ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ร.ต.อ.ทำปืนลั่นใส่ภรรยาสาวเสียชีวิต วงเงินประกัน 5 แสนบาท หลังผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเอง ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี และพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านประกันตัว ด้าน ผบ.ตร.เผยตำรวจทุกคนรู้หลักการใช้ปืน สงสัยถ้าปืนลั่นทำไมไม่พยายามส่ง รพ. อยู่ด้วยกันสองคนสงสัยผีคงจะยิง ไม่ชัดเป็นการเจตนาอยู่ระหว่างสอบสวน คดีไม่เกินความสามารถตำรวจนครบาล
วานนี้ (23 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.สำรวย แสนสม พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ได้นำตัว ร.ต.อ.ทรงกรด บุญส่ง รอง สว.สส.สน.วังทองหลาง อายุ 29 ปี ผู้ต้องหา กระทำผิดปืนลั่นใส่ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี ภรรยา เข้าฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 23 มิ.ย. - 4 ก.ค. เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 7 ปาก และรอผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลตรวจศพจากสถาบันนิติเวช และหลักฐานอื่นๆ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยให้การว่าไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่เป็นอุบัติเหตุ
คำร้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 20 มิ.ย. 2563 ขณะที่ น.ส.พิมชฎาพร ผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสของ ร.ต.อ.ทรงกลด นอนหลับพักผ่อนอยู่ที่บ้านพักย่านคลองจั่นเพียงผู้เดียว และผู้ต้องหาซึ่งรับราชการเป็นตำรวจ หลังกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ กลับเข้ามาที่บ้านพักและเรียกให้ผู้ตายลงมาเปิดประตู เมื่อ น.ส.พิมชฎาพรลงมาเปิดประตูแล้วก็ได้ขึ้นไปนอนต่อที่ชั้นสองของบ้าน ส่วนผู้ต้องหานั่งดื่มเบียร์ดูทีวีอยู่บริเวณชั้นล่าง
จนถึงเวลาประมาณ 05.46 น. ผู้ต้องหาได้ขึ้นไปนอนกับ น.ส.พิมชฎาพรตามปกติ แต่เนื่องจากเกิดความไม่พอใจที่ผู้ต้องหาที่ไม่กลับบ้านมาหลายวันแล้ว และเป็นเช่นนี้ประจำ น.ส.พิมชฎาพรเกิดความเบื่อหน่ายและบอกว่าเครียดอยากอยู่คนเดียว จากนั้น น.ส.พิมชฎาพรจึงเดินไปนอนอีกห้องและล็อกประตู ร.ต.อ.ทรงกลดจึงได้เดินตามไปและให้ผู้ตายเปิดประตู แต่ น.ส.พิมชฎาพรไม่ยอมเปิด ผู้ต้องหาเกิดความโกรธจึงได้ใช้เท้าถีบพังประตูเข้าไป และดึงตัวผู้ตายมานอนที่ห้องตามเดิม แต่ผู้ตายไม่ยอมพร้อมบอกขอเลิกกับผู้ต้องหาและจะนำลูกไปด้วย จากนั้นได้เกิดการโต้เถียงทะเลาะกัน น.ส.พิมชฎาพรจึงได้เดินลงมานอนบนโซฟาบริเวณชั้นล่างของบ้าน ผู้ต้องหาได้เดินตามลงมาและถืออาวุธปืนพกสั้นขนาด . 45 ซึ่งเป็นอาวุธปืนประจำตัวตามลงมาด้วย และเดินเข้าไปหา น.ส.พิมชฎาพร จนโต้เถียงกันอีก ร.ต.อ.ทรงกลด ผู้ต้องหาเกิดความโกรธจึงได้ใช้อาวุธปืนจ่อไปที่ศีรษะ น.ส.พิมชฎาพร เพื่อข่มขู่ แต่ผู้ตายใช้มือกำปืนไว้ จากนั้นปืนได้ลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนปืนถูกที่ศีรษะขมับด้านซ้ายเป็นเหตุให้ น.ส.พิมชฎาพรถึงแก่ความตายบนโซฟาในที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาเกิดความตกใจกลัวจึงได้แจ้งเหตุต่อพนักงานสอบสวนว่าผู้ตายฆ่าตัวตาย จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วมีพยานหลักฐานยืนยันว่าผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง น.