ผู้จัดการรายวัน360-“สมคิด”ควง “อุตตม” มอบนโยบาย “ออมสิน” บรรเทาผลกระทบธุรกิจจากวิกฤตโควิด-19 สั่งเพิ่มซอฟต์โลน 1 แสนล้าน ช่วยธุรกิจท่องเที่ยวและภาคบริการ ครอบคลุมโรงแรม โฮมสเตย์ ทัวร์ สปา ร้านอาหาร รถเช่า ร้านขายของที่ระลึก พร้อมเพิ่มวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินอีก 2 หมื่นล้าน ดูแลคนตัวเล็ก ทั้งพ่อค้าแม่ค้า หาบเร่ แผงลอย แรงงาน อาชีพอิสระ เข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ด้านออมสินยันเงื่อนไขปล่อยกู้ไม่ยาก เตรียมนำเรื่องเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่ธนาคารออมสิน วานนี้ (13 ก.ค.) ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 หรือช่วงไตรมาส 2 ได้หยุดชะงักลง จากการที่ธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ธุรกิจขนาดใหญ่ยังมีทางไปได้ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ให้ความช่วยเหลือดูแล แต่ธุรกิจรายย่อย เช่น พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ไม่สามารถที่จะไปต่อได้ เนื่องจากยังคงเข้าไม่ถึงสินเชื่อของธนาคาร จึงต้องหันไปพึ่งพิงเงินกู้นอกระบบ ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินรวมอยู่ราว 3-4 แสนล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 24-28% ต่อปี ธนาคารออมสินต้องเข้าไปช่วยลดดอกเบี้ยของหนี้นอกระบบ และขยายสินเชื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการรายเล็ก
“ธุรกิจรายย่อย คนตัวเล็ก อย่างชาวบ้าน หาบเร่ แผงลอย กำลังขาดที่พึ่ง ออมสินต้องเป็นหลักเข้าไปช่วย ทั้งการพักหนี้ การให้สินเชื่อ และช่วยลดดอกเบี้ยของหนี้นอกระบบ เพื่อไม่ให้รายย่อยและชาวบ้านต้องเผชิญกับภาวะการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยาก และเสียดอกเบี้ยแพง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่กำลังเดือดร้อนหนัก จึงอยากให้โฟกัสเป็นพิเศษ เพราะสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อของออมสินกว่า 30% มีลูกค้าเป็นรัฐบาล ต่อไปต้องเพิ่มสัดส่วนกลุ่มคนตัวเล็ก และสตาร์ทอัปเข้าไป เพื่อให้เป็นธนาคารที่ช่วยคนตัวเล็กอย่างแท้จริง”นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารออมสินจะต้องพัฒนาหลักสูตรเพื่อช่วยเหลือให้กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัปรายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เช่น กลุ่มนิสิตที่เพิ่งจบการศึกษา และยังไม่มีงานทำ แต่มีทักษะพิเศษที่สามารถนำมาใช้เพื่อประกอบอาชีพใหม่ได้ หรือกลุ่มแม่บ้านที่ต้องการประกอบอาชีพทำอาหารขาย ซึ่งสามารถขอคำแนะนำปรึกษาจากธนาคารออมสินได้ และธนาคารก็ต้องพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ขณะที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรม (บสย.) จะต้องร่วมสนับสนุนคนเหล่านี้ด้วย”นายสมคิดกล่าว
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า ได้รับรายงานจากออมสินว่ามีการปล่อยสินเชื่อฉุกเฉินช่วยคนตัวเล็กรายละไม่เกิน 1 หมื่นบาทไปแล้วกว่า 1 ล้านราย และได้เสนอขอเพิ่มวงเงินอีก 2 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือแรงงานอาชีพอิสระ และจะช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวและภาคบริการ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการจ้างงานในหลายธุรกิจ โดยจะออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงินรวม 1 แสนล้านบาท เพื่อให้ธนาคารออมสินไปปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ โดยมีบรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาค้ำประกันสินเชื่อ คาดว่าจะออกมาได้ในเร็วๆ นี้
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ซอฟต์โลนก้อนดังกล่าว ออมสินปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ในอัตรา 0.01% ต่อปี เพื่อให้ธนาคารต่างๆ นำไปปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการในอัตรา 2% ต่อปี ครอบคลุมโรงแรม โฮมสเตย์ บริษัททัวร์ ร้านนวด สปา ร้านอาหาร รถเช่า ขายของที่ระลึก แต่ไม่รวมถึงสายการบิน สามารถกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อราย และให้ บสย. เข้ามาค้ำประกัน โดยจะเสนอบอร์ดธนาคารออมสินในวันที่ 21 ก.ค.2563 และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติต่อไป
“ซอฟต์โลน 1 แสนล้านบาท จะใช้ดูแลผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการ และยังเป็นการช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยที่เข้าไม่ถึงซอฟต์โลนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยเงื่อนไข ไม่ต้องเป็นลูกค้าเก่าของออมสิน ก็สามารถขอใช้ได้”
