ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีโอกาสจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ หลังหลายพรรคขยับตัวเตรียมความพร้อมกันหมด ภายหลังพรรคพลังประชารัฐ ปรับทัพนำร่องไปก่อนหน้า
ล่าสุดมีตัวเร้าใหม่ อย่างกรณี “หม่อมเต่า”ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ชนิดว่า จบไม่สวย
แน่นอนว่าการไขก๊อกพ้นตำแหน่งหัวหน้าพรรค ย่อมต้องมีผลกับตำแหน่งรัฐมนตรีที่กำลังนั่งอยู่ด้วย ตามกระแสข่าวว่า “ลุงกำนัน”สุเทพ เทือกสุบรรณ เจ้าของพรรคตัวจริง สนับสนุน "ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์" เต็มที่ ส่วน "นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม" อดีต ส.ส.พิษณุโลก ยังไม่ป๊อปปูล่าเท่าที่ควร
ดร.เอนก ชื่อชั้นไม่เป็นรอง "หม่อมเต่า" ภาพลักษณ์ ประสบการณ์ และการได้รับความยอมรับในแวดวงวิชาการมีค่อนข้างสูงเหมือนกัน
ขณะที่เรื่องการทำงานไม่มีปัญหา สังเกตว่าที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ดร.เอนก ค่อนข้างประนีประนอม ไม่ใช่สายสุดโต่ง ประกอบนักวิชาการคือ สเปกที่พล.อ.ประยุทธ์ นิยมชมชอบ เรียกว่า ตรงสเปก
แต่มาในโควต้า รปช.แล้ว จะได้อยู่ที่เดิมคือรมว.แรงงาน หรือไม่ ตรงนี้ไม่มีใครการันตี เพราะปัจจุบันสัดส่วนส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนไป มี ส.ส.จากฝ่ายค้านย้ายเข้ามาซบเพียบ จนเสียงในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้ปริ่มน้ำแล้ว
แกนนำรัฐบาลมีอำนาจต่อรองมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเกรงใจพรรคเล็กๆ ที่มีโควต้ารัฐมนตรีสักเท่าไหร่ ซึ่งมีข่าวว่า สุเทพเองก็รับรู้เรื่องนี้ว่า สถานะในคณะรัฐมนตรีของ รปช.ไม่สู้ดีนัก ช่วงนี้จึงพยายามวิ่งเข้าหาพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อรักษาโควต้าของตัวเองไว้ให้ได้
มีการคาดการณ์ว่า ต่อให้สุดท้าย รปช.ไม่ถูกดีดออกจากครม. แต่ก็คงไม่ได้เหมือนเดิม ดีไม่ดีอาจลดไปเหลือเพียงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการเท่านั้น ซึ่งสุเทพ กำลังต่อสู้อย่างหนัก
พรรคชาติพัฒนา ที่มีส.ส.น้อยกว่ารปช.ก็เสียวสันหลัง กลัว"เทวัญ ลิปตพัลลภ" จะปิ๋วเหมือนกัน หลังพรรคพลังท้องถิ่นไท กวาดส.ส.เข้ารังจนมีในมือมากกว่า ไหนจะมีพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ย้ายขั้วมารัฐบาลอีก งานนี้ผู้มากบารมีเมืองโคราช ต้องเหนื่อยหน่อย
ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มส.ส.ในสายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อเขย่าจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีเลยสักที่นั่ง แต่คงจะยาก เพราะวันนี้ผู้มากบารมีในพรรคอย่าง “นายหัว”ชวน หลีกภัย ยังให้การสนับสนุนจุรินทร์ เต็มที่อยู่
อีกทั้ง ส.ส.กลุ่มนี้ มักเป็นกลุ่มที่ชอบมาตีรวนใส่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ไม่ค่อยแฮปปี้กับพฤติกรรมเท่าไหร่ แถมการเป็นส.ส.ในสายอภิสิทธิ์ ที่ประกาศไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ต้น โอกาสจะได้นั่งในครม.มีน้อยมาก
และตราบใดที่ “นายหัวชวน”ยังให้การสนับสนุนจุรินทร์ การเขย่าก็ไม่ส่งผลใดๆ ยิ่งตอนนี้รัฐบาลมีเสียงในสภาฯที่ทิ้งห่างฝ่ายค้านจำนวนมาก การต่อรองลักษณะนี้ จึงไร้ประโยชน์
การปรับ ครม.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นในลักษณะของการสลับตัวผู้เล่น เปลี่ยนให้คนที่ยังไม่ได้เป็นเสนาบดี มีโอกาสมาทำงาน ต้องจับตาบรรดารัฐมนตรีช่วยว่าการของพรรค ที่มีรายงานว่าเปลี่ยนแปลงแน่นอน ยกเว้นบางคนที่เป็นสายแข็งอย่าง ถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ที่เก้าอี้แน่น
ส่วนฟากฝั่งพรรคภูมิใจไทย แม้หลายคนมองว่าจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่ม หลังใช้พลังดูดเก็บตก ส.ส.อนาคตใหม่ มาหลายชีวิต แต่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช้ตรรกะแบบนั้น ไม่เช่นนั้นจะเกิดการแข่งขันการดูดส.ส.เพื่อต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี
พรรคภูมิใจไทยเองก็ไม่ได้หวังจะได้เก้าอี้เพิ่มเท่าไหร่ แต่การกวาดต้อน ส.ส.เข้ารัง เพื่อต้องรักษาสิ่งที่มีอยู่ ไม่ให้ใครกล้าเข้ามาแตะต้องของเดิม ทั้งกระทรวงการคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข หรือพูดง่ายๆ คือไม่ให้เพิ่ม ก็อย่ามาลด อย่ามาขยับ
ด้านพรรคพลังประชารัฐนั้น การที่“บิ๊กป้อม”ลงทุนนั่งหัวหน้าพรรค ปรับโครงสร้างใหม่ ย่อมหมายถึงการจัดตัวผู้เล่นในครม.ที่จะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณาด้วย
คนที่พลาดหวังในครั้งก่อน มีโอกาสสมหวังในรอบนี้ทั้งหมด ทั้งอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท สุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี แต่จะได้ในสิ่งที่อยากได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ตามคิวที่ส่งสัญญาณไปยังพวกนักวิ่งแล้วว่า ไม่ต้องเสนอตัวมา เพราะจะเป็นผู้พิจารณาเอง
ในราย อนุชา ชั่วโมงบินสูงกว่า สุชาติ ดูแล้วน่าจะได้นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเล็กๆ ขณะที่สุชาติ อาจจะได้นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง
แต่เก้าอี้ที่คนจับตามองมากที่สุด เห็นจะเป็น รมว.พลังงาน ที่มีข่าวว่าพล.อ.ประวิตร รับปากจะให้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม โยกมานั่ง ทว่า ผ่านด่าน พล.อ.ประวิตรได้ แต่จะผ่านด่านพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เพราะตำแหน่งนี้หลายฝ่ายมองว่า คนที่พยายามอยากเข้ามาล้วนต้องการแสวงหาผลประโยชน์ ยิ่ง สุริยะ ติดลบเรื่องภาพลักษณ์ในสมัยไทยรักไทย โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ให้มีเหมือนกัน
พวกรัฐมนตรีว่าการคนอื่นๆ ในพรรคพลังประชารัฐ ที่ผลงานไม่เข้าตา ก็มีสิทธิ์จะถูกลดชั่นไปนั่งกระทรวงที่เล็กลง อย่าง ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามือไม่ถึง ไม่มีผลงานในกระทรวงศึกษาธิการ หรือ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่โดนโจมตีว่า วันๆ หมกหมุ่นแต่เฟกนิวส์ ยิ่งตอนนี้ “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดึง ส.ส.กทม.ไปตั้งกลุ่มใหม่ ทำให้สถานการณ์ไม่สู้ดี
รอบนี้ถือว่า ปรับใหญ่ เปลี่ยนกันหลายตำแหน่ง ตามฤกษ์สะดวกน่าจะอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม ไม่ปล่อยไหลไปถึงเดือนสิงหาคม
ยิ่งมีกรณี“หม่อมเต่า” ยิ่งต้องเร่งให้เร็วขึ้น