ส.พิมชฎาพร ถึงแก่ความตายจึงได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อ ร.ต.อ.ทรงกลด จากนั้นวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 128 แยก 7 หมู่บ้านเสนาวิลล่า ถ.แฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากระบุว่าผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี และไม่มีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงต่อพยาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังทางมารดาและทนายความของ ร.ต.อ.ทรงกลด ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว ร.ต.อ.ทรงกลด ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง โดยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มีการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราวนี้ จึงอนุญาตให้ประกันตัวตีหลักทรัพย์ 5 แสนบาทโดยไม่กำหนดเงื่อนไข
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รอง สว.สส.สน.วังทองหลาง ก่อเหตุฆ่า น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี ภรรยา ว่า คนอยู่ด้วยกันสองคนถามว่าถ้าปืนลั่นจริง จะมีความพยายามนำตัวส่งโรงพยาบาลหรือไม่ ตนขอตอบแบบตรรกะเลย
ส่วนการกำชับผู้บังคับบัญชาเรื่องการใช้อาวุธปืน ตนมองว่าตำรวจทุกนายรู้หลักการใช้ปืนอยู่แล้ว ในขณะเกิดเหตุเกิดบันดาลโทสะหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่การใช้อาวุธต่างๆ มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงรู้ ปืนขึ้นลำไว้ไหม แม็กกาซีนเป็นยังไง ลูกโม่เป็นยังไง ก็อยู่กันสองคนอีกคนหนึ่งตาย ตนก็ไม่รู้ว่าผีมันยิงหรือเปล่า จะเป็นการเจตนาหรือไม่อยู่ในการสอบสวน
"คดีไม่ได้สลับซับซ้อน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.และคณะสอบสวน บช.น.เรียกมาพูดคุยแล้วได้ให้การเป็นประโยชน์ ส่วนข้อสงสัยต่างๆ คงหนีนิติวิทยาศาสตร์ไม่ได้ คดีนี้ไม่เกินความสามารถของตำรวจ บช.น.แน่นอน" ผบ.ตร.กล่าว
วานนี้ (23 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.สำรวย แสนสม พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ได้นำตัว ร.ต.อ.ทรงกรด บุญส่ง รอง สว.สส.สน.วังทองหลาง อายุ 29 ปี ผู้ต้องหา กระทำผิดปืนลั่นใส่ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี ภรรยา เข้าฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 23 มิ.ย. - 4 ก.ค. เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 7 ปาก และรอผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลตรวจศพจากสถาบันนิติเวช และหลักฐานอื่นๆ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยให้การว่าไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่เป็นอุบัติเหตุ
คำร้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 20 มิ.ย. 2563 ขณะที่ น.ส.พิมชฎาพร ผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสของ ร.ต.อ.ทรงกลด นอนหลับพักผ่อนอยู่ที่บ้านพักย่านคลองจั่นเพียงผู้เดียว และผู้ต้องหาซึ่งรับราชการเป็นตำรวจ หลังกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ กลับเข้ามาที่บ้านพักและเรียกให้ผู้ตายลงมาเปิดประตู เมื่อ น.ส.พิมชฎาพรลงมาเปิดประตูแล้วก็ได้ขึ้นไปนอนต่อที่ชั้นสองของบ้าน ส่วนผู้ต้องหานั่งดื่มเบียร์ดูทีวีอยู่บริเวณชั้นล่าง
