็นต้องปัจจุบันทันด่วน และก็ต้องขึ้นอยู่กับผลการเจรจาเหมือนกัน หลังจากนี้ เราก็ยังสามารถเจรจากับเอกชนได้อยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาก็เคยเจรจามาแล้ว แต่ในครั้งนั้นไปเกี่ยงอะไรก็ไม่ทราบ
ทางด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ รฟท.ยังไม่รายงานมาที่กระทรวงคมนาคมอย่างเป็นทางการ ซึ่งจากที่ได้หารือกับฝ่ายกฎหมาย เพื่อศึกษาเพื่อหาวิธีการที่จะสามารถดำเนินการได้อีกหรือไม่ โดยพบว่ายังมีกระบวนที่จะดำเนินการได้ภายในเวลาไม่เกิน 90 วัน ทั้งนี้ ประเด็นตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัย ถือว่าถึงที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีข้อเท็จจริงอื่นที่อาจร้องขอ พิจารณาคดีใหม่ได้ตาม มาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ฝ่ายรัฐอาจยื่นคำร้องต่อศาลปกครองชั้นต้นได้ โดยต้องกระทำภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุนั้นแต่ต้องไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ฝ่ายรัฐจะถือปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลโดยเคร่งครัด ในขณะเดียวกันก็จะแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งได้มีข้อมูลใหม่ ในเรื่องความไม่สมบูรณ์ของการจดทะเบียนบริษัทโฮปเวลล์ ซึ่ง รฟท.ได้ให้ทนายความยื่นดำเนินการทางแพ่ง ซึ่งหากการจดทะเบียนไม่สมบูรณ์ จะทำให้การทำนิติกรรมสัญญา อาจไม่ชอบ
"เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่า ก่อนที่ผมจะมารับตำแหน่ง เมื่อได้มีข้อมูลใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในสำนวนเดิม ก็ไปดำเนินการ จึงขอเวลาให้ฝ่ายกฎหมายได้ทำหน้าที่ก่อน ซึ่งมีการชะลอการบังคับคดีอยู่ ทำให้การจ่ายเงินยังชะลออยู่ ผมยืนยันว่าเราจะทำให้ครบทุกช่องทาง เพราะเรื่องนี้มีค่าชดเชยเป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท หากทำไปครบถ้วน หมดแล้ว คำวินิจฉัยออกมาเป็นอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้น" นายศักดิ์สยาม กล่าว
สำหรับคดีทางอาญาจะดำเนินการด้วย โดยส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามขั้นตอน ตอนนี้ถือว่าเรายังมีเวลา และผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน