ศาลอาญาให้ประกัน ร.ต.อ.ปืนลั่นใส่ภรรยาดับ เหตุไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และพนักงานสอบสวนไม่คัดค้าน โดยตีราคาประกัน 5 แสนบาท เจ้าตัวบอกสั้นๆ “เสียใจมาก ไม่ได้ตั้งใจ” ด้านญาติบอกจะไปร่วมงานศพ
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (23 มิ.ย.) ความคืบหน้ากรณี พ.ต.ท.สำรวย แสนสม พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ได้นำตัว ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง หรือ ผู้กองบอย รอง สว.สส.สน.วังทองหลาง อายุ 29 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาคดีทำปืนลั่นใส่ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี ภรรยาจนเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 128 แยก 7 หมู่บ้านเสนาวิลล่า ถ.แฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ มาฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญาเป็นเวลา 12 วัน ซึ่งชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยให้การว่าไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่เป็นอุบัติเหตุ
ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 แต่ไม่คัดค้านการประกัน เนื่องจากผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี และไม่มีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงต่อพยานซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมา มารดาและทนายความของ ร.ต.อ.ทรงกลด ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 500,000 บาท
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.50 น. ศาลอาญามีคำสั่งให้ประกันตัว ร.ต.อ.ทรงกลด เนื่องจากผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง โดยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มีการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราว จึงอนุญาตให้ประกันตัวตีราคาประกัน 5 แสนบาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ
ภายหลังได้รับการปล่อยชั่วคราว ร.ต.อ.ทรงกลด เดินทางออกจากห้องควบคุมโดยสวมหมวกแก๊ปสีน้ำตาล พร้อมหน้ากากอนามัย โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เพียงแต่ตอบนักข่าวว่า เสียใจ เสียใจมาก ไม่ได้ตั้งใจ พร้อมขึ้นรถยนต์สีขาวเดินทางออกไป
ด้าน นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ กล่าวว่า ผู้กองบอยติดต่อมาขอให้เป็นที่ปรึกษาการทำคดี จึงได้เดินทางมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (22 มิ.ย.) ไปที่ สน.ลาดพร้าว ซึ่งขณะนั้นผู้กองบอยอยู่ระหว่างการสอบปากคำ จนกระทั่งเวลาเที่ยงคืน ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ได้นำตัวผู้กองบอยไปชี้จุดประกอบการให้ปากคำ ที่บ้านพักจุดเกิดเหตุ ย่านบางกะปิ และนำตัวผู้กองบอยกลับมาสอบปากคำอีกครั้ง ที่ สน.ลาดพร้าว จนถึงเวลา 02.30 น.
ซึ่ง ผู้กองบอยไม่ได้มีเจตนาให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็มีอาการซึมเศร้าและเสียใจ เพราะเขารักลูกและภรรยา แต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งตนก็ให้คำปรึกษาว่าจะเอาอย่างไร โดยเขาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง และจะให้การตามข้อเท็จจริง ส่วนรูปคดีในอนาคตก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งเขาก็ให้การกับพนักงานสอบสวนตามรายละเอียด ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ชี้จุดเกิดเหตุ และก็ให้ความร่วมมือ
“เราเป็นนักกฎหมาย เขาเป็นตำรวจ ก็ต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมา ก็ปลอบก็ว่ากันตามกระบวนการ ตามข้อเท็จจริง ก่อนจะให้ปากคำก็คุยกันหลายรอบจนยุติว่าเป็นอย่างนี้” ทนายความระบุ
เมื่อถามว่า ร.ต.อ.ทรงกลด หรือ ผู้กองบอย ยืนยันว่า จะต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมใช่หรือไม่
นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า การที่เข้าไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และคำสั่งศาลในการอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งผู้ต้องหาเองให้การเชิงภาคเสธ ไม่ได้บอกว่าไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเลย ก็ยอมรับความจริงบางส่วน ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เจตนาหรือไม่ ก็ว่ากันตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งผู้กองเขาก็มีสิทธิ์พื้นฐานทางกฎหมายเหมือนคนอื่น เมื่อตกเป็นผู้ต้องหาก็มีสิทธิ์ที่จะมีทนายความให้คำปรึกษา
นายนิติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนครอบครัว พ่อแม่ของผู้กองบอยมาจากบ้านเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช เท่าที่คุยครอบครัวยังช็อก เพราะผู้เสียชีวิตเองก็เป็นลูกสะใภ้ที่ผูกพันกัน ซึ่งหลังจากนี้ครอบครัวก็จะไปร่วมงานศพผู้เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อและแม่ของ ร.ต.อ.ทรงกลด นั้น ยังอยู่ในอาการเครียดมาก และกล่าวสั้นๆ เพียงว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมพูดคุยหรือให้รายละเอียดอะไร แต่หากต้องการข้อมูลให้สอบถามจากทนายเพียงคนเดียว ส่วนตัวยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดอะไร โดยหลังจากนี้ ตั้งใจจะไปร่วมงานศพของฝ่ายหญิง แต่ขอให้จบเรื่องคดีความก่อน