เชียงใหม่ - "ปลัดจอมแฉ" รุกคืบส่งหนังสือเชิญ "โตโน่" ให้ถ้อยคำฐานะพยานกรณี "ฌอน" รับบริจาคเงินดับไฟป่าเชียงใหม่ หลังไลฟ์โค้ชคนดังยังหายหัว แค่ติดต่อผ่านคนกลางว่าจะเข้าพบแน่แต่ขอตั้งหลักก่อน ย้ำคนทำงานดับไฟป่าสุดช้ำถูกอ้างชื่อหาประโยชน์
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า หลังจากเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 63 นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ส่งหนังสือเรียกตัวทางไปรษณีย์ถึง "ฌอน บูรณะหิรัญ" ไลฟ์โค้ชชื่อดังที่ถูกตั้งประเด็นสงสัยเรื่องเงินรับบริจาคช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้มาพบและให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอแม่ริม หลังจากที่มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในอำเภอแม่ริมที่ร่วมเป็นทีมอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริมเพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการกรณีดังกล่าว เนื่องจากไม่เคยได้รับการช่วยเหลือหรือทรัพย์สินใดๆ จากฌอน
ล่าสุดวันนี้ (13 ก.ค. 63) นายบุญญฤทธิ์ได้ทำหนังสือจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ส่ง ทางไปรษณีย์ ถึง "โตโน่" ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ดารานักร้องชื่อดัง เพื่อขอเชิญตัวให้เข้าพบไปให้ถ้อยคำในฐานะพยานกรณีฌอนรับบริจาคเงินอ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือดับไฟป่าดอยสุเทพ โดยโตโน่เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมบริจาคเงิน และฌอนอ้างว่าเป็นคนที่แนะนำให้ใช้บัญชีส่วนตัวในการรับโอนเงินบริจาค
ทั้งนี้ นายบุญญฤทธิ์เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ได้ทำหนังสือส่งทางไปรษณีย์ถึงฌอนเพื่อขอความร่วมมือเชิญตัวให้เข้าพบ และให้ถ้อยคำกรณีเกี่ยวกับเงินรับบริจาคที่อ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพ ซึ่งเบื้องต้นฌอนยังไม่ได้เข้าพบ แต่มีการประสานติดต่อผ่านคนกลางที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับฌอน ว่าฌอนจะมาเข้าพบอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นเมื่อใด อีกทั้งยังไม่มีการทำหนังสือใดๆ ตอบกลับมาด้วย ซึ่งที่จริงแล้วอยากให้ฌอนมาพบและชี้แจงโดยเร็ว เพราะจะเป็นผลดีต่อฌอนเอง เนื่องจากการตรวจสอบรายการบัญชีที่มีการแสดงนั้นยังพบข้อสงสัยหลายอย่าง ทั้งการโอนเงินออกไปจ่ายค่าบัตรเครดิต 2.6 แสนบาท และโอนเข้าบัญชีส่วนตัวอีกธนาคารหนึ่ง 1 ล้านบาท
ขณะที่วันนี้ได้ส่งหนังสือถึงโตโน่เพื่อขอความร่วมมือเชิญตัวให้เข้าพบและให้ถ้อยคำในฐานะพยาน เพราะเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมบริจาคเงิน และถูกพาดพิงถึงว่าเป็นคนที่แนะนำฌอนให้ใช้บัญชีส่วนตัวในการรับเงินบริจาค ซึ่งอยากสอบถามว่าการบริจาคเงินนั้น ตั้งใจบริจาคเพื่อช่วยการทำงานดับไฟป่า หรือไม่อย่างไร และสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการบอกให้เปลี่ยนบัญชีธนาคารรับบริจาคตามที่ฌอนอ้าง ทั้งนี้ การเชิญตัวทั้งฌอน และโตโน่มาพบ รวมทั้งสอบพยานต่างๆ นั้น เมื่อดำเนินการแล้วจะมีการสรุปรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาต่อไปว่าจะความดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าถ้าหากมีการเปิดรับบริจาคโดยอ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่า แต่ไม่นำไปช่วยเหลือจริงตามวัตถุประสงค์ของคนบริจาค ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายและบั่นทอนกำลังใจของคนทำงานที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดับไฟป่าอย่างมาก เพราะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ แต่กลับถูกนำชื่อไปแอบอ้าง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า หลังจากเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 63 นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ส่งหนังสือเรียกตัวทางไปรษณีย์ถึง "ฌอน บูรณะหิรัญ" ไลฟ์โค้ชชื่อดังที่ถูกตั้งประเด็นสงสัยเรื่องเงินรับบริจาคช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้มาพบและให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอแม่ริม หลังจากที่มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในอำเภอแม่ริมที่ร่วมเป็นทีมอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริมเพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการกรณีดังกล่าว เนื่องจากไม่เคยได้รับการช่วยเหลือหรือทรัพย์สินใดๆ จากฌอน
ล่าสุดวันนี้ (13 ก.ค. 63) นายบุญญฤทธิ์ได้ทำหนังสือจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ส่ง ทางไปรษณีย์ ถึง "โตโน่" ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ดารานักร้องชื่อดัง เพื่อขอเชิญตัวให้เข้าพบไปให้ถ้อยคำในฐานะพยานกรณีฌอนรับบริจาคเงินอ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือดับไฟป่าดอยสุเทพ โดยโตโน่เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมบริจาคเงิน และฌอนอ้างว่าเป็นคนที่แนะนำให้ใช้บัญชีส่วนตัวในการรับโอนเงินบริจาค
ทั้งนี้ นายบุญญฤทธิ์เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ได้ทำหนังสือส่งทางไปรษณีย์ถึงฌอนเพื่อขอความร่วมมือเชิญตัวให้เข้าพบ และให้ถ้อยคำกรณีเกี่ยวกับเงินรับบริจาคที่อ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพ ซึ่งเบื้องต้นฌอนยังไม่ได้เข้าพบ แต่มีการประสานติดต่อผ่านคนกลางที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับฌอน ว่าฌอนจะมาเข้าพบอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นเมื่อใด อีกทั้งยังไม่มีการทำหนังสือใดๆ ตอบกลับมาด้วย ซึ่งที่จริงแล้วอยากให้ฌอนมาพบและชี้แจงโดยเร็ว เพราะจะเป็นผลดีต่อฌอนเอง เนื่องจากการตรวจสอบรายการบัญชีที่มีการแสดงนั้นยังพบข้อสงสัยหลายอย่าง ทั้งการโอนเงินออกไปจ่ายค่าบัตรเครดิต 2.6 แสนบาท และโอนเข้าบัญชีส่วนตัวอีกธนาคารหนึ่ง 1 ล้านบาท
ขณะที่วันนี้ได้ส่งหนังสือถึงโตโน่เพื่อขอความร่วมมือเชิญตัวให้เข้าพบและให้ถ้อยคำในฐานะพยาน เพราะเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมบริจาคเงิน และถูกพาดพิงถึงว่าเป็นคนที่แนะนำฌอนให้ใช้บัญชีส่วนตัวในการรับเงินบริจาค ซึ่งอยากสอบถามว่าการบริจาคเงินนั้น ตั้งใจบริจาคเพื่อช่วยการทำงานดับไฟป่า หรือไม่อย่างไร และสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการบอกให้เปลี่ยนบัญชีธนาคารรับบริจาคตามที่ฌอนอ้าง ทั้งนี้ การเชิญตัวทั้งฌอน และโตโน่มาพบ รวมทั้งสอบพยานต่างๆ นั้น เมื่อดำเนินการแล้วจะมีการสรุปรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาต่อไปว่าจะความดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าถ้าหากมีการเปิดรับบริจาคโดยอ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่า แต่ไม่นำไปช่วยเหลือจริงตามวัตถุประสงค์ของคนบริจาค ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายและบั่นทอนกำลังใจของคนทำงานที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดับไฟป่าอย่างมาก เพราะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ แต่กลับถูกนำชื่อไปแอบอ้าง