เชียงใหม่ - “ฌอน” ไม่โผล่ศูนย์ดำรงธรรมแม่ริมแจงกรณีเงินบริจาคดับไฟป่าดอยสุเทพตามหนังสือเรียก แต่ส่งทีมงานเข้ายื่นหนังสือแจงแทน ขณะที่ “ปลัดจอมแฉ” ระบุถือว่าให้ความร่วมมือแล้ว เร่งสรุปรายงานตรวจสอบก่อนพิจารณาเอาผิด
วันนี้ (17 ก.ค. 63) นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตรวจสอบ “ฌอน บูรณะหิรัญ” เรื่องเปิดรับบริจาคเงินอ้างนำไปช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ โดยศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริมมีการออกหนังสือเชิญตัวฌอนให้เข้าพบภายในวันที่ 17 ก.ค. 63 ว่า วันนี้ฌอนไม่เดินทางมาเข้าพบและให้ถ้อยคำตามที่มีหนังสือเชิญตัวไปถึง
อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้ฌอนได้ส่งตัวแทนเข้าพบและยื่นหนังสือชี้แจงว่าให้ความร่วมมือเรื่องนี้ แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อให้ปากคำที่ สภ.ปากเกร็ดที่มีการดำเนินคดีอยู่ และเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 63 ได้ชี้แจงเรื่องเดียวกันนี้ไปแล้วต่ออำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าฌอนให้ความร่วมมือในการตรวจสอบแล้ว และจากนี้คงไม่จำเป็นต้องเชิญตัวมาพบ แต่หากฌอนจะมาพบและให้ถ้อยคำก็น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับตัวฌอนเอง
นายบุญญฤทธิ์ย้ำว่า การตรวจสอบกรณีฌอนนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่และดำเนินการตามกระบวนการปกติที่เมื่อมีผู้ร้องเรียนเข้ามาที่ศูนย์ดำรงธรรมแล้วต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีผู้ร้องเรียน ซึ่งจากการตรวจสอบที่ผ่านมาได้รับการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางหน่วยงาน, ผู้ปฏิบัติงานและอาสาสมัครที่ทำงานดับไฟป่าในพื้นที่ ต่างยืนยันตรงกันว่าไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากฌอน
ขณะที่การตรวจสอบรายการเดินบัญชีธนาคารของฌอนที่ใช้เปิดรับบริจาคนั้นพบความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งการโอนเงินจ่ายค่าบัตรเครดิตเป็นเงินกว่า 2 แสนบาท และโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวอีกธนาคารหนึ่งจำนวน 1 ล้านบาท อีกทั้งมีข้อมูลว่าที่จริงแล้วฌอนมีการใช้ถึง 3 บัญชีในการเปิดรับบริจาค ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมเคลือบแคลงใจและตั้งข้อสงสัย ดังนั้นในเวลานี้จึงเหลือเพียงฌอนเท่านั้นที่ควรจะออกมาชี้แจงและอธิบายทุกอย่างต่อสังคมให้ชัดเจนเสียที
นอกจากนี้ ปลัดอำเภอแม่ริม และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เปิดเผยด้วยว่า ที่ผ่านมาทางสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีการสอบถามมาตลอดว่าจะสรุปเรื่องร้องเรียนกรณีนี้และจะมีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีเมื่อใด เพราะอยากจะโอนคดีมาที่เชียงใหม่เนื่องจากเป็นพื้นที่ต้นเรื่อง
แต่ต้องยอมรับว่าการดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปขั้นตอนและใช้เวลา ซึ่งทุกอย่างน่าจะเร็วกว่านี้หากมีผู้ที่ร่วมบริจาคเงินให้ฌอนเพื่อนำไปช่วยดับไฟป่าเข้าพบและให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ จึงอยากถือโอกาสนี้ขอความร่วมมือไปยังผู้บริจาค โดยเฉพาะผู้ที่อยู่จังหวัดเชียงใหม่ ช่วยเข้าพบและให้ข้อมูลต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม เพื่อให้การตรวจสอบเรื่องนี้ชัดเจนและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ก่อนที่จะสรุปรายงานผลการตรวจสอบเพื่อพิจารณาว่าการกระทำของฌอนเข้าข่ายกระทำความผิดและจะต้องร้องทุกข์ดำเนินคดีหรือไม่