นายวิทัยกล่าวว่า ออมสินจะเพิ่มวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินอีก 2 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือแรงงาน อาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยจะปรับปรุงเงื่อนไขให้คล่องตัวมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีการค้ำประกัน คิดอัตราดอกเบี้ยที่ 0.35% ต่อปี กู้ได้รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท โดยจะเสนอ ครม. อนุมัติสัปดาห์หน้า รวมทั้งจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มีเป้าหมายช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยสินเชื่อนอกระบบที่อยู่ในอัตรา 24-28% ต่อปี ให้เหลือราว 18% ต่อปี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่ธนาคารออมสิน วานนี้ (13 ก.ค.) ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 หรือช่วงไตรมาส 2 ได้หยุดชะงักลง จากการที่ธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ธุรกิจขนาดใหญ่ยังมีทางไปได้ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ให้ความช่วยเหลือดูแล แต่ธุรกิจรายย่อย เช่น พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ไม่สามารถที่จะไปต่อได้ เนื่องจากยังคงเข้าไม่ถึงสินเชื่อของธนาคาร จึงต้องหันไปพึ่งพิงเงินกู้นอกระบบ ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินรวมอยู่ราว 3-4 แสนล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 24-28% ต่อปี ธนาคารออมสินต้องเข้าไปช่วยลดดอกเบี้ยของหนี้นอกระบบ และขยายสินเชื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการรายเล็ก
“ธุรกิจรายย่อย คนตัวเล็ก อย่างชาวบ้าน หาบเร่ แผงลอย กำลังขาดที่พึ่ง ออมสินต้องเป็นหลักเข้าไปช่วย ทั้งการพักหนี้ การให้สินเชื่อ และช่วยลดดอกเบี้ยของหนี้นอกระบบ เพื่อไม่ให้รายย่อยและชาวบ้านต้องเผชิญกับภาวะการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยาก และเสียดอกเบี้ยแพง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่กำลังเดือดร้อนหนัก จึงอยากให้โฟกัสเป็นพิเศษ เพราะสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อของออมสินกว่า 30% มีลูกค้าเป็นรัฐบาล ต่อไปต้องเพิ่มสัดส่วนกลุ่มคนตัวเล็ก และสตาร์ทอัปเข้าไป เพื่อให้เป็นธนาคารที่ช่วยคนตัวเล็กอย่างแท้จริง”นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารออมสินจะต้องพัฒนาหลักสูตรเพื่อช่วยเหลือให้กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัปรายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เช่น กลุ่มนิสิตที่เพิ่งจบการศึกษา และยังไม่มีงานทำ แต่มีทักษะพิเศษที่สามารถนำมาใช้เพื่อประกอบอาชีพใหม่ได้ หรือกลุ่มแม่บ้านที่ต้องการประกอบอาชีพทำอาหารขาย ซึ่งสามารถขอคำแนะนำปรึกษาจากธนาคารออมสินได้ และธนาคารก็ต้องพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ขณะที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรม (บสย.) จะต้องร่วมสนับสนุนคนเหล่านี้ด้วย”นายสมคิดกล่าว
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า ได้รับรายงานจากออมสินว่ามีการปล่อยสินเชื่อฉุกเฉินช่วยคนตัวเล็กรายละไม่เกิน 1 หมื่นบาทไปแล้วกว่า 1 ล้านราย และได้เสนอขอเพิ่มวงเงินอีก 2 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือแรงงานอาชีพอิสระ และจะช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวและภาคบริการ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการจ้างงานในหลายธุรกิจ โดยจะออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงินรวม 1 แสนล้านบาท เพื่อให้ธนาคารออมสินไปปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ โดยมีบรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาค้ำประกันสินเชื่อ คาดว่าจะออกมาได้ในเร็วๆ นี้
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ซอฟต์โลนก้อนดังกล่าว ออมสินปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ในอัตรา 0.01% ต่อปี เพื่อให้ธนาคารต่างๆ นำไปปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการในอัตรา 2% ต่อปี ครอบคลุมโรงแรม โฮมสเตย์ บริษัททัวร์ ร้านนวด สปา ร้านอาหาร รถเช่า ขายของที่ระลึก แต่ไม่รวมถึงสายการบิน สามารถกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อราย และให้ บสย. เข้ามาค้ำประกัน โดยจะเสนอบอร์ดธนาคารออมสินในวันที่ 21 ก.ค.2563 และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติต่อไป
“ซอฟต์โลน 1 แสนล้านบาท จะใช้ดูแลผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการ และยังเป็นการช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยที่เข้าไม่ถึงซอฟต์โลนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยเงื่อนไข ไม่ต้องเป็นลูกค้าเก่าของออมสิน ก็สามารถขอใช้ได้”
นายวิทัยกล่าวว่า ออมสินจะเพิ่มวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินอีก 2 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือแรงงาน อาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยจะปรับปรุงเงื่อนไขให้คล่องตัวมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีการค้ำประกัน คิดอัตราดอกเบี้ยที่ 0.35% ต่อปี กู้ได้รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท โดยจะเสนอ ครม. อนุมัติสัปดาห์หน้า รวมทั้งจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มีเป้าหมายช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยสินเชื่อนอกระบบที่อยู่ในอัตรา 24-28% ต่อปี ให้เหลือราว 18% ต่อปี