ผู้จัดการรายวัน360-"ปลัดจอมแฉ" รุกคืบส่งหนังสือเชิญ "โตโน่" นักร้องดัง ให้ถ้อยคำฐานะพยานกรณี "ฌอน" รับบริจาคเงินดับไฟป่าเชียงใหม่ ขีดเส้น 7 วัน ส่วนฌอนยังเงียบ มีแค่คนกลางประสานเข้ามาว่าจะมาให้ปากคำแน่ แต่ยังไม่รู้เมื่อใด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ ว่า หลังจากเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2563 นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ส่งหนังสือเรียกตัวทางไปรษณีย์ถึงนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ที่ถูกตั้งประเด็นสงสัยเรื่องเงินรับบริจาคช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้มาพบและให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอแม่ริม หลังจากที่มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในอำเภอแม่ริมที่ร่วมเป็นทีมอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการกรณีดังกล่าว เนื่องจากไม่เคยได้รับการช่วยเหลือหรือทรัพย์สินใดๆ จากนายฌอน
ล่าสุดวานนี้ (13 ก.ค.) นายบุญญฤทธิ์ ได้ทำหนังสือจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ส่งทางไปรษณีย์ ถึงนายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือโตโน่ ดารานักร้องชื่อดัง เพื่อขอเชิญตัวให้เข้าพบไปให้ถ้อยคำในฐานะพยานกรณีฌอนรับบริจาคเงินอ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือดับไฟป่าดอยสุเทพ เพื่อให้เข้ามาชี้แจงภายใน 7 วัน เพราะโตโน่เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมบริจาคเงิน และนายฌอนอ้างว่าเป็นคนที่แนะนำให้ใช้บัญชีส่วนตัวในการรับโอนเงินบริจาค
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้ทำหนังสือส่งทางไปรษณีย์ถึงนายฌอน เพื่อขอความร่วมมือให้เข้าพบ และให้ถ้อยคำกรณีเกี่ยวกับเงินรับบริจาคที่อ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพ ซึ่งเบื้องต้นนายฌอนยังไม่ได้เข้าพบ แต่มีการประสานติดต่อผ่านคนกลางที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดว่านายฌอนจะมาเข้าพบอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นเมื่อใด อีกทั้งยังไม่มีการทำหนังสือใดๆ ตอบกลับมาด้วย
“จริงๆ แล้ว อยากให้นายฌอนมาพบและชี้แจงโดยเร็ว เพราะจะเป็นผลดีต่อนายฌอนเอง เนื่องจากการตรวจสอบรายการบัญชีที่มีการแสดงนั้น ยังพบข้อสงสัยหลายอย่าง ทั้งการโอนเงินออกไปจ่ายค่าบัตรเครดิต 2.6 แสนบาท และโอนเข้าบัญชีส่วนตัวอีกธนาคารหนึ่ง 1 ล้านบาท”
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า ส่วนการส่งหนังสือถึงโตโน่ เป็นการขอความร่วมมือเชิญตัวให้เข้าพบและให้ถ้อยคำในฐานะพยาน เพราะเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมบริจาคเงิน และถูกพาดพิงถึงว่าเป็นคนที่แนะนำฌอนให้ใช้บัญชีส่วนตัวในการรับเงินบริจาค ซึ่งอยากสอบถามว่าการบริจาคเงินนั้น ตั้งใจบริจาคเพื่อช่วยการทำงานดับไฟป่าหรือไม่อย่างไร และสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการบอกให้เปลี่ยนบัญชีธนาคารรับบริจาคตามที่นายฌอนอ้าง
ทั้งนี้ การเชิญตัวทั้งนายฌอน และโตโน่มาพบ รวมทั้งสอบพยานต่างๆ นั้น เมื่อดำเนินการแล้วจะมีการสรุปรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาต่อไปว่าจะความดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าถ้าหากมีการเปิดรับบริจาคโดยอ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่า แต่ไม่นำไปช่วยเหลือจริงตามวัตถุประสงค์ของคนบริจาค ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายและบั่นทอนกำลังใจของคนทำงานที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดับไฟป่าอย่างมาก เพราะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ แต่กลับถูกนำชื่อไปแอบอ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ ว่า หลังจากเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2563 นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ส่งหนังสือเรียกตัวทางไปรษณีย์ถึงนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ที่ถูกตั้งประเด็นสงสัยเรื่องเงินรับบริจาคช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้มาพบและให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอแม่ริม หลังจากที่มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในอำเภอแม่ริมที่ร่วมเป็นทีมอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการกรณีดังกล่าว เนื่องจากไม่เคยได้รับการช่วยเหลือหรือทรัพย์สินใดๆ จากนายฌอน
ล่าสุดวานนี้ (13 ก.ค.) นายบุญญฤทธิ์ ได้ทำหนังสือจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ส่งทางไปรษณีย์ ถึงนายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือโตโน่ ดารานักร้องชื่อดัง เพื่อขอเชิญตัวให้เข้าพบไปให้ถ้อยคำในฐานะพยานกรณีฌอนรับบริจาคเงินอ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือดับไฟป่าดอยสุเทพ เพื่อให้เข้ามาชี้แจงภายใน 7 วัน เพราะโตโน่เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมบริจาคเงิน และนายฌอนอ้างว่าเป็นคนที่แนะนำให้ใช้บัญชีส่วนตัวในการรับโอนเงินบริจาค
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้ทำหนังสือส่งทางไปรษณีย์ถึงนายฌอน เพื่อขอความร่วมมือให้เข้าพบ และให้ถ้อยคำกรณีเกี่ยวกับเงินรับบริจาคที่อ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพ ซึ่งเบื้องต้นนายฌอนยังไม่ได้เข้าพบ แต่มีการประสานติดต่อผ่านคนกลางที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดว่านายฌอนจะมาเข้าพบอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นเมื่อใด อีกทั้งยังไม่มีการทำหนังสือใดๆ ตอบกลับมาด้วย
“จริงๆ แล้ว อยากให้นายฌอนมาพบและชี้แจงโดยเร็ว เพราะจะเป็นผลดีต่อนายฌอนเอง เนื่องจากการตรวจสอบรายการบัญชีที่มีการแสดงนั้น ยังพบข้อสงสัยหลายอย่าง ทั้งการโอนเงินออกไปจ่ายค่าบัตรเครดิต 2.6 แสนบาท และโอนเข้าบัญชีส่วนตัวอีกธนาคารหนึ่ง 1 ล้านบาท”
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า ส่วนการส่งหนังสือถึงโตโน่ เป็นการขอความร่วมมือเชิญตัวให้เข้าพบและให้ถ้อยคำในฐานะพยาน เพราะเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมบริจาคเงิน และถูกพาดพิงถึงว่าเป็นคนที่แนะนำฌอนให้ใช้บัญชีส่วนตัวในการรับเงินบริจาค ซึ่งอยากสอบถามว่าการบริจาคเงินนั้น ตั้งใจบริจาคเพื่อช่วยการทำงานดับไฟป่าหรือไม่อย่างไร และสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการบอกให้เปลี่ยนบัญชีธนาคารรับบริจาคตามที่นายฌอนอ้าง
ทั้งนี้ การเชิญตัวทั้งนายฌอน และโตโน่มาพบ รวมทั้งสอบพยานต่างๆ นั้น เมื่อดำเนินการแล้วจะมีการสรุปรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาต่อไปว่าจะความดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าถ้าหากมีการเปิดรับบริจาคโดยอ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่า แต่ไม่นำไปช่วยเหลือจริงตามวัตถุประสงค์ของคนบริจาค ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายและบั่นทอนกำลังใจของคนทำงานที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดับไฟป่าอย่างมาก เพราะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ แต่กลับถูกนำชื่อไปแอบอ้าง