จนถึงเวลาประมาณ 05.46 น. ผู้ต้องหาได้ขึ้นไปนอนกับ น.ส.พิมชฎาพรตามปกติ แต่เนื่องจากเกิดความไม่พอใจที่ผู้ต้องหาที่ไม่กลับบ้านมาหลายวันแล้ว และเป็นเช่นนี้ประจำ น.ส.พิมชฎาพรเกิดความเบื่อหน่ายและบอกว่าเครียดอยากอยู่คนเดียว จากนั้น น.ส.พิมชฎาพรจึงเดินไปนอนอีกห้องและล็อกประตู ร.ต.อ.ทรงกลดจึงได้เดินตามไปและให้ผู้ตายเปิดประตู แต่ น.ส.พิมชฎาพรไม่ยอมเปิด ผู้ต้องหาเกิดความโกรธจึงได้ใช้เท้าถีบพังประตูเข้าไป และดึงตัวผู้ตายมานอนที่ห้องตามเดิม แต่ผู้ตายไม่ยอมพร้อมบอกขอเลิกกับผู้ต้องหาและจะนำลูกไปด้วย จากนั้นได้เกิดการโต้เถียงทะเลาะกัน น.ส.พิมชฎาพรจึงได้เดินลงมานอนบนโซฟาบริเวณชั้นล่างของบ้าน ผู้ต้องหาได้เดินตามลงมาและถืออาวุธปืนพกสั้นขนาด . 45 ซึ่งเป็นอาวุธปืนประจำตัวตามลงมาด้วย และเดินเข้าไปหา น.ส.พิมชฎาพร จนโต้เถียงกันอีก ร.ต.อ.ทรงกลด ผู้ต้องหาเกิดความโกรธจึงได้ใช้อาวุธปืนจ่อไปที่ศีรษะ น.ส.พิมชฎาพร เพื่อข่มขู่ แต่ผู้ตายใช้มือกำปืนไว้ จากนั้นปืนได้ลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนปืนถูกที่ศีรษะขมับด้านซ้ายเป็นเหตุให้ น.ส.พิมชฎาพรถึงแก่ความตายบนโซฟาในที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาเกิดความตกใจกลัวจึงได้แจ้งเหตุต่อพนักงานสอบสวนว่าผู้ตายฆ่าตัวตาย จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วมีพยานหลักฐานยืนยันว่าผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง น.ส.พิมชฎาพร ถึงแก่ความตายจึงได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อ ร.ต.อ.ทรงกลด จากนั้นวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 128 แยก 7 หมู่บ้านเสนาวิลล่า ถ.แฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากระบุว่าผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี และไม่มีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงต่อพยาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังทางมารดาและทนายความของ ร.ต.อ.ทรงกลด ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว ร.ต.อ.ทรงกลด ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง โดยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มีการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราวนี้ จึงอนุญาตให้ประกันตัวตีหลักทรัพย์ 5 แสนบาทโดยไม่กำหนดเงื่อนไข
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รอง สว.สส.สน.วังทองหลาง ก่อเหตุฆ่า น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี ภรรยา ว่า คนอยู่ด้วยกันสองคนถามว่าถ้าปืนลั่นจริง จะมีความพยายามนำตัวส่งโรงพยาบาลหรือไม่ ตนขอตอบแบบตรรกะเลย
ส่วนการกำชับผู้บังคับบัญชาเรื่องการใช้อาวุธปืน ตนมองว่าตำรวจทุกนายรู้หลักการใช้ปืนอยู่แล้ว ในขณะเกิดเหตุเกิดบันดาลโทสะหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่การใช้อาวุธต่างๆ มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงรู้ ปืนขึ้นลำไว้ไหม แม็กกาซีนเป็นยังไง ลูกโม่เป็นยังไง ก็อยู่กันสองคนอีกคนหนึ่งตาย ตนก็ไม่รู้ว่าผีมันยิงหรือเปล่า จะเป็นการเจตนาหรือไม่อยู่ในการสอบสวน
"คดีไม่ได้สลับซับซ้อน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.และคณะสอบสวน บช.น.เรียกมาพูดคุยแล้วได้ให้การเป็นประโยชน์ ส่วนข้อสงสัยต่างๆ คงหนีนิติวิทยาศาสตร์ไม่ได้ คดีนี้ไม่เกินความสามารถของตำรวจ บช.น.แน่นอน" ผบ.ตร.กล่าว